เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] นิยาย บท 9

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 9.2
ตอนที่ 9.2

หลังจากนั้นชายวัยกลางคนซึ่งสวมเครื่องแต่งกายหรูหรารออยู่ด้านนอกก็เดินเข้ามา ก่อนจะเอ่ยทักทายรูลลักอย่างสุภาพอ่อนน้อม

“ยินดีที่ได้พบครับโครอีธาน อังเกนัส จากกลุ่มการค้าดิวรักครับ”

อังเกนัส

ชื่อของตระกูลที่คุ้นเคยทำให้หน้าผากของเครย์ลีบันยับย่น

อังเกนัส ตระกูลของจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน หรือก็คือตระกูลของเซรัล ภริยาของเบเจอร์

เครย์ลีบันนั่งกอดอกนิ่งๆ ไม่พูดอะไร

“รูลลักลอมบาร์เดียครับ นั่งลงก่อนแล้วค่อยสนทนากันเถอะ”

ขนาดช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่โครอีธานเพียงแค่นั่งลงบนเก้าอี้ เบเจอร์ก็ไม่อาจเก็บซ่อนใบหน้าแดงเถือกได้ ทั้งยังบิดตัวไปมาไม่หยุด

“ได้ยินเรื่องราวจากบุตรชายของข้าแล้ว แต่หัวหน้ากลุ่มการค้ามาเล่าแผนการที่วางไว้อีกครั้งเสียหน่อยเป็นเช่นไร?”

โครอีธานยืดคอตรงเมื่อได้ยินคำพูดของรูลลัก

การอธิบายมันช่างน่าเบื่อเหลือเกิน

หลังจากสิ้นสุดการสนทนาอันแสนยาวนาน เครย์ลีบันก็เอ่ยถามเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจถึงใจความสำคัญ

“เพราะฉะนั้นก็คือ ท่านอยากจะนำวัตถุดิบสิ่งทอจากตะวันออกเข้ามาทอขาย แต่ตอนนี้กลุ่มการค้าดิวรักไม่มีเส้นทางขนส่งมากพอที่จะเดินทางระยะไกลเช่นนั้น จึงอยากจะขออาศัยการขนส่งของกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียใช่มั้ยครับ”

“ครับ เป็นเช่นนั้น”

“และก็ต้องการที่จะกู้ยืมเงินทุนจากธนาคารลอมบาร์เดีย เพื่อชำระค่าสิ่งทอด้วยสินะครับ”

“ครับ ถ้าหากช่วยได้ก็ขอบคุณมากเลยครับ”

“เหอะ”

นี่มันพูดพล่ามเรื่องอันใดกัน

เครย์ลีบันนวดหน้าผากที่เส้นเลือดขึ้นปูดโปนในขณะที่จ้องเขม็งไปยังเบเจอร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“อะแฮ่ม”

รูลลักเองก็กำลังลูบเครายาว คล้ายว่าจะไม่ค่อยสบายใจนัก

“ไม่ใช่ว่าวิธีการนี้ดีมากเลยหรือครับ ท่านพ่อ?”

คำพูดของเบเจอร์ผู้โง่เขลาทำเอาเครย์ลีบันรู้สึกโมโหจนแทบระเบิด

เห็นได้ชัดเลยว่า ตอนนี้เจ้านี่จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือปัญหา

“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอรบกวนเป็นเงินก้อนใหญ่ด้วยนะครับ”

อีกอย่างอันธพาลจากตระกูลอังเกนัสที่คงไม่มีใครไม่ทราบว่าเป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของจักรพรรดินีคนนี้ยังทำตัวราวกับแค่มารับเงินที่เจ้าตัวฝากไว้เท่านั้น ท่าทางดูมั่นอกมั่นใจมากเหลือเกิน

แน่นอน ในมุมมองของพวกนั้นคงจะคิดว่ามันเท่าเทียมกันดี

อังเกนัสเป็นตระกูลฝั่งมารดาของเจ้าชายลำดับที่หนึ่งอาสทาน่า

นี่เป็นเรื่องที่เข้าไปข้องเกี่ยวกับพวกเชื้อพระวงศ์ บางทีกลุ่มการค้าอาจจะกลายเป็นเบื้องหลังที่คอยสนับสนุนจักรพรรดินีก็ได้

มีเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้นที่เป็นของกลุ่มการค้าดิวรัก สุดท้ายธุรกิจนี้จะดำเนินไปได้ด้วยเงินของลอมบาร์เดีย แต่ถ้าพูดอีกอย่างก็คือ หากมันล้มเหลวก็มีเพียงแค่ลอมบาร์เดียที่ต้องรับมือเพียงฝ่ายเดียว

ถ้าหากไม่อยากตั้งตัวเป็นศัตรูกับเชื้อพระวงศ์ พวกเขาก็ไม่สามารถตามทวงนี้กับตระกูลอังเกนัสราวกับเป็นเจ้าหนี้ได้ และเพราะทราบเรื่องนั้นเป็นอย่างดี คนพวกนั้นถึงได้จงใจมาเคาะประตูตระกูลลอมบาร์เดีย

พูดง่ายๆ พวกเขาไม่อาจทราบได้เลยว่าต่อไปจะเกิดลมหวนแบบไหนพัดสวนกลับคืนมา และคนที่ไม่ได้รู้ความจริงเรื่องนี้เลยสักนิด ณ ที่แห่งนี้ ก็มีเพียงแค่เบเจอร์ที่นั่งยิ้มอยู่ในตอนนี้เท่านั้น

รูลลักเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่า นี่มันเป็น ‘แผนธุรกิจ’ ที่ไม่เข้าท่าเลยแม้แต่น้อย

เครย์ลีบันพยายามข่มอารมณ์โกรธของตัวเอง เพราะเขาเชื่อว่าท่านเจ้าตระกูลจะต้องปฏิเสธออกไปได้อย่างเหมาะสม

“…เรื่องนี้ให้เจ้าดูแลก็แล้วกัน เบเจอร์ จัดการให้ดี อย่าให้มีข้อผิดพลาดได้ล่ะ”

“ท่านเจ้าตระกูล!”

เครย์ลีบันสะดุ้งตกใจจนตะโกนเสียงดัง แต่รูลลักกลับปิดปากแน่นไม่พูดอะไร

“ครับ! เชื่อมือข้าได้เลยครับ ท่านพ่อ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]