อ่านสรุป บทที่ 1135 ดอกไม้ไฟไม่หวนกลับมา 1 จาก เล่ห์รัก ท่านประธาน โดย โอเอสเต้ ลูน่า
บทที่ บทที่ 1135 ดอกไม้ไฟไม่หวนกลับมา 1 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย โรแมนติค เล่ห์รัก ท่านประธาน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย โอเอสเต้ ลูน่า อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เชนน์เริ่มใช้ความรุนแรงทางอารมณ์ เขาเริ่มกลับบ้านดึกพร้อมกับกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งติดตัวไปทั่วและทำตัวก้าวร้าวเมื่ออยู่ที่บ้าน
แต่ถึงอย่างนั้นแยนนี่ก็ไม่ได้ทำหรือถามอะไร เมื่อใดก็ตามที่เขากลับถึงบ้านเธอก็จะเตรียมน้ำให้อาบและจัดแจงเสื้อผ้าในแต่ละวันให้ตามปกติ
เธอทำตัวเป็นหมือนภรรยาที่ห่วงใยทั่วๆ ไปคอยดูแลปรนนิบัติโดยไม่ปริปากสักคำ
แยนนี่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอยังคงเป็นผู้หญิงที่ถูกต้องตามกฎหมายของคฤหาสน์หลังนี้
อย่างไรก็ตามความปวดร้าวในใจและความเหินห่างได้เพิ่มขึ้นมาหนึ่งระดับรอคอยวันที่จะระเบิดออกมา
ทะเบียนสมรสถูกโยนลงบนพื้นก่อนที่เชนน์จะย่ำเท้ากระทืบมันซ้ำๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเขาเก็บมันไว้เหมือนสมบัติอันศักดิ์สิทธิ์ในตู้เซฟ
แยนนี่ก้มลงหยิบทะเบียนสมรสของทั้งคู่อย่างระมัดระวังเธอพยายามเช็ดคราบเปื้อนออกด้วยมือของตัวเอง แต่คราบพวกนี้ก็ไม่ยอมหลุดหายไปสักทีไม่ว่าจะถูแรงแค่ไหนก็ตามเช่นเดียวกับเธอ
เธอพยายามขัดมันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะขยำฉีกใบทะเบียนนี้
น้ำใสๆ เริ่มหยดแหมะลงบนกระดาษ
หลังจากอาบน้ำเสร็จเชนน์ก็ออกมาจากห้องน้ำ เขามองแยนนี่ที่กำลังขัดถูเอาคราบสกปรกบนใบทะเบียนสมรสออกอยู่บนพื้นอย่างเย็นชาแล้วแสยะยิ้มพูดจาถากถางเธอ “ของที่สกปรกจะขัดให้สะอาดได้อย่างไร?”
แยนนี่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขัดถูมัน
เชนน์ขมวดคิ้วก่อนที่จะหมดความอดทนในที่สุด ชายหนุ่มตวาดลั่น “หยุดเช็ดมันได้แล้ว!”
เขาเอื้อมมือไปหยิบใบทะเบียนสมรสมาถือไว้ในมือแล้วบอกกับแยนนี่ “เธอรู้วิธีทำความสะอาดมันไหม?”
เชนน์คว้าไฟแช็กที่อยู่ข้างโต๊ะมาจุดจนมีเปลวไฟเล็กๆ ขึ้นมาก่อนจะจ่อที่ขอบทะเบียนสมรส ขณะที่มันเผาไหม้ความร้อนของเปลวไฟรินรดใบหน้าเขาแค่คืบ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้สีหน้าชายหนุ่มคลายความเย็นชาลงเลยแม้แต่น้อยด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกเขาพูดว่า “แบบนี้นี่เองก็ปล่อยให้พวกมันเผาไหม้เป็นเถ้าถ่านเท่านี้ก็สะอาดแล้ว”
แยนนี่จ้องมองเขาอย่างหมดหนทาง เชนน์เพิ่งจะเผาใบทะเบียนสมรสของพวกเขาไป
กระดาษแผ่นนั้นถูกเผาไหม้จนเหลือมุมกระดาษเล็กๆ ก่อนที่เชนน์จะโยนมันลงในที่เขี่ยบุหรี่ด้วยความขยะแขยง เขาโยนทิ้งมันไป
แยนนี่ไม่ทำอะไรเธอเพียงแค่ฝืนยิ้มบนใบหน้าแสดงให้เขาเห็นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอกล่าว “ฉันจะไปเอาชุดนอนมาให้คุณ”
ดูเหมือนเชนน์จะสติหลุดไปแล้วจริงๆ เขาจับข้อมือเรียวดึงรั้งอย่างรุนแรงแล้วดุด่าเธอด้วยความโมโห “เธอยังคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติกุลสตรีในบ้านนี้อยู่อีกหรือ?”
ในที่สุดสายตาที่เลื่อนลอยของแยนนี่ก็พลันสว่างวูบหนึ่ง
นี่เธอเพิ่งเสียสิทธิ์นั้นไปใช่หรือไม่?
แยนนี่ไม่กล้าถามเขาบางทีมันอาจจะเป็นอย่างที่เชนน์พูดก็ได้ เธอไม่มีเหลือแล้วซึ่งศักดิ์ศรีเลยจริงๆ
เธอปรารถนาให้เชนน์มีเพียงความสุขก็เท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นการที่เธออยู่เคียงข้างเขามันดูเหมือนจะไม่ทำให้เชนน์มีความสุข มีแต่จะทำให้ทั้งคู่ทุกข์ทรมานมากขึ้น
แยนนี่ไม่รู้ว่าความดื้อรั้นและดันทุรังนของเธอมันถูกหรือผิด
ช่วงเวลาวันคืนเหล่านั้นเธอปฏิเสธพวกมันอยู่ในใจตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับมันอยู่เสมอ ความขัดแข้งในใจมันฟาดฟันกันเสียจนตัวเธอแทบแยกออกมาเป็นสองส่วน
แยนนี่กำลังจะเป็นบ้าส่วนเชนน์ก็เสียสติไปแล้วเช่นกัน
แยนนี่ก้มหน้าลงเล็กน้อยเธอพยายามเค้นเสียงแหบพร่าออกมาอย่างยากลำบาก ก้อนในคอมันจุกอยู่จนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ หญิงสาวพยายามจะกลื้นก้อนสะอึกนั้นลงไปหลายต่อหลายครั้งจนในที่สุดก็พูดออกมาได้หนึ่งประโยค “ทำไมเราถึงไม่… ทำไมเราถึงไม่หยุดเรื่องทั้งหมดนี้ ”
เธอรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
รอยแยกของความสัมพันธ์ที่แตกร้าวนี้ราวกับช่องว่างระหว่างพวกเขา ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็ข้ามมันไปไม่ได้
ท้องฟ้าไม่ได้ถล่มลงมา
ผู้คนทั่วสารทิศต่างรื่นเริงบันเทิงใจกับบรรยากาศ
แยนนี่นั่งข้างหน้าต่างในเรือนนอกบ้าน เธอมองออกไปข้างนอกเห็นแสงไฟสว่างไสวเห็นความมีชีวิตชีวาของครอบครัวนับไม่ถ้วนซึ่งพวกเขาไม่ได้มาเห็นหรือสนใจอะไรเธอ
นับตั้งแต่ที่เชนน์ขังเธอไว้ที่เรือนนอกคฤหาสน์ นอกจากให้แม่บ้านมาคอยส่งข้างส่งน้ำแล้วเขาก็ไม่เคยมาหาเธออีกเลย
คืนนี้เขาก็จะไม่มาอีกแล้วใช่ไหม?
นอกหน้าต่างดอกไม้ไฟกำลังบานสะพรั่งอย่างสวยงามในระยะไกล แสงสว่างของมันสาดส่องให้กับอาคารเล็กๆ ที่มืดมิด
แยนนี่เงยหน้าขึ้นมองดอกไม้ไฟนอกหน้าต่าง ริมฝีปากของเธอค่อยๆ แย้มยิ้ม
เสียงดอกไม้ไฟดังอยู่ใกล้ๆ เธอแต่ก็ดูเหมือนห่างไกล
ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อนานมาแล้วความสุขของเธอคือการได้ชมดอกไม้ไฟที่สวยงามและมีเงินมากพอที่จะซื้อลูกอมทุกรสที่อยากกิน
ในตอนนั้นแยนนี่คิดว่าความสุขสามารถทบทวีคูณได้และการรอคอยจะพาไปสู่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เธอไม่เคยคิดว่าบางคนจะเป็นเหมือนดอกไม้ไฟที่สว่างไสวและหายไปในพริบตา สิ่งที่เธอมีในห้วงเวลานั้นเป็นเพียงแค่ความหรูหรา
หญิงสาวนั่งอยู่คนเดียวในเรือนเล็กท่ามกลางความมืดมิด เธอเฝ้าคอยช่วงเวลาที่ห้องทั้งห้องจะสว่างไสวด้วยแสงจากดอกไม้ไฟหลากสีที่ลอดผ่านหน้าต่างมา
เชนน์บอกให้เธอรอเขากลับบ้านมาจุดดอกไม้ไฟให้
แต่ถึงอย่างนั้นไม่มีอีกแล้วดอกไม้ไฟที่เขาสัญญา
และบ้านของเธอก็ได้จากไปแล้วเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน