รู้สึกได้ว่าอาสทันลีอูที่ผงะถอยไปด้านข้างด้วยความตกใจ ก้าวเท้าเข้ามาพยายามจะเข้าไปช่วย เธอจึงหันไปมองทางด้านนั้นโดยไม่พูดอะไร สายตาจับจ้องอยู่ที่ไอ้อาสทัลลีอูเพียงแค่นั้นอาสทัลลีอูผู้แสนขี้ขลาดก็หวาดกลัวเสียจนหยุดชะงักฝีเท้า
ส่วนเธอที่จ้องเขม็งอยู่นั้น ตั้งใจจะบอกให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าจงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างว่าง่ายเสีย จากนั้นก็ถือหนังสือเดินเข้าไปใกล้เบเลซักที่ยังคงกลิ้งอยู่บนพื้น
“ไอ้สุนัขไร้มารยาท”
ไม่ใช่คำพูดที่ผิดนัก
นิสัยของเขาไม่ได้ต่างอะไรจากเบเจอร์ผู้เป็นพ่อเลยสักนิด เพราะมันเป็นพวกขี้ขลาด เอาแต่หลบอยู่หลังคนอื่นและเป็นพวกคนเลวที่เธอมักสาปแช่งลูกชายของเจ้านั่นอย่างเบเลซักหรือไอ้สุนัขเวรตะไลนี่บ่อยจนเหมือนกินของว่างหลังอาหาร
สุนัขน่ะถูกแล้ว
ลูกสุนัขเพิ่งลืมตาเกิดขึ้นมาบนโลก ลูกสุนัขที่ไม่รู้จักว่าอะไรที่มันสมควรจะหวาดกลัว
นิสัยเสีย ๆ ของเจ้า ข้าจะเป็นคนดัดให้เอง
“จะ…เจ้า ยายบ้า!”
ขนาดเจ็บจนตกใจขนาดนั้น ปากก็ยังใช้งานได้จนพูดพล่ามไม่หยุด ท่าทางโดนตีอีกก็คงจะไม่เป็นอะไรสินะ
เธอเริ่มใช้หนังสือเล่มที่ถืออยู่ฟาดลงบนไหล่กับแขนของเบเลซัก
มันเป็นหนังสือที่ค่อนข้างหนาพอควร ก็น่าจะเจ็บอยู่หรอก
“อ๊าก! อ๊ากกกก!”
“เอาแต่เรียกว่าเลือดผสม! เลือดผสม! เจ้าก็น่าจะเตรียมใจโดนเลือดผสมที่โกรธตีบ้างสิ!”
“อะ…อาสทัลลีอู! เจ้ามัวทำอะไรอยู่! อ๊าก! เอาเจ้าคนชั้นต่ำนี่ออกไป! อ๊ากกกก!”
เบเลซักกรีดร้องเรียกอาสทัลลีอูอย่างสิ้นหวัง แต่เด็กที่โตแต่ตัว ส่วนความกล้ามีเพียงน้อยนิดก็ทำได้แค่ยืนตัวสั่นเทาไม่หยุดเท่านั้น
ช่วยไม่ได้อย่างไรก็เป็นแค่เด็กที่อายุแค่แปดขวบนี่นะ
“เจ้า! เพราะเจ้า! ข้าต้องลำบากมากแค่ไหน! เจ้ารู้มั้ย!”
เมินเฉยมือที่พยายามผลักไส เธอเอาแต่ตีเบเลซักด้วยหนังสือไม่ยอมหยุด
“แฮกแฮก!”
ขนาดแกว่งแขนตีแค่ไม่กี่ครั้ง ร่างเด็กตัวเล็กๆ นี่ก็หอบหายใจแฮก แขนหมดเรี่ยวหมดแรงเสียแล้ว
ถ้าเบเลซักยังคงขัดขืนต่ออีก เธอคงได้โดนเขาผลักออกมาแน่ แต่โล่งอกที่เธอยังปลอดภัยดี
แต่เจ้าเด็กนี่เริ่มร้องไห้แล้ว
“ฮือ! แง ช่วยด้วย!”
เสียงร้องดังลั่นเสียจนทำเอาหูร้องจี๊ดไปหมด
และในตอนนั้นเอง
ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกพรวด พร้อมกับเสียงคำรามด้วยความโกรธ
“เอะอะอะไรกัน!”
ผมขาวโพลนที่ถูกหวีจัดทรงอย่างเป็นระเบียบกับเครายาวราวกับแผงคอราชสีห์ ชายวัยกลางคนที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่
“ทะ…ท่านปู่”
คนที่กำลังมองเบเลซักที่นอนอยู่บนพื้นกับเธอที่ใช้หนังสือตีอยู่เหนือกายเด็กนี่ด้วยสายตาขุ่นมัวก็คือท่านปู่ หรือเจ้าตระกูลลอมบาร์เดีย รูลลัก ลอมบาร์เดีย
“เบเลซัก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...