“โทร...” เจเนวีฟกางหมายเลขโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับจิกเล็บเข้าไปที่คอทำให้ขาของผู้หญิงคนนั้นอ่อนแรงลง ผู้หญิงคนดังกล่าวหันไปมองเอริก้าด้วยสายตาเว้าวอนทันที
“จะ... เจเนวีฟ อย่าเสียสติเลยนะ!” เอริก้าที่กำลังตกใจกลัวนั้นไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเจเนวีฟจะทำเช่นนี้ “ตอนนี้เธอไม่มีบ้านแล้ว เธอจะไปตามใครมาช่วยได้อีกเล่า”
เอริก้ากับเจเนวีฟเป็นเพื่อนกันอยู่หลายปี เธอจึงรู้จักแวดวงเพื่อนฝูงของเจเนวีฟดี ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเคยไปติดสินบนเพื่อนๆ ที่มาจากครอบครัวที่ดีของเจเนวีฟ
ไม่มีทางที่เธอจะไปตามใครมาช่วยได้!
“เธอต้อง... โทรหมายเลขนั้น!” เจเนวีฟพูดลอดไรฟัน เล็บของเธอแทงเข้าไปในคอ หญิงนั้นก็ขาสั่นด้วยความกลัวพร้อมกับอ้าปากค้าง
เอริก้าถึงกับหน้าถอดสี เธอเกรงว่าผู้หญิงคนนั้นจะหลุดปากพูดชื่อเธอออกมา เธอกัดฟันแล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ที่เจเนวีฟบอกอย่างไม่เต็มใจนัก
ไม่นานนักก็โทรติด “ฮัลโหล”
เจเนวีฟได้ยินเสียงคุ้นๆ เธอเกือบจะร้องไห้ เธอกลืนน้ำลายปนเลือดที่มีอยู่เต็มปาก รวบรวมกำลังที่มีอยู่แล้วพูดออกไปว่า “ฉันคือเจเนวีฟ... มาที่สถานีตำรวจ... ในเยลวิว”
ตราบที่เธอสามารถไปเยี่ยมคุณยายของเธอที่โรงพยาบาลได้ เธอก็ไม่เสียดายชีวิตตัวเองถ้าหากชายผู้นั้นจะเรียกร้อง ศักดิ์ศรีของเธอนั้นเทียบไม่ได้เลยเมื่อเทียบกับญาติคนเดียวของเธอที่เหลืออยู่ในโลก
ทันใดนั้นเอง บรรดานายตำรวจก็รีบรุดเข้ามายังเหตุชุลมุน
อย่างไรก็ดี เมื่อพวกตำรวจเห็นเจเนวีฟกำลังคว้าคอผู้หญิงคนนั้นไว้แน่นราวกับว่าจะให้ตายไปพร้อมกับเธอนั้น พวกเขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามบุกเข้ามา
เวลาผ่านไป เอริก้าก็ยังไม่เห็นมีใครมา
เธอก็คิดว่าเจเนวีฟนั้นแค่ขู่ เธอจึงยุให้ตำรวจกำราบเจเนวีฟ แต่ในอีกวินาทีต่อมา ผู้ชายอายุราวสามสิบปีก็กำลังก้าวเข้ามาทางห้องขังอย่างเร่งร้อน
พอเจเนวีฟเห็นชายนั้น เศษเสี้ยวแห่งความหวังก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ เธออ้อนวอนอย่างน่าสงสาร “ช่วยประกันตัวฉันด้วยค่ะ... ได้โปรด! ฉันต้องไปโรงพยาบาล”
ชายผู้มีสีหน้าถมึงทึงนั้นพยักหน้าพร้อมกับหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็ว
หนึ่งนาทีต่อมา เขาไม่ได้กลับมาคนเดียว แต่ยังพาหัวหน้าตำรวจมาอีกด้วย
พอชายคนดังกล่าวก้าวเข้ามาช่วยพาเจเนวีฟออกไป หัวหน้าตำรวจก็ถามด้วยกิริยาสุภาพ “คุณซัลลิแวน คุณจะให้ผมหาคนมาพาคุณสองคนไปโรงพยาบาลหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรครับ”
เอริก้าเพ่งดูชายที่จูงมือเจเนวีฟออกไป เธอรู้สึกยิ่งกว่าประหลาดใจ “ท่านคะ เจเนวีฟเป็นผู้ต้องสงสัยข้อหาฆาตกรรม! แล้วเราปล่อยเธอออกไปได้ยังไงคะเนี่ย” เธอถามหัวหน้าตำรวจ
“เราไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมเพียงพอ เราเลยขังเธอต่อไปไม่ได้ครับ” หัวหน้าตำรวจพูดต่ออย่างร้อนรน “กลับไปเถอะครับถ้าคุณไม่มีอะไรจะแจ้งอีก!”
ความโกรธของเอริก้าในเวลานั้นไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลย แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามคำสั่งของเขา
เธอรู้ว่าคูเปอร์สนิทกับรองหัวหน้าตำรวจในเจดโบโร ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงส่งคนไปจัดการกับเจเนวีฟได้อย่างง่ายดาย
เอริก้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าเจเนวีฟจะสามารถเรียกคนมาช่วยประกันตัวเธอออกจากสถานีตำรวจได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกมรักกลลวง