เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 4

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 4.1
ตอนที่ 4.1

บทที่ 4

“เตะด้วยเท้าจนล้มหลังจากนั้นก็ยังใช้หนังสือตี…”

ช่างเป็นคำพูดบ้าบอเสียจนเธออยากจะกระโดดเต้นเร่าๆ บิดเบือนความจริงอย่างชาญฉลาด แถมยังโกหกหน้าตายอีกแต่ก็น่าตกใจเหมือนกันที่อาสทัลลีอูมีสมองมากพอที่จะทำเรื่องแบบนั้นด้วย

ถึงฟีเรนเทียอยากจะกรีดเสียงร้องตะโกนออกไปอย่างที่ใจคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องโกหก แต่เธอต้องอดกลั้นเอาไว้ กลับกันเธอเลือกที่จะหันไปมองท่านปู่ด้วยนัยน์ตาโกรธเคือง แทนความหมายว่า ‘ข้ามีเรื่องจะพูดค่ะ!’

“…”

ท่านปู่เหลือบมองเธอครั้งหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปถามอาสทัลลีอูอีกครั้ง

“จะบอกว่าฟีเรนเทียลงมือตีเจ้ากับเบเลซักโดยไม่มีเหตุผลอย่างนั้นหรือไง”

“ระ…เรื่องนั้น…”

น่าสมเพชที่อาสทัลลีอูไม่ได้มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดีขนาดพูดโกหกได้ในทันที

ถึงแม้จะเป็นเชื้อสายตรงของลอมบาร์เดียก็เถอะ ถ้าเรื่องใช้ร่างกายเจ้าทึ่มนี่อาจจะพอใช้การอะไรได้บ้างแต่เรื่องที่ต้องใช้หัวสมองนี่ถือว่าสิ้นหวังมาก

“เดิมทีฟีเรนเทียก็เกลียดพวกเราอยู่แล้ว…”

เบเลซักรู้สึกได้ถึงวิกฤต จึงรีบพูดเสียงดังแทนอาสทัลลีอูที่เอาแต่เงอะงะ

เธอยกยิ้มมุมปากโดยไม่พูดอะไร…

“อย่าแทรกบทสนทนาของคนอื่น เบเลซัก”

เพราะเขาทำในสิ่งที่ท่านปู่เกลียดที่สุดยังไงล่ะ

เหตุผลที่เธอเอาแต่อดกลั้น ไม่กรีดเสียงร้องตะโกนด้วยความผิดหวังจนถึงตอนนี้ก็เป็นเพราะเรื่องนั้นเช่นกัน

“ไปเรียนรู้มารยาทต่ำทรามเช่นนี้มาจากที่ไหน”

คำตำหนิอย่างรุนแรง ทำให้น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วเอ่อคลอขึ้นมาบนนัยน์ตาของเบเลซักอีกครั้ง แต่เบเลซักคงจะกลัวท่านปู่มากเสียจนไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงสะอื้นออกมาให้ได้ยิน

“พูดต่อสิ อาสทัลลีอู”

คราวนี้อาสทัลลีอูกระวนกระวายใจมากจนถึงขีดสุดแล้ว

เด็กที่เมื่อครู่ไม่สามารถหาข้ออ้างที่เหมาะสมได้ ตอนนี้กำลังฝังใบหน้าลงบนเสื้อของพ่ออย่างลอเรนซ์ เริ่มส่งเสียงร้องไห้โฮเสียแล้ว

ก็นะ…มันเป็นปฏิกิริยาทั่วไปของเด็กๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านปู่อยู่แล้วนี่นา

คาริสม่าอันแสนยิ่งใหญ่ของรูลลัก ลอมบาร์เดีย ขนาดผู้ใหญ่ปกติยังกลัวจนตัวสั่นได้เลย พวกเด็กๆ ตระกูลลอมบาร์เดียที่เห็นท่านปู่มาตั้งแต่เล็กต่างก็พูดกันเช่นนั้น ดังนั้นคนส่วนใหญ่ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาท่านด้วยซ้ำไป

“ฟีเรนเทีย”

พอท่านปู่เรียกชื่อเธอ ก็รู้สึกได้ว่าแรงจากมือของท่านพ่อที่จับไหล่ของเธออยู่เริ่มเกร็งขึ้นมา

“เจ้าลองเล่ามา”

ถึงจะถามออกมาแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่าท่านปู่จะไม่ได้คาดหวังอะไรจากเธอเลย

แน่นอนอยู่แล้ว

เพราะเธอคนเดิม ฟีเรนเทียน่ะ เป็นพวกขี้กลัว ทั้งยังเป็นเด็กที่ขี้ขลาดมากทีเดียว

นิสัยที่ได้รับสืบทอดจากท่านพ่อ ยิ่งโดนพวกลูกพี่ลูกน้องนิสัยเลวทรามพวกนั้นกลั่นแกล้งก็ยิ่งเป็นหนักมากขึ้นไปอีก แต่เธอก็มองสบนัยน์ตาทั้งสองของท่านปู่ตรงๆ ในขณะที่เอ่ยพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]