คูเปอร์ลากตัวเจเนวีฟเข้าไปในศาลากลางโดยไม่ลังเลและผลักเธอลงนั่งที่เก้าอี้ “วันนี้เรามาหย่ากันครับ” เขาพูดอย่างเย็นชา
“ไม่ค่ะ!” เจเนวีฟรีบสวนกลับ เธอดึงแขนคูเปอร์มากอดและอ้อนวอน “ที่รัก ฉันไม่อยากหย่ากับคุณ อย่าทำแบบนี้กับฉันเลยนะคะ เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก คุณก็รู้ว่าฉันรักคุณมากแค่ไหน นอกจากคุณแล้วฉันก็ไม่มีใครแล้วจริงๆ!”
“ผมไม่ต้องการผู้หญิงที่สกปรก” คูเปอร์ตอบอย่างเลือดเย็น
สมองของเจเนวีฟมืดแปดด้านไปในทันทีขณะที่ทั้งร่างของเธอทรุดลงไปบนเก้าอี้พร้อมกับคลายมือที่จับแขนของคูเปอร์ออก
เขาคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงสกปรกอย่างนั้นเหรอ
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทรงเสน่ห์ซึ่งมีผมยาวเป็นลอนก็ได้รีบร้อนเดินเข้ามาในศาลากลาง
“คุณซัตตันคะ ดิฉันเอาเอกสารมาให้ค่ะ” เธอพูดพร้อมกับหอบหายใจแรง
ทันทีที่ได้เจอหญิงสาวที่เดินเข้ามา หัวใจของเจเนวีฟก็มีความหวังขึ้นมาทันที “เอรี่ เธอช่วยพูดให้คูเปอร์ไม่หย่ากับฉันที ตอนเราที่เราทะเลาะกัน เธอก็ช่วยทำให้เขาเปลี่ยนใจนี่”
เอริก้า ฮอลล์ และคูเปอร์เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันและทั้งสามก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ทุกครั้งที่เจเนวีฟทะเลาะกับคูเปอร์ เอริก้าก็จะช่วยเธอด้วยการตำหนิคูเปอร์ให้แล้วเขาก็มักจะเปลี่ยนมาพูดจาออดอ้อนขอคืนดีกับเจเนวีฟแทน เธอจึงคาดหวังว่าครั้งนี้เอริก้าก็คงจะทำเหมือนเดิม
หลังจากที่เอริก้าได้ฟังคำขอร้องของเจเนวีฟ เธอก็กระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที “เจเนวีฟ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็จริงนะ แต่เรื่องที่เธอทำที่โรงแรมก็ผิดดจริงๆ ฉันช่วยเธอไม่ได้หรอก”
ในขณะที่ทั้งสองคุยกัน คูเปอร์ก็ได้เปิดหน้าเอกสารรอไว้แล้ว “เซ็นซะ!”
เมื่อเจเนวีฟเห็นเอกสาร ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในใจเธอ ก่อนที่เธอกับคูเปอร์จะแต่งงานกัน คูเปอร์ได้เซ็นสัญญาก่อนสมรสที่ระบุเอาไว้ว่าเขาจะไม่เอาอะไรติดตัวไปแม้แต่อย่างเดียวถ้าเขาเป็นฝ่ายนอกใจเจเนวีฟ
“ไม่ค่ะ! ฉันไม่เซ็นเด็ดขาด!” เจเนวีฟส่ายหน้าอย่างหมดหวัง “ที่รักคะ ฉันยอมทำทุกอย่าง แต่เราอย่าหย่ากันเลยนะคะ...”
คูเปอร์ไม่แยแสกับคำขอของเธอ
มิหนำซ้ำ เขายังบังคับให้เธอจับปากกาเซ็นชื่อ แล้วเขาก็หันไปกำชับกับเจ้าพนักงานว่า “เรามาที่นี่เพื่อหย่ากัน ช่วยดำเนินการให้มันเสร็จสิ้นด้วยนะครับ!”
ในเวลาไม่ถึงสองนาที เขาก็โยนใบหย่าใส่แขนของเจเนวีฟ
“คูเปอร์!” เจเนวีฟจ้องแผ่นหลังของคูเปอร์ขณะที่เขาเดินจากไป เธอพยายามกลั้นน้ำตาแล้วรีบวิ่งตามเขาออกไป ทว่าเธอก็เห็นเพียงภาพที่เขาขึ้นรถไปกับเอริก้า
นี่ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า ทำไมเอริก้าถึงจูบคูเปอร์ล่ะ
แม้ว่าเจเนวีฟจะไม่ได้สินสมรสอะไรหลังจากหย่าเลย แต่จำนวนหุ้นที่เธอถืออยู่ในสเป็คเตอร์คอร์เปอเรชั่นก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เธอยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทอยู่
วินิเฟรดโกรธจัด เธอขว้างหนังสือพิมพ์ใส่เจเนวีฟ “ดูนี่เอาเองสิ!”
เจเนวีฟหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาแล้วกางออกอ่าน พาดหัวข่าวการเงินที่เพิ่งออกมาตอนเจ็ดโมงเช้าวันนั้นได้ระบุว่าคูเปอร์ ซัตตัน ได้ถือหุ้นบริษัทสเป็คเตอร์คอร์เปอเรชั่นเป็นสัดส่วนหกสิบสามเปอร์เซ็นต์ และกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในบริษัท
เจเนวีฟตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น “ทำไมเขามีสัดส่วนหุ้นขนาดนี้...”
และแล้วเธอก็นึกได้ว่าคูเปอร์เคยเอ่ยปากขอหุ้นของเธอจริงๆ หลังจากที่พวกเขาแต่งงานกันได้หนึ่งเดือน โดยเขาอ้างว่าเขาอยากจะเข้าปรับโครงสร้างของบริษัทเสียใหม่
เมื่อทั้งคู่แต่งงานกัน ทรัพย์สินที่มีอยู่ก็กลายเป็นสินสมรส เธอจึงโอนหุ้นที่มีอยู่ให้กับคูเปอร์โดยไม่ได้นึกสงสัยอะไร
เจเนวีฟไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าคูเปอร์จะกล้าใช้ความไว้ใจของเธอหลอกล่อเอาสเป็คเตอร์คอร์เปอเรชั่นไปจากเธอ!
“ทำไมฉันต้องมีหลานงี่เง่าแบบแกด้วย แกอยู่ในกำมือของมันแล้วก็โดนหลอกเสียง่ายดาย!” วินิเฟรดตำหนิเจเนวีฟด้วยเสียงอันดัง
ทันใดนั้นเอง ใบหน้าของวินิเฟรดก็บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เธอเอามือกุมหน้าอกแล้วทรุดลงบนเตียง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกมรักกลลวง