หลังจากทั้งสี่คนกินหม้อไฟเสร็จ เนื่องจากเฉาหมิงและแฟนสาวของเขามีธุระที่ต้องทำในตอนบ่าย ทั้งสองคนจึงออกไปก่อน ปล่อยให้โจวหยุนและเหลิงหยุนฉีจับท้องที่อิ่มอยู่ และพวกเธอก็มองหน้ากัน: “ไปเดินเล่นรอบๆโรงเรียนไหม ไม่อย่างนั้นฉันต้องอ้วนขึ้นถ้ากลับไปแน่”
สำหรับสาวๆที่ชอบความสวยแล้ว น้ำหนักขึ้นเป็นเรื่องที่ทนไม่ได้แน่นอน!
ทั้งสองมีความเห็นเดียวกัน จึงเดินตรงไปที่โรงเรียนตามกระแสผู้คน
ก็ผ่านไปแล้วสองเดือนนับตั้งแต่พวกเขาจบการศึกษา และฤดูกาลนี้เป็นเวลาที่น้องใหม่มาที่มหาลัยเพื่อรายงานตัวเป็นครั้งแรก และในระหว่างทางก็จะเห็นผู้ปกครองพาลูกไปซื้อของใช้ชีวิตประจำวันที่นอกโรงเรียน
แน่นอนว่ายังมีคู่รักต่างๆในวิทยาเขตหลายคู่ที่ยืนอยู่ด้วยกัน
ทุกคนมีรอยยิ้มที่ผ่อนคลายอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่มีแรงกดดันใดๆ เพียงแค่ได้มองก็รู้สึกดีขึ้นมาเลย
มหาวิทยาลัยเมืองหลวงจะเน้นไปทางสายศิลป์ ส่วนมหาวิทยาลัยที่อยู่ข้างๆจะเน้นไปทางสายวิทย์มากกว่า
ซึ่งในฐานะมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งสองแห่งในประเทศ โดยทั่วไปแล้วผู้ที่สามารถเรียนที่นี่ได้ มักจะเป็นเด็กที่เรียนเก่งหรือพวกเด็กเทพในสายตาของคนทั่วไป ดังนั้นลักษณะโดยรวมแล้วก็ค่อนข้างดี
ทว่าอย่างไรก็ตาม หน้าตาของเหลิงหยุนฉีและโจวหยุนนั้นก็ยังโดดเด่นมากจริงๆ ผู้คนบนท้องถนนต่างมองดูพวกเธอเป็นครั้งคราว
ทั้งสองเดินวนตามถนนไปรอบหนึ่ง จนมีคนจำนวนมากเฝ้ามองพวกเธอ
โจวหยุนรู้สึกกระหายน้ำจึงวิ่งไปที่โรงอาหารเพื่อซื้อน้ำ ส่วนเหลิงหยุนฉีก็ยืนอยู่ใต้ต้นไม้เล่นโทรศัพท์มือถือของเธอ ทว่าก่อนที่เกมจะเริ่ม ก็มีชายหนุ่มที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตแบรนด์อินเทรนด์เดินเข้ามาหา
“เพื่อน เธอมาจากคณะไหนน่ะ”
ชายหนุ่มมีใบหน้าที่ผอมเรียว มีส่วนโค้งกรามที่สวยมาก แล้วสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งดูเหมือนผู้ชายที่ทันสมัยที่ออกมาจากทีวีเลย
ทว่าใบหน้าของเขายังแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชินกับการเป็นคนริเริ่มจีบสาว
เหลิงหยุนฉีกระพริบตาและพูดความจริง: “ผู้กำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์”
ตอนเจ้าของร่างเดิมสอบเอนทรานซ์ ในมหาวิทยาลัยเมืองหลวงสถาบันศิลปะวิชาเอกที่เรียนก็มีถึงสองสาขาวิชา หนึ่งคือผู้กำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ อีกอันคือทฤษฎีประวัติศาสตร์ศิลปะ ส่วนปริญญาโทก็ค่อนข้างที่จะกว้างหน่อย แต่อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีประวัติศาสตร์ศิลปะนั้นมีแนวโน้มที่จะทำวิจัยเชิงทฤษฎีมากกว่า และเจ้าของร่างเดิมคิดว่ามันไม่น่าสนใจ จึงเลือกอันแรก
แม้ว่าจะใช้ทางลัดในการสอบเข้าวิชาเอกศิลปะ ทว่าวิชาเอกนี้ก็มีข้อกำหนดที่สูงมากในความเชี่ยวชาญด้านศิลปะของนักศึกษา ส่วนมีวิชาวัฒนธรรมอาจกำหนดต่ำกว่านักศึกษาในสาขาวิชาอื่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่
ทว่าในแง่ของจำนวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยทั้งหมดนั้น จำนวนนักศึกษาในวิชาเอกนี้มีน้อยมาก
ชายหนุ่มมองดูใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเหลิงหยุนฉีและอดไม่ได้ที่จะคิดในใจว่า “ไม่น่าแปลกใจเลย”!
นักศึกษาเอกธรรมดาๆ จะมีหน้าตาและนิสัยเช่นนี้ได้อย่างไร
“ฉันขอวีแชทเธอหน่อยได้ไหม” เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าหาเล็กน้อย
ยิ่งอยู่ใกล้ ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความงามของเธอ
ไม่ใช่คนที่ให้ความรู้สึกอ่อนแอน่ารักแบบนั้น ทว่ามันกลับตรงกันข้าม การที่ได้เห็นเธอนั้น ก็เหมือนได้เห็นสไตล์เท่ๆหวานๆที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงนี้
ชายหนุ่มรู้สึกว่าการหายใจของเขาค่อนข้างควบคุมไม่อยู่ นี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ ทั้งๆที่เขาเห็นผู้หญิงคนอื่นๆแล้วกลับรู้สึกเบื่อหน่ายมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก