เล่ม 6 บทที่ 214.2
“พรุ่งนี้จะมีการประกาศออกไปอย่างเป็นทางการ เจ้าเหนื่อยมามากแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะเทีย”
ท่านปู่ลูบศีรษะเธออย่างอ่อนโยน
“ค่ะ ท่านปู่”
เธอกล่าวลาท่านปู่กับเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา แล้วหมุนตัวเดินออกมาจากห้องประชุม
“เฮ้อ”
ลมหายใจที่อดกลั้นเอาไว้พรั่งพรูออกมาเฮือกใหญ่
ในมือของเธอถือกองเอกสารปึกหนึ่งที่ท่านปู่ส่งให้ มันเป็นเอกสารเรื่องต่างๆ ที่เธอสมควรรู้เกี่ยวกับลอมบาร์เดีย และแน่นอนว่าเป็นเอกสารที่ในชีวิตก่อนเธอเคยอ่านมาหมดแล้ว
“กลับห้องก่อนก็แล้วกัน”
เผื่อมีเอกสารอะไรที่ไม่เคยอ่านติดมาด้วย ยังไงก็คงต้องลองอ่านเอกสารพวกนี้ดูสักรอบนั่นแหละ
เธอเริ่มเดินกลับไปที่ห้องอย่างเชื่องช้า
มันเป็นวันธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้มีสิ่งใดพิเศษหรือแปลกไปจากที่เคย
บรรดาลูกจ้างเดินห่อไหล่เพราะอากาศเริ่มเย็นลงมากแล้ว เมื่อเห็นเธอ พวกเขาก็หันมาทักทายอย่างเป็นมิตร เธอเองก็ทักทายกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเดียวกัน
แต่ร่างกายกลับเริ่มรู้สึกหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ ราวกับตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ขนาดแค่ก้าวเดินขึ้นบันไดยังยากลำบากเลยทีเดียว
ตอนที่ฝืนสังขารลากตัวเองกลับมาถึงบ้าน ร่างกายถึงกับเซถลาจนทรงตัวไว้แทบไม่อยู่
“แฮก”
ยืนพิงประตูหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน
จากห้องประชุมของเจ้าตระกูลมาถึงที่นี่ มันไม่ได้ไกลอะไรขนาดนั้น และเธอก็แค่ค่อยๆ เดินตามทางมาอย่างเชื่องช้าแท้ๆ แต่กลับเหนื่อยมาก เหมือนคนที่เพิ่งกลับมาจากเดินทางไกลเลย
“พักสักหน่อยดีมั้ยนะ”
เดิมทีตั้งใจว่าพอกลับมาถึงห้องก็จะอ่านเอกสารดูสักรอบ แต่สภาพตอนนี้แค่ตัวหนังสือยังอ่านไม่ออกเลยด้วยซ้ำ
เธอวางเอกสารปึกนั้นไว้บนโต๊ะอย่างลวกๆ แล้วกลิ้งตัวนอนลงบนเตียง
“คงต้องงีบสักหน่อย”
รู้สึกได้ถึงความนุ่มของหมอนใบใหญ่ และในวินาทีที่พึมพำออกไปแบบนั้น ความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้าใส่เธอ
ตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็กลายเป็นค่ำคืนมืดสลัวไปแล้ว
หัวสมองยังมึนงงด้วยยังไม่ตื่นดีนัก
ทันทีที่พยายามฝืนลืมตาขึ้น ก็พลันมองเห็นเฟเรสอยู่ตรงหน้า
เด็กหนุ่มนอนอยู่บนเตียงเดียวกับเธอ เขากำลังมองเธออยู่
นัยน์ตาสีแดงคู่นั้นสะท้อนแสงจันทร์ส่องประกายระยิบระยับราวกับอัญมณีน้ำงาม
“สวยจัง”
เธอพึมพำเสียงแผ่ว
“ฝันเหรอ”
แต่เฟเรสไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
นัยน์ตาของเด็กหนุ่มที่มักจะมองเธอด้วยความดีใจอยู่เสมอทุกครั้งยามมองสบตาเธอ ตอนนี้กลับนิ่งสงบเป็นอย่างมาก
คงแค่ฝันไปละมั้ง
เธอครุ่นคิดแบบนั้น ก่อนจะยื่นมือออกไปอย่างช้าๆ เพียงครู่ฝ่ามือของเธอก็สัมผัสแนบเข้ากับแก้มของเฟเรส
ลองมองย้อนกลับไปคิดดูแล้ว ทุกครั้งที่มีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น พวกเราก็มักจะนอนมองหน้ากันแบบนี้ตลอดเลยนี่นา
วันที่เธอไปช่วยเฟเรสออกมาจากวังเล็กผุพังอันแสนเย็นเฉียบนั่นก็ด้วย วันที่ค้นพบวัตถุดิบในการหลอมยารักษาของท่านพ่อก็เหมือนกัน
เธอกับเฟเรสมักจะนอนมองหน้ากันแล้วผล็อยหลับไปแบบนี้
เธอเอ่ยพูดเสียงสะลึมสะลือ
“ข้ากลายเป็นรักษาการเจ้าตระกูลอย่างเป็นทางการแล้วนะ พรุ่งนี้จะมีการประกาศตัวผู้สืบทอดออกไปอย่างเป็นทางการแล้วด้วย”
พอเธอพูดออกไปแบบนั้น ริมฝีปากแดงของเด็กหนุ่มที่หยุดนิ่งราวกับภาพวาดก็ขยับอย่างช้าๆ
“ยินดีด้วยนะ เทีย”
เสียงของเขาแหบพร่า
“ฝันเป็นจริงแล้ว”
“แค่เกือบ”
แต่เธอไม่อาจยิ้มออกไปได้
“เฟเรส”
“อื้อ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]
น่าสนุก...