หญิงสาวใช้เวลาอาบน้ำสักพักเธอก็เดินออกมา พร้อมกับเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่ใส่แล้วคลุมไปเลยถึงตาตุ่ม เพราะเสื้อคลุมของอีธานนั้นมันมีขนาดบิ๊กไซซ์ จากนั้นเธอได้เดินมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วดึงหมวกคลุมผมออกพร้อมกับหยิบแปรงขึ้นมาสางผม โดยไม่สนใจว่าสายตาคมกำลังจ้องมองมาที่เธอราวกับจะกลืนกิน
"มานี่ผมแปรงให้"
"หยุดเลยค่ะ คุณไปอาบน้ำได้แล้ว ฉันยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องการทำข้อตกลงกับคุณ"
"โธ่! เมียจ๋ายังมีอะไรอีก จะมีอะไรที่มากกว่าการที่ผมต้องอยู่กับคุณแบบหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้อีกเหรอ" อีธานทำหน้าอ้อน พร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดฮันน่าจากทางด้านหลัง หญิงสาวถึงกับนั่งตัวเกร็งเพราะเธอไม่ได้สวมใส่ชุดชั้นใน มีเพียงแค่เสื้อคลุมเอาไว้ และนั่นก็เริ่มทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
"ไปอาบน้ำเลยค่ะ ฉันง่วงแล้ว" ฮันน่ารีบดีดตัวลุกขึ้นให้พ้นจากอ้อมกอดของเขา แล้วเดินไปเอนตัวตัวลงนอนที่เตียงพร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมร่างอรชรของเธอเอาไว้ การกระทำของฮันน่าทำให้อีธานถึงกับยกยิ้มที่มุมปาก
จากนั้นชายหนุ่มจึงหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำ คราวนี้ฮันน่าถอนหายใจพร้อมกับเป่าปากออกมาอย่างโล่งอก เธอไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ตัดสินใจจะไปต่อกับเขา แต่เมื่อนึกถึงกันยาและตุลาก็ทำให้เธอไม่สามารถที่จะเห็นแก่ตัวต่อไปได้ลูกทั้งสองควรมีบิดา เพราะเธอเห็นแววตาที่กันยาพูดถึงอีธานลูกดูมีความสุขมาก มันคงจะเป็นสายใยทางสายเลือด ที่ทำให้การเห็นหน้าและพูดคุยกันไม่กี่นาที ทำให้กันยาจะรู้สึกดีมากขนาดนั้น
"ไหนบอกว่าง่วงทำไมยังไม่หลับ รอผมอยู่หรือเปล่าเนี่ย..." เสียงทุ้มของอีธานดังขึ้นทำให้ฮันน่าเหลือบไปมอง ภาพชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเอาไว้ ท่อนบนของร่างกายเปลือยเปล่ามองเห็นซิกซ์แพ็กเป็นชั้นๆ มวลกล้ามเป็นมัดๆ มิหนำซ้ำไรขนที่ขึ้นแซมบริเวณหน้าอกและหยดน้ำที่เขายังไม่ได้เช็ดออก ทำให้อีธานแลดูมีเสน่ห์และเย้ายวนเป็นอย่างมาก เมื่อดูจากปฏิกิริยาของฮันน่าที่มองไปยังชายหนุ่มตาไม่กะพริบส่งผลให้เธอแทบลืมหายใจ
วินาทีนี้เหมือนทุกอย่างหยุดการเคลื่อนไหว เมื่อเธอเอาแต่จับจ้องไปที่ชายร่างกำยำราวกับต้องมนต์ อีธานค่อยๆ เดินเข้าไปหาฮันน่า ซึ่งเวลานี้ดูเหมือนว่าหญิงสาวกำลังตกอยู่ในภวังค์ เวลานี้ ร่างกายกำยำเข้าไปทาบทับกลืนเธอไปทั้งร่าง และดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่ขัดขืนไม่พยายามหนีเหมือนกับตอนที่เข้ามาในห้องนี้ในตอนแรก และที่สำคัญเธอยอมให้อีธานแกะเชือกผูกเสื้อคลุมออก โดยที่ไม่ประท้วงหรือห้ามปรามเขาสักคำ
ใบหน้าคมโน้มเข้าใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากของชายหนุ่ม ทาบทับลงไปที่เรียวปากของเธอ เขาจูบไปที่ปากครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปแต่กระหวัดรัดดูดกินน้ำหวานจากริมฝีปากของเธอและจากนั้นเพลงรักก็บรรเลงขึ้น ฮันน่าอ่อนระทวยไปกับรสจูบที่แสนหวาน หลังจากที่ไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานแต่ความหวานกลับมีทวีคูณ
มือหนาของอีธานดึงเสื้อคลุมออกไปจนพ้นร่างอรชร รวมทั้งผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอวเขาเอาไว้มันก็ถูกชายหนุ่มดึงแล้วโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี เวลานี้ทั้งคู่มีร่างกายที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อน พร้อมสำหรับภารกิจพิชิตใจภรรยา เมื่อชายหนุ่มตั้งใจจะง้อเธอด้วยการพาหญิงสาวไปเที่ยวชมวิมานฉิมพลี
"อื้ม...อื้อ" เสียงครางในลำคอของคนทั้งคู่ดังขึ้นมา เมื่อต่างคนต่างก็แตะปลายลิ้นสัมผัสฉกชิมแลกเปลี่ยนรสหวานอย่างไม่มีใครยอมใคร จนเสียงจูบดังสลับกับการเสียดสีของร่างกายที่เริ่มจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความต้องการที่มีนั้นสุดที่จะมีสิ่งใดต้านทานให้หยุดลงได้
"อื้ม...ผมรักคุณนะ" ชายหนุ่มยอมผละจากจูบที่เร่าร้อนออกมาอย่างอ้อยอิ่งและเสียดาย เพื่อกระซิบที่ข้างใบหูบอกรักเธออีกครั้ง เป็นการยืนยันให้ภรรยาแน่ใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
"รู้แล้วค่ะ" ฮันน่าตอบกลับด้วยความเขินอาย เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาคมของเขา เวลานี้ใบหน้าของหญิงสาวเริ่มร้อนผ่าว มันคงแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้ว เพราะร่างกายของเธอนั้น ไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆ รวมทั้งเขาด้วย ซึ่งในเวลานี้มือเรียวของเธอได้ดันอกแกร่งของชายหนุ่มเอาไว้ ทำให้สัมผัสได้ถึงไรขนที่ขึ้นแซม แสงส้มนวลจากเทียนหอมที่จุดเอาไว้ทำให้มองเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนร่างได้อย่างถนัดตา อีธานใช้สายตากวาดมองอย่างชื่นชม เธอไม่เหมือนกับผู้หญิงที่เคยผ่านการมีลูกมาก่อน เพราะทุกส่วนของร่างกายยังคงมีทรวดทรงที่งดงาม
"พรุ่งนี้ไปจดทะเบียนสมรสกันนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์ร้ายใจปรารถนา Series Follow you heart