เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 6

เล่ม 6 บทที่ 214.1

ตอนที่ 214

“ถึงแม้สถานการณ์จะเอื้อประโยชน์ให้กับทางฝั่งเจ้าชายลำดับที่สองก็เถอะ แต่สุดท้ายการตัดสินใจทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับองค์จักรพรรดิอยู่ดีนะครับ”

เจ้าตระกูลเบรย์ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ มาตลอดกล่าวขึ้น

“อีกอย่าง ต่อให้อำนาจของอังเกนัสถูกบั่นทอนลงไปเพราะเขตแดนในมือลดลงก็จริง แต่อย่างไรตัวแทนเขตแดนตะวันตกก็ยังคงเป็นอังเกนัสไม่ใช่หรือครับ”

“ข้าเองก็คิดเช่นเดียวกันครับ”

เจ้าตระกูลเฮย์ลิ่งออกตัวเห็นด้วยกับคำพูดดังกล่าว

“หากปัจจุบันเขตแดนในครอบครองของอังเกนัสกับบราวน์มีขนาดใหญ่พอๆ กันแล้วละก็ ฝ่าบาทจะต้องถือข้างอังเกนัสแน่ครับ”

ต่อให้บรรยากาศในที่ประชุมจะดูคล้ายกับทุกคนเริ่มเอนเอียงมาทางฝ่ายพวกเรา แต่ถึงอย่างไรอังเกนัสก็เป็นถึงตระกูลของจักรพรรดินี

“ไม่หรอกค่ะ ตัวแทนเขตแดนตะวันตกจะต้องถูกเปลี่ยนมือแน่ๆ”

และมันจะเกิดขึ้นในการประชุมใหญ่คราวนี้อย่างแน่นอน แต่เจ้าตระกูลเฮย์ลิ่งกลับส่ายหน้าไม่เชื่อคำพูดของเธอ

“ในสถานการณ์ตอนนี้คงจะยากครับ ท่านฟีเรนเทีย”

ถึงแม้จะฟังดูสุภาพ ทว่าคำพูดนั้นค่อนข้างหนักแน่นพอควร

“ก็บอกแล้วไงคะว่าต้องเปลี่ยน”

“ก็บอกแล้วไงครับว่าคงยาก”

“โอ๊ย จริงๆ เลย มันต้องเปลี่ยนแน่นอนอยู่แล้วละค่ะ”

“ก็บอกแล้วไงครับว่ามันยากน่ะ!”

โอ๊ย เริ่มรำคาญแล้วนะ

เธอแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา

“ถ้าอย่างนั้น พนันกับข้ามั้ยล่ะคะ ท่านเจ้าตระกูลเฮย์ลิ่ง”

“อะ…เอาสิครับ!”

พอบรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ เจ้าตระกูลใต้บังคับบัญชาท่านอื่นๆ ต่างก็เริ่มต้นถามคำถามกับเธออย่างอิสระ

“ถ้าอย่างนั้นนอกจากตะวันตกแล้ว ขอฟังความเห็นของท่านฟีเรนเทียเกี่ยวกับเรื่องของภาคอื่นๆ ได้มั้ยครับ”

เจ้าของคำถามนั้นคือ โรมาเชียร์ ดิลลาร์ด

สมแล้วที่เป็นบุคคลผู้บริหารจัดการกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียที่มีสาขามากมายทั่วอาณาจักร เขาเป็นคนรู้จักมองภาพรวมกว้างกว่าคนอื่นมากนัก

“ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือทางใต้ค่ะ”

“ทางใต้ งั้นก็เซอเชาว์หรือครับ”

“ค่ะ ปัจจุบันธัญพืชจากเซอเชาว์ถูกส่งไปทั่วอาณาจักรใช่มั้ยล่ะคะ โดยเฉพาะทางตะวันตก พวกนั้นคุ้นเคยกับธัญพืชที่ราคาถูกกว่าที่อื่นจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างจักรพรรดินีกับเจ้าตระกูลเซอเชาว์ แต่ถ้าตอนนี้จู่ๆ เจ้าตระกูลเซอเชาว์เกิดเพิ่มราคาผลผลิตให้สูงขึ้นกว่าเดิม มันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะคะ”

“อืมมมม”

เสียงอุทานดังขึ้นทั่วห้อง

“แน่นอนว่าข้าไม่ได้พูดถึงแค่เรื่องผลประโยชน์ทางการเงินจากราคาที่แตกต่างกันเฉยๆ หรอกนะคะ สิ่งที่ต้องกังวลยิ่งกว่าเรื่องนั้น…”

“สิทธิ์การค้าผูกขาดในมือเซอเชาว์สินะครับ”

โรมาเชียร์ ดิลลาร์ด เอ่ยพลางลูบเครายาว

“ถูกต้องค่ะ ในเมื่อตอนนี้ไม่มีเขตแดนใดสามารถให้ผลผลิตทางการเกษตรในปริมาณมาก จนไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องภัยแล้งได้เท่าทางใต้อีกแล้วนี่คะ”

พูดง่ายๆ ก็คือ หากเข้าสู่ช่วงภัยแล้งที่ผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำเมื่อไหร่ ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะชอบหรือไม่ชอบ ก็ต้องตอบตกลงซื้อธัญพืชจากเซอเชาว์อยู่ดี

“ที่ผ่านมาทางเซอเชาว์ขายธัญพืชราคาถูกโดยไม่หวังผลกำไรมากมาโดยตลอด แต่เจ้าตระกูลเซอเชาว์คนใหม่ไม่ใช่คนเช่นนั้น”

ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความเห็นของเธอ

“ถ้าอย่างนั้นทางตะวันออกกับทางเหนือล่ะครับ เป็นเช่นไร”

“ทางเหนือไม่น่ามีเรื่องไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้นไปอีกสักระยะค่ะ เจ้าตระกูลไอบันคนใหม่เองก็เพิ่งจะดำรงตำแหน่งได้ไม่นาน แถมแค่บูรณะความเสียหายที่เกิดจากเหตุภูเขาถล่มก็งานล้นมือกันแล้ว ส่วนตะวันออก…”

เธอเหลือบมองโรมาเชียร์ ดิลลาร์ด หนึ่งครั้ง ก่อนจะพูดต่อ

“หัวหน้ากลุ่มการค้าเองก็คงต้องพยายามให้มากกว่านี้อีกหน่อยนะคะ”

คำพูดทิ่มแทงใจทำเอาโรมาเชียร์ ดิลลาร์ด ได้แต่ปิดปากแน่น

“ข้าไม่ทราบหรอกนะคะว่าพูดตรงๆ แบบนี้แล้วจะคิดยังไงกัน แต่พอดีท่านปู่สั่งให้ข้าตอบตามตรงน่ะค่ะ”

“ใช่แล้ว มันต้องแบบนี้สิ”

ท่านปู่หัวเราะด้วยความพอใจ

“ว่าแล้วก็ขอถามหน่อยนะคะ ตอนนี้ทางกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียมีเปิดสาขาเพิ่มเข้าไปทางตะวันออกทั้งหมดกี่สาขาแล้วคะ”

“ห้าสาขาครับ”

“อย่างนั้นนี่เอง ข้าคาดหวังไว้ว่าจะมีถึงสิบสาขาแล้วแท้ๆ”

“…ขออภัยครับ”

โรมาเชียร์ ดิลลาร์ด ขมวดคิ้วแน่น

“จนป่านนี้ก็ยังไม่อาจแย่งชิงอำนาจผู้นำทางการค้าในแถบตะวันออกมาจากร้านค้าเพลเลสได้ ก็สมควรที่จะปรับปรุงตัวอยู่แล้วละค่ะ เทียบกับร้านค้าเพลเลสแล้ว กลุ่มการค้าลอมบาร์เดียของพวกเราต่างกับทางนั้นเรื่องขนาดหรือคะ หรือห่างชั้นกันเรื่องเงินทุน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]