เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 31

สรุปบท ตอนที่ 31.1: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

ตอน ตอนที่ 31.1 จาก เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 31.1 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 31.1
ตอนที่ 31.1

บทที่ 31

“เอสทีร่า มาทางนี้สักครู่สิ”

เอสทีร่าที่กำลังจดบันทึกการรักษาของคนไข้ที่เพิ่งกลับออกไปเมื่อครู่ลุกขึ้นยืน เมื่อได้ยินเสียงเรียกของดอกเตอร์โอมัลลี่ผู้เป็นอาจารย์

ดอกเตอร์โอมัลลี่ไม่ใช่อาจารย์ที่น่ากลัวหรือเข้มงวดอะไรนัก แต่วันนี้ไม่รู้ว่าทำไม สีหน้าถึงได้ดูไม่ค่อยจะดีนัก

เอสทีร่าลอบสังเกตพลางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกายดอกเตอร์โอมัลลี่อย่างเงียบๆ

“ได้ยินเรื่องคร่าวๆ จากเจสันแล้ว และเท่าที่เห็นก็ดูเหมือนว่าช่วงนี้เจ้ากำลังหลอมอะไรแปลกๆ”

“อา…”

เอสทีร่าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากกว่านั้นก็พอจะคาดเดาได้ว่าดอกเตอร์โอมัลลี่ต้องการจะพูดอะไร เธอจึงตั้งใจจะอธิบายออกไปด้วยความร้อนรน

แต่ดอกเตอร์โอมัลลี่กลับชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“ล้มเลิกความตั้งใจเสียเถอะ”

“อะ…อาจารย์”

เอสทีร่าเบิกตากว้างมองดอกเตอร์

ทว่าดอกเตอร์โอมัลลี่กลับเพียงแค่ส่ายศีรษะเท่านั้น

“ข้ารู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ ที่เจ้าเหมือนจะเล่นไปทั่วเพราะคำยั่วยุของคุณหนูฟีเรนเทียที่ยังเด็ก เอสทีร่า”

“คำยั่วยุเหรอคะ”

“เด็กอายุแค่แปดขวบจะไปรู้อะไรได้ ถึงแม้จะรู้ว่าเจ้าก็แค่ทะเยอทะยานมากจนวิ่งเต้นเพียงแค่เพราะคำยั่วยุแบบนั้นก็เถอะ”

ดอกเตอร์โอมัลลี่กำลังตำหนินาง

ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นเสียงสูงหรือทำหน้านิ่วอย่างเปิดเผย แต่เอสทีร่าก็สามารถรับรู้ได้อย่างเพียงพอ

“ไม่นะคะ อาจารย์! คุณหนูฟีเรนเทียตั้งใจจะช่วยข้าจริงๆ ค่ะ!”

เอสทีร่าโมโหอย่างหาได้ยากในขณะที่พูดประท้วง

เธอไม่สนใจหากใครจะสมเพชตัวเอง แต่เธอไม่อาจทนได้ถ้ามีใครพูดถึงคุณหนูฟีเรนเทียแบบนี้

“ตั้งใจจะช่วยข้าจากใจจริง…”

“เฮ้อ เอสทีร่า”

ดอกเตอร์โอมัลลี่ถอนหายใจราวกับพื้นถล่มปลายหางเสียงได้ยินเสียงเดาะลิ้นจิ๊จ๊ะดังแว่วในลำคอ

“ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้าที่ทะเยอทะยานอยากจะไปอะคาเดมี แต่ปีนี้ยอมแพ้แค่นี้เถอะ”

ดอกเตอร์โอมัลลี่เกลี้ยกล่อมให้ล้มเลิกความตั้งใจเป็นครั้งที่สอง

“ทั้งหมดที่ข้าพูดก็เพื่อตัวเจ้าเองทั้งนั้น”

พูดเพื่อตัวเธอเองจริงๆ น่ะเหรอ

เอสทีร่าก้มหน้านิ่ง พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกสงสัยในตัวอาจารย์ของตน

“อีกอย่างข้าก็เขียนใบแนะนำให้แก่เจสันไปแล้วไม่ใช่หรือไง จะมีใครช่วยเขียนใบแนะนำให้เจ้าได้อีก..”

ดอกเตอร์โอมัลลี่ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมเอสทีร่าต่อ

“อย่าโลภมากนักเลย รอไปก่อนเถอะ แล้วเช่นไรปีหน้าข้าจะช่วยเขียนใบแนะนำให้เจ้าเอง”

ต่อให้อีกฝ่ายบอกว่าเธอโลภมากเธอก็ไม่มีคำพูดอะไรจะโต้แย้ง

เอสทีร่ากัดริมฝีปากล่างแน่น

ตัวเธอที่เป็นเพียงแค่สามัญชนบ้านนอกคนหนึ่ง แค่มาได้ถึงจุดนี้ ก็แทบจะไม่ต่างอันใดจากปาฏิหาริย์แล้ว

ได้มีหน้าที่การงานรักษาโรคภัย ในขณะเดียวกันก็สามารถหาเงินได้ทั้งยังได้โอกาสในการเรียนรู้ด้านการหลอมโอสถภายใต้การทำงานรักษาผู้คนในลอมบาร์เดียที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

ดังนั้นที่ดอกเตอร์โอมัลลี่พูดก็ถูกต้องแล้ว

หากยังคิดต้องการตำแหน่งนักวิจัยของอะคาเดมีอีก ก็สมควรแล้วที่จะโดนตำหนิว่าโลภ

เอสทีร่าเองก็เข้าใจสายตาที่เต็มไปด้วยคำตำหนิของดอกเตอร์เป็นอย่างดี

“อาจารย์”

เอสทีร่าเอ่ยพูดเสียงแผ่ว

ตอนที่นึกถึงนิสัยทึ่มทื่อของเอสทีร่า เขาคิดว่าแค่พูดไม่กี่คำ อีกฝ่ายก็คงจะยอมล้มเลิกความตั้งใจในการไปสถาบันศึกษาอย่างว่าง่าย

“คิดให้ดี”

ดอกเตอร์โอมัลลี่มั่นใจว่า เขาพูดถึงขนาดนี้แล้ว เอสทีร่าคงจะพับเก็บความดื้อรั้นนั่นกลับไปแน่

ภาพของเด็กสาวที่ลังเลไปครู่หนึ่ง ทำให้เขาคิดว่าแค่นี้ก็คงจะเรียบร้อยแล้ว

แต่ราวกับโกหก เพียงไม่นานเอสทีร่ากลับพยักหน้าตกลง

“ค่ะ อาจารย์ ขอโทษด้วยค่ะ ข้าเชื่อคุณหนูฟีเรนเทียค่ะ”

“เหอะ! จริงๆ เลย”

ดอกเตอร์โอมัลลี่พูดอะไรไม่ออก

เขาคิดแค่ว่า เอสทีร่าเมื่อลุ่มหลงในอะไรก็ยึดติดอยู่กับสิ่งนั้นมากเสียจริง

เขามองเอสทีร่าด้วยความไม่พอใจ เดาะลิ้นเสียงดัง

อย่างไรตั้งแต่แรกมันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

เชื่อคำพูดของเด็กอายุแค่แปดขวบ ขนาดคำพูดของอาจารย์ก็ยังไม่สนใจช่างโอหังอะไรขนาดนั้น

ดอกเตอร์แอบคิดในใจว่า เอาไว้เขาจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างลดเงินเดือนในภายหลังเสียเลย

“เจ้าดึงดันจะทำให้ข้าลำบากใจจนถึงที่สุดจริงๆ สินะ”

“คะ? ทำให้ลำบากเหรอคะ”

เอสทีร่าเอียงคอด้วยความงุนงง แต่ดอกเตอร์โอมัลลี่กลับหันศีรษะหนี เอ่ยพูดเสียงเย็นชา

“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ไปได้แล้ว”

คำขับไล่อย่างเย็นชาทำให้เอสทีร่าได้แต่โค้งศีรษะกล่าวลาอย่างช่วยไม่ได้ แล้วเดินหันหลังกลับออกมา

ทว่าความรู้สึกไม่สบายใจที่เอาแต่รู้สึกไม่หยุดในซอกมุมหนึ่งของหัวใจนี่มันช่วยไม่ได้จริงๆ

Related

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]