สรุปตอน ตอนที่ 31.2 – จากเรื่อง เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดย Internet
ตอน ตอนที่ 31.2 ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
หัวใจเต้นโครมคราม
ฟีเรนเทียกำชามขนาดเท่าฝ่ามือเอาไว้ สูดลมหายใจเข้าอย่างเชื่องช้าถึงแม้จะมีฝาปิดอยู่ แต่กลิ่นของใบฮิปซีย์กลับกระตุ้นจมูกอย่างรุนแรง
“ลองเปิดนะ”
เอสทีร่าพยักหน้าเล็กน้อย เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ
แกรก
เสียงแผ่วเบาดังขึ้นพร้อมกับฝาที่ถูกเปิดออก เผยให้เห็นยาบรรเทาอาการปวดเข้มข้น
เธอลองใช้นิ้วแตะดูอย่างระมัดระวัง
ผิวหน้าหนืดมีความเด้งหยุ่นเล็กน้อย เกิดรอยบุ๋มเป็นรูปนิ้วยามเธอจิ้มนิ้วลงไป
คราวนี้เธอลองใช้ยาบรรเทาอาการปวดที่เลอะติดปลายนิ้วทาลงบนหลังมือ
ขี้ผึ้งใส่น้ำมันพืชละลายตัวที่อุณหภูมิร่างกายช่วยทำให้เกลี่ยมันลงบนผิวได้อย่างอ่อนโยน
ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอุ่นร้อนเล็กน้อย คล้ายกับความรู้สึกอ่อนโยนแผ่ซ่านไปทั่วผิว
“…ได้แล้ว”
สมบูรณ์แบบมาก
“ข้าลองใช้ติดต่อกันห้าวันบนตำแหน่งเดียวกันดูเผื่อไว้น่ะค่ะ”
เอสทีร่ายื่นข้อมือของตัวเองให้เธอดูพลางเอ่ยพูด
“อาการปวดเมื่อยที่ข้อมือหายดีแล้ว และผิวก็ดูดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจทีเดียวค่ะ ดูเหมือนจะให้ประสิทธิภาพทางด้านนั้นด้วยค่ะคุณหนู”
เมื่อลองเปรียบเทียบกับข้อมือข้างที่ไม่ได้ทาอะไรเลย มันให้ความรู้สึกเนียนลื่นอย่างน่าประหลาดใจตามที่เอสทีร่าบอก
เธอปิดฝายาขี้ผึ้งบรรเทาปวดอีกครั้ง ก่อนจะวางมันลงด้วยความนุ่มนวล แล้วเอ่ยถามเอสทีร่า
“เอสทีร่า มีอะไรที่อยากได้บ้างมั้ย”
เอสทีร่าส่ายหน้าเงียบๆ ให้กับคำถามไม่มีปี่มีขลุ่ยของเธอ
“ลองคิดดูให้ดี ไม่ต้องสนใจเรื่องราคา เอาของที่จำเป็นสำหรับเอสทีร่าน่ะ”
“มะ…ไม่สนใจราคาเหรอคะ”
เอสทีร่าครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยความระมัดระวัง
“ถ้าอย่างนั้น…อยากจะได้…บ้านหลังเล็กๆ ในเมืองลอมบาร์เดียสักหลังค่ะ”
เอสทีร่าเกาแก้มแกรกๆ ดูเหมือนพูดออกมาแล้วจะรู้สึกเขินอายอยู่บ้าง
“เหรอ เข้าใจแล้ว”
“ว่าแต่คุณหนูทำไมจู่ๆ ถึงได้ถามอะไรแบบนั้น…”
“ยาขี้ผึ้งบรรเทาอาการปวดนี่น่ะ จะเอาไปเปลี่ยนเป็นแค่ใบแนะนำสองใบกับทุนการศึกษา มันน่าเสียดายมากเกินไป”
“คะ…แค่เหรอ…”
คำพูดกล่าวชมบุตรของตน ไม่ว่าจะได้ยินจากใครเมื่อไหร่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีทั้งสิ้น
โบรชูลมองรูลลักที่เป็นเช่นนั้นแล้วหัวเราะตามไปด้วย
“ว่าแต่วันนี้เรียกข้ามาทำไมหรือครับ”
“อา เรื่องนั้น พอดีมีเด็กอยากจะขอให้ข้ากับเจ้าช่วยเขียนใบแนะนำให้น่ะสิ”
รอบนัยน์ตาของรูลลักปรากฏริ้วรอยลึกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยามที่ยิ้มกว้างเมื่อจู่ๆ ก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมา ตอนนี้มุมปากของเขาเชิดขึ้นจนจะฉีกกว้างถึงใบหูอยู่แล้ว
พวกเขารู้จักกันมาได้กว่าสามสิบปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นภาพผ่อนคลายเช่นนี้ของรูลลัก
โบรชูลเอียงคอด้วยความงุนงง
ในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียง ก๊อกๆ ของเสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียงเบา
รูลลักตอบกลับไปว่า ‘เข้ามาได้’ คล้ายกับกำลังรอคอยอีกฝ่ายอยู่แล้ว
ประตูถูกเปิดออก บุคคลตัวเล็กที่ได้เห็นนั้นทำให้โบรชูลคิดว่านี่มันเรื่องล้อเล่นอันใดกัน
“สวัสดีค่ะ!”
คนที่โค้งศีรษะทักทายก็คือฟีเรนเทีย หลานสาวอายุแปดขวบของรูลลักนั่นเอง
Related
Related
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...