ทันทีที่ฮั่วหยุนเซียวและโอวจินเดินเข้ามายังประตูด้านหน้า พวกเขาต่างก็ได้รับความสนใจอย่างนับไม่ถ้วน
แม้ว่าหลายคนอยากได้ยศถาบรรดาศักดิ์ของตระกูลฮั่ว แต่ฮั่วหยุนเซียวนั่นเป็นคนแปลกที่แค่ได้ยินชื่อเสียงก็ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูดคุยด้วย
ฮั่วหยุนเซียวเดินตรงไปที่เฉินลี้ซาน พร้อมเอ่ยเรียก “คุณเฉิน”
เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้น ก็สามารถดึงดูดสายตานับไม่ถ้วนจากผู้คนได้แล้ว
ตัวตนของฮั่วหยุนเซียวเป็นยังไงน่ะเหรอ? เขาไม่เคยปรากฏตัวในงานเลี้ยงทั่วไปเลยสักครั้ง ทว่าเขาในตอนนี้กลับเข้าไปทักทายเฉินลี้ซานเป็นการส่วนตัวด้วย นี่ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเลยทีเดียว!
“คุณฮั่ว...บอสฮั่วมาแล้วเหรอ!” เฉินลี้ซานประหลาดใจมาก เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฮั่วหยุนเซียว ออร่าของชายหนุ่มคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ
ฮั่วหยุนเซียวพยักหน้าเล็กน้อย “เรื่องครั้งก่อน ผมต้องขอบใจคุณเฉินมากสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ”
“ไม่เป็นไร มันง่ายจนแทบไม่ต้องออกแรงเลย!” เฉินลี้ซานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณทำตัวตามสบายเลยนะ ผมขอตัวไปหาคุณปู่ที่ด้านหลังก่อน”
“เชิญครับ”
หลังจากที่เฉินลี้ซานออกไป ฝูงชนก็ร้องอุทานออกมา ฮั่วหยุนเซียวและโอวจินเบนสายตาตามเสียงร้องของฝูงชนไป จนเห็นสาวสวยในชุดสีฟ้าอ่อนกำลังเดินลงบันไดมา
หญิงสาวมีรูปร่างที่ผอมเพรียว ผมยาวของเธอม้วนงอเล็กน้อยอยู่ทางด้านขวา ใบหน้าซ้ายของเธอเหมือนดอกพีช ใบหน้างดงาม ดวงตาเยือกเย็นราวกับน้ำพุบนภูเขา ทำให้รู้สึกซึบซาบเข้าไปในหัวใจ
โอวจินแทบจะสำลักไวน์ “นี่ไม่ใช่...ไม่ใช่...คนที่นายรุนแรงขนาดนั้น…”
ก่อนที่จะได้ฟังจนจบประโยค ดวงตาของฮั่วหยุนเซียวก็ถูกปิดกั้นลงช้า ๆ
เฉินมู่ชำเลืองมองลงมาด้านล่าง และเห็นฮั่วหยุนเซียวที่ยืนโดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติได้ในแวบแรกที่ปรายตา เมื่อเห็นหนุ่มหล่อไม่มีใครเทียบที่ “ตกทุกข์ได้ยากร่วมกัน” เมื่อคืนนี้อยู่ตรงหน้าเธอ เท้าเล็กก็สะดุดกึกจนเกือบจะเหยียบเท้าตัวเอง
ขายาวของฮั่วหยุนเซียวก้าวฉับเข้าไปคว้าตัวเฉินมู่ไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เธอล้มต่อหน้าแขกบ้านแขกเรือน
เฉินมู่มองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮั่วหยุนเซียว พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม “สุดหล่อ ช่างเป็นพรหมลิขิตจริง ๆ !”
ฮั่วหยุนเซียวยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ลู่ซีเจ๋อที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ถามด้วยความโกรธว่า “เฉินมู่! นี่คุณกำลังทำอะไร?”
เฉินมู่มองย้อนกลับไปเพ่งใบหน้าของลู่ซีเจ๋อที่กำลังเปลี่ยนเป็นยักษ์สีเขียวด้วยความโกรธ แล้วทำทีพูดหน้าซื่ออยู่ข้างฮั่วหยุนเซียว ร่างบางเอียงตัวเล็กน้อย “ฉันทำอะไรเหรอ?”
“เฉินมู่ ตอนแรกผมไม่เชื่อที่ชิงเสวี่ยบอกว่าคุณออกไปดื่มกับผู้ชายมาเมื่อคืนนี้! แต่ตอนนี้คุณกลับสนิทสนมกับคนอื่นในที่สาธารณะ ผมคิดว่า ความรักที่คุณมีให้ผมมาตลอดมันแค่เรื่องหลอกลวงใช่ไหม! เรายังไม่ได้ถอนหมั้นกันเลย แต่นี่คุณ…”
ใบหน้าของลู่ซีเจ๋อเป็นสีเขียวเพราะความโกรธจัด
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเฉินมู่ แต่เฉินมู่ก็เป็นหนอนตามก้นของเขามาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าตอนนี้จะถอนหมั้นแล้ว เฉินมู่ก็ไม่ควรหาใครอื่นมาแทนที่เขาได้เร็วขนาดนี้!
เฉินชิงเสวี่ยดึงชายเสื้อผ้าของลู่ซีเจ๋อ พลางกระซิบเกลี้ยกล่อม “ซีเจ๋อ คุณไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องของเมื่อคืนพี่ก็ได้พูดไปแล้ว จริง ๆ คือ… ”
ฮั่วหยุนเซียวถามทันที “เมื่อคืนนี้ เธอพูดว่าอะไรเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำถามของฮั่วหยุนเซียวแล้ว เฉินชิงเสวี่ยก็ยกยิ้มพอใจ เธอแสร้งหวาดกลัวและไม่กล้าพูด เสียงเล็กเอ่ยตะกุกตะกัก “พี่สาวของฉันบอกว่า เธอได้กับผู้ชายคนอื่นเมื่อคืนนี้…”
“อะแฮ่ม!” เฉินมู่ไอเสียงดัง หวังให้เฉินชิงเสวี่ยคนบ้าคนนี้หยุดพูดเรื่องไร้สาระเสียที
ลู่ซีเจ๋อโต้กลับด้วยสีหน้าเย็นชา “กระแอมทำไมมิทราบ? แล้วยังจะทำหน้าทำตาแต่ไม่พูด? เมื่อคืนคุณพูดเองไม่ใช่เหรอ?”
“ห๊ะ” โอวจินถึงกับสำลักไวน์
ฮั่วหยุนเซียวหันไปมองเฉินมู่ เสียงเข้มถามอย่างสบาย ๆ “ขนาดนั้นเลย?”
เฉินมู่หน้าแดง เธอมองลู่ซีเจ๋อพลันเอ่ยโต้ตอบ “ลู่ซีเจ๋อนี่หัวดีจังเลยนะ ช่างน่าประทับใจซะจริง!”
พูดจบร่างบางก็ดึงฮั่วหยุนเซียว แล้วลากเขาไปที่สวนเล็ก ๆ นอกห้องจัดเลี้ยง
ฮั่วหยุนเซียวปล่อยให้เฉินมู่ดึงตัวเองออกไป มือเล็กๆ อันอบอุ่นของหญิงสาวจับมือหนาของเขาแน่น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รังเกียจเมื่อถูกผู้หญิงสัมผัส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่