พอได้ปะทะกับแยนนี่อย่างจริงจังมาเรียรู้สึกว่าเธอได้เป็นศัตรูกับผู้หญิงคนนี้แล้วอย่างชัดเจน "คุณเป็นแค่ของเล่นที่เชนน์เจอในช่วงเวลาสั้นๆ คุณจอย ถ้าคนเราคิดว่าตัวเองสูงส่งเกินไปพวกเขามักจบลงด้วยการสูญเสียทุกอย่าง"
แยนนี่หัวเราะเบา ๆ "คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉันหรอกค่ะ ตราบใดที่ฉันใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างอื่นก็ไม่สำคัญ ดูเหมือนว่าตอนนี้คุณจะต้องการความช่วยเหลือจากฉันนะคุณแซนเดอร์ส การที่ฉันปฏิเสธคุณได้นั้นก็เพราะฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะทำ ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไรหรือวางแผนจะแก้ไขความสัมพันธ์ของคุณกับเชนน์อย่างไร นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับเขามันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย ชีวิตและความสัมพันธ์ของฉันกับเชนน์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับคุณเลยสักนิดค่ะ คุณแซนเดอร์ส"
นี่เป็นครั้งแรกที่มาเรียถูกปฏิเสธถึงขนาดนี้เพราะไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็มักจะได้รับการปฏิบัติราวกับเจ้าหญิง น้อยคนนักที่จะปฏิเสธความต้องการของเธอและแม้ว่าจะปฏิเสธพวกเขาก็จะไม่ทำมันในแบบที่แยนนี่กำลังทำกับเธอ
แยนนี่ไม่สามารถทำให้เธอรักษารอยยิ้มตามมารยาทนี้ไว้ได้อีกต่อไปเพราะขณะนี้ใบหน้าสวยดูเย็นชาอย่างไม่น่าเชื่อ มาเรียกล่าวต่อว่า "ไม่ว่าตอนนี้เชนน์จะโปรดปราณคุณมากเพียงใด คุณก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าของเล่นที่สวยงาม ในเมื่อคุณปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอของฉันไปคุณก็รอให้เชนน์ทิ้งคุณไปเสียเถอะ แต่ถ้าคุณยินดีที่จะช่วยฉันแก้ไขความสัมพันธ์ของฉันกับเชนน์บางทีนี่อาจเป็นโอกาสเดียวของคุณที่จะได้แต่งงานกับตระกูลจินน์รู้หรือเปล่า?”
คำพูดของมาเรียฟังดูถากถางและไม่น่าฟังนักถ้านี่คือผู้หญิงธรรมดาคนอื่นๆ พวกเขาคงโกรธและอับอายขายขี้หน้าไปแล้ว
แต่ไม่ใช่กับแยนนี่เธอดูนิ่งสงบจนไม่น่าเชื่อ แยนนี่เพียงแค่ฉีกยิ้มหวานและตอบกลับไปว่า "คุณแซนเดอร์ส นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับแม่ที่น่ากลัวอย่างคุณ คุณไม่ได้กำลังสาปแช่งฉันแต่คุณกำลังสาปแช่งความสุขของลูกชายคุณในอนาคต ความจริงก็คือคุณไม่เคยสนใจว่า เชนน์ ลูกชายของคุณจะอยู่ดีกินดีมีความสุขอยู่หรือเปล่า คุณไม่ได้ตั้งใจจะชดเชยความผิดในอดีตของคุณต่อเขา สิ่งที่คุณต้องการไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการบรรเทาความรู้สึกผิดและความว่างเปล่าภายในใจของตัวเอง”
ในตอนแรกแยนนี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อมาเรียนักในระหว่างการพบกันครั้งแรก แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วความจริงก็คือทั้งมาเรียและวินสันคล้ายกัน พวกเขาทั้งคู่ล้มเหลวในการเป็นพ่อคนแม่คน แต่มาเรียก็ยังดีกว่าวินสันนิดหน่อยเพราะอย่างน้อยเธอก็รู้วิธีสร้างฉากหน้าทำให้ตัวเองดูดี ยิ่งใหญ่ และสูงส่ง
แยนนี่ไม่สนใจว่ามาเรียจะรู้สึกอย่างไรหลังจากพูดไปแบบนั้นเธอเพียงแค่คว้ากระเป๋าและเตรียมจากไป
มาเรียโกรธจัดจนเธอต้องจิกเล็บยาวๆ ลงที่ฝ่ามือเพื่อระบายมัน ความกดดันในบรรยากาศรอบตัวเธอปกคลุมมากขึ้น
เมื่อแยนนี่เปิดประตูและลงจากรถเธอก็หันกลับมาและพูดอย่างใจเย็นว่า "คุณทิ้งลูกของคุณไปแล้วในตอนนั้นแล้วทำไมคุณยังพยายามเสแสร้งทำเป็นใกล้ชิดสนิทสนมกับเขาจริงๆ?"
ร่างกายทุกตารางนิ้วของมาเรียแข็งทื่อ
…
เชนน์รีบกลับมาจากยุโรปสองวันก่อนเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เขาบินกลับมาในตอนกลางคืน
ต้นอาเคเชียที่ปลูกไว้ในลานกว้างถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและกิ่งก้านบางกิ่งก็เริ่มหักงอ
โพสต์ที่ทำให้ชื่อเสียงของแยนนี่แปดเปื้อนถูกเผยแพร่ไปทั่วบนโลกออนไลน์ โพสต์ดังกล่าวล้อเลียนและหยามเหยียดว่าแยนนี่แค่กำลังใช้เต้าไต่ไปสู่ครอบครัวที่ร่ำรวย
สปริงโทรหาแยนนี่และบอกกับเธอว่าต้องการติดต่อกับท่านประธานจินน์เพื่อระงับโพสต์ดังกล่าวแต่ แยนนี่ห้ามไว้
"แยนนี่ ตอนนี้เธอเป็นคนดังที่มักอยู่ในที่ลับและมีผลงานเชิงศิลปะถ้าชื่อเสียงของเธอยังคงแปดเปื้อนอยู่แบบนี้เธอจะสูญเสียแฟนๆ จำนวนมากนะ เราจำเป็นต้องแจ้งให้ประธานจินน์ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้และให้เขาเข้ามาจัดการระงับบัญชีนิรนามไม่มีมูลพวกนั้นให้หมด นี่เท่านั้นที่จะกู้ชื่อเสียงเธอกลับมาได้"
แยนนี่ห่อตัวอยู่ในผ้าห่มนั่งอยู่บนโซฟาเธอพูดอย่างมีเหตุผลขึ้นมาว่า "แม้ว่าจะระงับบัญชีพวกนั้นแต่ตราบใดที่ยังมีผู้ไม่หวังดีข่าวนี้ก็จะยังถูกกุขึ้นมาอีกครั้ง"
"แต่การงานของเธอกำลังเฟื่องฟูและการโจมตีครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ยิ่งเรื่องงานเธออาจจะไม่ถูกป้อนงานใดๆ เลยในช่วงนี้แต่สื่อบันเทิงพวกนั้นจะรวมพลังกันแล้วรุมทึ้งเธอ ฉันต้องมีคนตรวจสอบว่าใครกันแน่ที่เป็นคนติดสินบนสื่อพวกนั้นให้กุข่าวไร้สาระขึ้นมาแบบนี้ ถ้านี่เป็นคู่แข่งเราก็ต้องให้ประธานจินน์เข้ามาช่วยด้วยรู้ไหม”
แยนนี่ถามขึ้นอีก "นี่ สปริง ความจริงก็คือสื่อพวกนั้นจะสามารถเขียนอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ เพราะสำหรับคนอื่นแล้วพวกเขาคิดว่าฉันไม่คู่ควรกับเชนน์ใช่ไหม?"
สปริงได้ยินแบบนั้นก็ตาโตก่อนจะพูดว่า "โอ้ แยนนี่ เธอจะคิดมากไปเพื่ออะไรเธอควรจะภูมิใจไว้สิที่ได้เดทกับท่านประธานจินน์ ฟังนะ แม้ว่าเธอจะแต่งงานกับประธานจินน์ไปแล้วแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะกลายเป็นใครอื่น นอกจากนี้หากคนอื่นคิดว่าเธอคบหากับท่านประธานเพียงเพื่อผลประโยชน์เธอก็ยังเป็นคนเดียวที่รู้และใช้ชีวิตหลังการแต่งงานนั่น ความสัมพันธ์ไม่ใช่การแสดงความรักเพื่อให้ใครต่อใครมารอชมรู้ไหม”
เนื่องจากสปริงมีประสบการณ์ต่างๆ มามากมายเธอจึงเข้าใจอะไรหลายๆ สิ่งอย่างทะลุปรุโปร่ง อย่างไรก็ตามแยนนี่ก็ยังเป็นคนที่ดื้อรั้นและเย่อหยิ่ง
เธอเม้มริมฝีปากก่อนจะหัวเราะเบา ๆ หญิงสาวโต้กลับไปอย่างช่วยไม่ได้ "นี่ สปริง ถ้าเธอคิดว่าการออกเดทกับเชนน์เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจแล้วทำไมเธอไม่สามารถทำให้คนอื่นภาคภูมิใจที่เชนน์ได้คบกับฉันบ้างล่ะ ใช่ ฉันดีใจที่เชนน์รักฉัน เพราะฉันรู้สึกโชคดีมากที่เราทั้งคู่รักกันแต่ฉันเริ่มโลภในความสัมพันธ์ของเรา โอ้ สปริง นอกจากเราจะมีความรักต่อกันแล้วเรายังเท่าเทียมกันด้วยการยืนหยัดสู้กับศัตรูคนเดียวกันอีกด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน