ภายในห้องครัวสองพ่อลูกทำอาหารและคุยกันไปอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของกันยาและบิดาดังลั่นออกมาจากข้างใน ทำให้ผู้เป็นมารดาถึงกับพลอยอมยิ้มอย่างปลื้มใจ ที่เห็นลูกสาวมีความสุข ฮันน่าไม่คิดว่าบรรยากาศแบบนี้ ความรู้สึกแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเธอและลูก ถ้าเธอยังคงยืนกรานที่จะปฏิเสธอีธานเข้ามาในชีวิต คงไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของกันยาที่มันดังกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยผ่านมา
"อ้าว! คุณไปนั่งรอผมกับลูกทำอาหารไว้รอคุณตั้งหลายอย่าง" เมื่อสายตาของชายหนุ่มเหลือบไปเห็นฮันน่า อีธานรีบเดินออกมาจากห้องครัว แล้วโอบไหล่เธอไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
"ปล่อยฉันเดินเองได้" น้ำเสียงห้วนๆ เอ่ยห้ามปราม แต่กลับยอมทำตามเขาอย่างว่าง่าย เธอจะรู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดไม่ตรงกับใจ เพราะทุกครั้งที่อีธานเข้าใกล้ เธอรู้สึกดีแค่ไหนเพราะเขามักจะทำให้หัวใจของเธอนั้นเต้นแรง จนไม่เป็นจังหวะทุกครั้ง
"คุณพ่อขา... ซุปไก่ต้องเติมอะไรลงไปอีกหรือเปล่าคะ" เสียงของกันยาตะโกนออกมาจากในครัวเมื่อบิดาของเธอทำทุกอย่างเสร็จแล้วยกเว้นซุปไก่ที่ยังคงตั้งไฟอยู่
"ไม่ต้องครับ พ่อปรุงเรียบร้อยแล้วพร้อมเสิร์ฟ ครับคุณลูกสาว ผมทำซุปไก่ร้อนๆ ไว้ให้คุณด้วยนะเมื่อคืนใช้แรงเยอะ กลัวคุณจะเพลีย"
เพียะ!!! ฝ่ามือเรียวตีลงไปที่ต้นแขนของผู้เป็นสามีอย่างแรง เมื่อเขาพูดแล้วใช้สายตาเจ้าเล่ห์มองมาที่เธอ
"โอ๊ย! คุณตีผมทำไมเนี่ยเจ็บนะ แบบนี้ต้องโดนลงโทษแล้ว"
"นี่! เอาหน้าของคุณออกไปให้พ้นเลยนะเดี๋ยวกันยาก็มาเห็นเข้า" ฮันน่าพูดพร้อมกับพยายามใช้มือดันใบหน้าคมคายของอีธานออกให้พ้น เมื่อเขาโน้มต่ำลงมาใกล้ใบหน้าของเธอ
"เห็นจะเป็นอะไรไปเล่า ลูกจะได้รู้ไงว่าเรารักกันแค่ไหน จุ๊บ! "
"ไอ้คนบ้า! " ฮันน่าพูดออกมาด้วยความเขินอาย ใบหน้าของเธอถึงกับร้อนผ่าว หญิงสาวรีบเอามือขึ้นมาลูบที่แก้ม เมื่อโดนผู้เป็นสามีขโมยจูบไปเมื่อสักครู่
"คุณพ่อขา... มีสายเข้าค่ะ ใครคะชื่อไพเราะจังเลยมุกมายา" เสียงกันยาดังขึ้นพร้อมกับยื่นสมาร์ตโฟนให้กับผู้เป็นบิดา เพราะเขาได้ตั้งค่าระบบสั่นเอาไว้ ในเวลานี้ฮันน่าได้มองไปที่ผู้เป็นสามีด้วยสายตาที่จับผิด เมื่อเธอรู้ซึ้งถึงกิตติศัพท์ของชายหนุ่ม คาสโนว่าตัวพ่ออย่างเขาคงจะมีผู้หญิงมาเกาะแกะไม่เลิก และถ้าเขายังคงกลับไปใช้นิสัยเดิมๆ มีหวังชีวิตนี้เธอคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่
"เธอเป็นลูกสาวของหุ้นส่วนรายใหญ่ที่ร่วมลงทุนกับพ่อ แต่ก็ช่างเถอะปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้นแหละ ถ้าตัดสายก็จะเป็นการเสียมารยาทจนเกินไป กันยาเตรียมอาหารมาขึ้นโต๊ะได้เลยลูก รู้สึกว่าคนแถวนี้จะโมโหหิวแล้ว" อีธานแอบยกยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับเหลือบไปมองใบหน้าของภรรยาที่บึ้งตึงบอกบุญไม่รับ เขาพอจะเดาได้ว่าหญิงสาวรู้สึกอย่างไร และคงอยากจะรู้เรื่องระหว่างเขากับมุกมายามากกว่าที่เพิ่งอธิบายให้กันยาฟัง
"ผมไม่เคยคิดที่จะข้องแวะหรือสายสัมพันธ์กับมุกมายา ที่ยอมให้เบอร์เธอไป เพียงแค่เอาไว้ติดต่องานกันเท่านั้น อย่างอนเลยนะครับ...เมียจ๋า" อีธานก้มลงไปโอบภรรยาจากทางด้านหลังพร้อมทั้งกระซิบลงไปที่ข้างหูของเธอเบาๆ การกระทำของชายหนุ่มยิ่งทำให้ฮันน่ารู้สึกว่าหัวใจของเธอนั้นเริ่มกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะเวลาที่เขาเข้าใกล้และได้ยิ่งได้สัมผัสกับคำพูดที่อ่อนหวานและนุ่มนวล ยิ่งทำให้ความรู้สึกโกรธเคืองทั้งหมดทั้งมวลหายไปจนสิ้น
"กระซิบอะไรกันเหรอคะ นี่ลูกสาวนะคะ... ลูกสาวไม่ใช่อากาศธาตุ สวีตจังเลย" เมื่อกันยายกถาดอาหารจากในครัวมาขึ้นโต๊ะ ภาพที่บิดากำลังตั้งใจง้อมารดา ทำให้กันยารู้สึกตื้นตันใจเพราะเธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตจะมีโมเม้นต์แบบนี้กับเขาด้วย
"เด็กคนนี้นี่! พูดจาแก่แดดจัง ไปเรียกพี่ตุลามาทานข้าวด้วยกัน เอาโถใส่ข้าววางไว้เดี๋ยวแม่จัดการเอง" ฮันน่าพูดเสียงแข็งดุลูกสาวออกไป เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย เมื่อเธอถูกอีธานสวมกอดจากทางด้านหลังอยู่แบบนี้
"รีบไปเรียกพี่สิลูก เดี๋ยวที่เหลือพ่อจะเข้าไปยกมาเอง"
"ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ" กันยายิ้มแฉ่งออกมาจนแก้มแทบปริ แล้วรีบเดินออกจากบ้านไปเรียกตุลาเพราะนี่คืออาหารมื้อแรกในชีวิตที่จะได้รับประทานพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกเสียที ในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา
"คุณทำอะไรแม่ผม... แม่ร้องไห้ทำไม เขาทำอะไรแม่หรือเปล่าครับ" ตุลาคุกเข่าลงพร้อมกับสำรวจมารดา เพราะเขากลัวว่าผู้ชายตัวโต ที่กำลังแสดงตัวว่าเป็นบิดาของเขาจะทำร้ายมารดา
"ไม่มีอะไรหรอกลูกแม่แค่ปวดท้องนิดหน่อยก็เลยร้องไห้ออกมา ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย มาทานข้าวกัน ทำไมมองพ่อแบบนั้นล่ะไหว้พ่อเสียสิลูก" ตุลามองอีธานอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่ เพราะเขาคือต้นเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาต้องอยู่เพียงลำพัง เพื่อเลี้ยงลูกฝาแฝดด้วยความยากลำบากแสนเข็ญมาตั้งสิบกว่าปี แต่ก็ยอมยกมือขึ้นไหว้ เพราะขัดมารดาไม่ได้
"คุณเป็นผู้ชายที่แย่มากเลยนะครับ ทำไมถึงปล่อยให้แม่อดข้าวหลายชั่วโมงแบบนี้"
"พ่อขอโทษ... ที่ไม่ใส่ใจแม่ของลูกให้มากกว่านี้ พ่อสัญญาว่าจะดูแลแม่รวมทั้งกันยาและตุลา ให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำเพื่อครอบครัวได้" อีธานพยายามพูด เพื่ออธิบายให้ลูกชายได้เข้าใจ โดยที่เขาก็ไม่ได้แก้ต่าง เพื่อให้ลูกชายมองเขาในแง่ที่ดีขึ้น อีธานอยากจะเข้าไปกอดตุลาเหมือนที่กอดกันยาในครั้งแรกที่เจอกัน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่าลูกชายจะพยศ เอามากๆ คงจะได้นิสัยมารดามาเต็มๆ
"คุณไม่จำเป็นต้องสัญญากับผม ผมเกลียดคำสัญญาเพราะว่ามันไม่มีอยู่จริง"
"ตุลา...ไม่เอาน่า... แม่เป็นคนห้ามพ่อเองไม่ให้จอดทานมื้อเช้า เพราะต้องรีบเข้าร้านกลัวว่าคุณศิลาจะรอนาน เรื่องแค่นี้เองไม่เป็นไรหรอกนะลูก" ฮันน่าเองก็ไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกของตุลาได้ แต่ที่เธอสัมผัสได้ก็คือลูกชายรักเธอมาก และมากพอที่จะทำให้เขาเกลียดพ่ออย่างอีธานได้เช่นกัน จนฮันน่ารู้สึกสงสารผู้เป็นสามี เพราะดูเหมือนว่าตุลาจะไม่ยอมรับเขาเป็นบิดาง่ายๆ
"นี่ตุลาเขาชวนตัวมาทานข้าว ไม่ได้ชวนมาทะเลาะกับพ่อ เก็บปากไว้กินข้าวเหอะ...นั่งลงแม่หิวข้าวจะเป็นลมแล้วเนี่ย"
กันยาเลื่อนเก้าอี้แล้วจับตุลานั่งลง พร้อมด้วยเหตุผลที่เธอยกเอามารดาขึ้นมาเป็นข้ออ้าง จึงทำให้ตุลาคมยอมจำนนนั่งลงแต่โดยดี จากนั้นทุกคนก็ลงมือรับประทานอาหาร แม้ว่ามันจะไม่ใช่มื้อที่พิเศษที่สุด แต่สำหรับทุกคนแล้ววันนี้คือวันวันที่วิเศษมากๆ สำหรับพวกเขา แม้ว่าวันนี้ตุลาจะยังคงปรับตัวยอมรับอีธาน เข้ามาในชีวิตของเขาในฐานะบิดาไม่ได้ แต่ฮันน่าก็เชื่อว่าความอ่อนโยนของอีธาน ความรักที่บริสุทธิ์ จะสามารถพังทลายกำแพงหัวใจของตุลาได้ไม่ยาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์ร้ายใจปรารถนา Series Follow you heart