เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 2

สรุปบท เล่ม 2 บทที่ 85.1: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เล่ม 2 บทที่ 85.1 – ตอนที่ต้องอ่านของ เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

ตอนนี้ของ เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง เล่ม 2 บทที่ 85.1 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หลังจากเดินทางมาถึงงานเลี้ยงฟีเรนเทียก็ตั้งใจว่าจะอยู่เงียบๆ ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

พยายามเก็บซ่อนตัวตนให้ได้มากที่สุด และคอยเฝ้าจับตามองท่าทีของเวสติน

เพื่อที่จะได้เป็นพยานเห็นฉากตรงหน้านี่ยังไงล่ะ

ฟีเรนเทียเห็นสายตาของเวสตินจับจ้องอยู่ที่มาเรีย แพทโทรนที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ละสายตา

เจ้านั่นตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

ดูจากที่ตกใจมากเสียจนถึงขนาดหยุดชะงักฝีเท้า

“…เวสติน?”

พอเห็นว่าสามีของตนจู่ๆ ก็หยุดเดิน ชานาเนสที่คล้องแขนเดินไปพร้อมกันก็เอ่ยเรียกเขาด้วยความสงสัย

“อืม…”

ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดไม่สมกับเป็นเวสตินที่มักจะหน้าด้านและผ่อนคลายอยู่เสมอเลยแม้แต่น้อย

ถ้าหากเวสตินนอกใจจริงๆ ก็สมควรแล้วที่เขาจะเป็นเช่นนั้น

ในเมื่อภริยากับชู้รักดันมาอยู่ในสถานที่เดียวกันแบบนี้นี่นะ

ป่านนี้เหงื่อเย็นเฉียบคงจะไหลท่วมแผ่นหลังไปแล้วละ

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ หรือรู้สึกไม่สบายตรงไหน”

ชานาเนสถามสามีด้วยความเป็นห่วง

“เปล่า…แค่รู้สึกเหมือนเห็นคนรู้จักน่ะ”

ยิ่งเวสตินเอ่ยเช่นนั้น ชานาเนสก็ยิ่งเอียงคอด้วยความสงสัย

“ถ้ามีคนที่คุณไม่รู้จักอยู่ที่นี่ ยังน่าทึ่งกว่าอีกนะ ใครเหรอคะ”

“ปะ…เปล่าครับ คุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจหรอกครับ”

แต่ชานาเนสกำลังหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ เสียแล้วและยังชี้ตรงไปที่มาเรีย แพทโทรนอย่างแม่นยำ ในขณะที่เอ่ยพูด

“หรือจะเป็นผู้หญิงคนนั้นคะ”

“อา คือว่า…”

และในตอนนั้นเองก็เกิดเรื่องที่ทำให้เวสตินยิ่งต้องอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกเข้าไปใหญ่

มาเรีย แพทโทรนสังเกตเห็นชานาเนสกับเวสติน นางเริ่มเดินตรงมาทางด้านนี้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาล

นางเป็นเพียงหญิงสาวหน้าตาดาษดื่นทั่วไป ไม่ได้มีสิ่งใดน่าดึงดูดใจเป็นพิเศษ

แต่ฟีเรนเทียไม่คิดที่จะลดการ์ดในใจลงหรอก

ใบหน้ายิ้มแย้มกับแววตาระยิบระยับที่ไม่ได้เหมาะกับเจ้าตัวเลยนั่น มันเป็นแววตาคลับคล้ายกับแววตาของเวสตินที่เธอบังเอิญเห็นเมื่อครั้งก่อน ทำให้เธอรู้สึกตงิดใจมากพอควร

ตึก ตึก

ยิ่งผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่าไหร่ ใบหน้าของเวสตินก็ยิ่งกระตุกเกร็งมากขึ้นเท่านั้น

ฟีเรนเทียเองก็พยายามเก็บซ่อนตัวตนให้มิดชิดยิ่งขึ้น

ที่เธอตั้งใจเรียกผู้หญิงคนนี้มาร่วมงานเลี้ยงที่ท่านปู่ รวมถึงคนของตระกูลลอมบาร์เดียต่างก็มาร่วมงานกันทั้งหมดนี่ก็เพื่อกดดันเวสตินทางจิตวิทยา และเพื่อที่ว่าถ้าหากเรื่องแดงออกไป ท่านปู่ก็จะได้รู้ความจริงในทันที

แต่ว่า…

แต่ก็นะ การที่ชู้รักจะกล้าเสนอหน้าทักทายครอบครัวของภริยาอีกฝ่ายอย่างมั่นอกมั่นใจขนาดนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วด้วย

ใบหน้าที่ซีดเผือดจนถึงเมื่อครู่เองก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว

ถึงจะรู้สึกผิดหวัง แต่ก็รู้สึกโล่งใจอยู่เหมือนกัน

ฟีเรนเทียรู้อยู่แล้วว่าเขาแอบร่วมมือกับพวกอังเกนัส สร้างเรื่องลับหลังพวกเรา แต่อย่างน้อยชีวิตแต่งงานของชานาเนสก็ไม่ได้ถูกลอบแทงข้างหลัง

“ท่านชานาเนสใช่มั้ยคะ ในเขตแดนชูลส์ต่างก็สรรเสริญเยินยอท่านชานาเนสมากทีเดียว ทำให้รู้สึกสงสัยมาตลอดเลยค่ะ ว่าเป็นคนแบบไหน…”

มาเรีย แพทโทรนเป็นฝ่ายชวนชานาเนสสนทนาอย่างสนิทสนม

“งดงามเหมือนอย่างในข่าวลือเลยนะคะเนี่ย”

“เหรอคะ ขอบคุณที่ชมนะคะ”

ชานาเนสรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่เหมือนกัน แต่นางก็ยังยกยิ้มตามมารยาทในขณะที่เอ่ยพูดตอบกลับไป

“…ไม่หรอกค่ะ”

แต่สายตาของมาเรีย แพทโทรนที่เหลือบมองชานาเนสเป็นครั้งสุดท้ายนั่น มันกลับดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

ท่าทางแตกต่างจากคำพูดที่พูดออกจากปากอย่างสิ้นเชิง

มีอะไรแปลกๆ

มาเรีย แพทโทรนกับเวสตินต่างก็ทำท่าราวกับเพื่อนที่บังเอิญพบหน้ากัน หลังจากที่ไม่ได้พบหน้ากันเสียนาน

แต่มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆ

ลางสังหรณ์ของฟีเรนเทียเริ่มทำงานอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]