เวลา 12.00 นาฬิกา วันส่งท้ายปีตรุษจีน เสียงจุดดอกไม้ไฟและประทัดดังระงมก้องไม่มีสิ้นสุด เป็นยามที่เหล่าผู้คนต่างร่วมยินดีต้อนรับวันขึ้นตรุษจีนใหม่สร้างเสียงครึกครื้นแห่งการเฉลิมฉอง
แต่ยามราตรีที่หนาวเหน็บกลับเงียบเหงาสำหรับร่างของชายหนุ่มยืนเดียวดายอยู่ใต้เรือนนอกคฤหาสน์
ก้นบุหรี่ที่ยังติดไฟถูกทิ้งเกลื่อนกลาดไม่ห่างจากตัวเขา ประกายไฟที่เหลือนั้นส่องแสงแผ่วเบากลางลมหนาวเย็น
เชนน์ยืนอยู่ใต้เรือนหลังคฤหานส์ขณะที่สายตาจับจ้องขึ้นไปยังชั้นสอง แสงจากโคมไฟตั้งโต๊ะในห้องเล็กเปิดอยู่ ดับลง เปิดขึ้น ดับลงอีกครั้ง เปิดขึ้นมาอีกและดับลงอีกครั้ง ในที่สุดทุกอย่างก็ตกอยู่ในความมืดมิด
เรือนนอกที่อยู่ในสวนหลังของคฤหาสน์เป็นของขวัญจากสถาปนิกมอบให้ตอนที่เขาสร้างคฤหาสน์หลังนี้ขึ้นมา ตัวเรือนนั้นผสมผสานสถาปัตแบบตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน เชนน์ที่เคยชอบเก็บสะสมโมเดลจำลองและของเก่า เขาสะสมของหายากมากมายและพวกมันล้วนถูกเก็บไว้ในเรือนหลังเล็กนั่น
เรือนนอกนั้นควรที่จะเป็นสถานที่เก็บสมบัติล้ำค่าสำหรับเขา แต่ว่าในตอนนี้ มันกลายเป็นกรงขังเพื่อจองจำภรรยาของเขาเสียแล้ว
เชนน์นำกล่องไฟเย็นออกมา เขาเคยสัญญาว่าจะจุดดอกไม้ไฟให้กับเธอในวันส่งท้ายปี
เขาล้วงไฟแช็คออกจากกระเป๋าแจ็กเก็ตแล้วใช้มันจุดไฟในมือ เสียงไฟเย็นถูกจุดขึ้นดังแซ่ดเหมือนกับดาวห่างที่พุ่งออกจากมือ
เขาจุดไฟเย็นก้านแล้วก้านเล่าจนพื้นเกลื่อนด้วยก้านสีเปล่าที่เพิ่งถูกจุดไป
เขายังจดจำช่วงเวลาที่หาดออซซิตี้ได้ เธอเคยบอกเขาว่าการจุดดอกไม้ไฟง้อผู้หญิงเป็นเรื่องที่ดูงี่เง่าสุด ๆ แถมยังปรามเขาอีกว่าอย่าไปหาทำแบบนี้ให้ผู้หญิงคนไหนในอนาคตเพราะพวกเธอไม่ชอบอะไรแบบนี้แน่ ๆ
ในตอนนั้นเขาคิดว่าเขาจะจุดดอกไม้ไฟเพื่อผู้หญิงคนนี้ไปตลอดชีวิต เพื่อเธอเท่านั้น
แต่ดอกไม้ไฟก็สว่างอยู่ได้ไม่นานหลังส่องแสงเปล่งประกายบนฟากฟ้า ต่อให้พวกมันจะงดงามเพียงใดสุดท้ายก็เหลือไว้เพียงความเงียบเหงาอยู่ดี
สิ่งใดที่พวกเขาหวังสูงเอาไว้มักถูกโชคชะตาขัดขวางเอาไว้ เขาไม่น่าให้สัญญากับเธอว่าจะจุดดอกไม้ไฟให้เมื่อเขากลับมา
เชนน์ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความทรมานนี้จะสิ้นสุดลง ไม่ว่าอย่างไร เขายังคงปลอบตัวเองว่าสุดท้ายแล้วมันจะจบลง
ตราบใดที่เธอยังอยู่ข้างเขา เขาคงหาโอกาสและเหตุผลที่จะให้อภัยกับเธอได้ในที่สุดโดยไม่สนว่าเขากำลังฝืนหรือเสียสติไปแล้วกันแน่
ต่อให้ต้องเจ็บปวดมากแค่ไหนเขาก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป
เพราะเขารักเธอมากเหลือเกิน ความรักของเขานั้นเข้าขั้นถลำลึก หยาบโลน เป็นรักที่ต้องการเป็นเจ้าของและต้องการครอบงำ เป็นรกที่เต็มไปด้วยความรู้สึกจมดิ่งทั้งความเศร้า หวาดระแวง กลัวสูญเสีย และสิ้นหวัง
เขามักถูกอารมณ์ด้านลบพวกนั้นเขาครอบงำ และรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งอยู่ในหนองน้ำโสโครก ยิ่งกระเสือกกระสนมากเท่าไหร่สยิ่งจมลงมากขึ้นเท่านั้น
เขารักแยนนี่เสียจนอยากจะดึงเธอให้จมไปด้วยกัน แต่ขณะเดียวกันเขาก็หวังให้เธอเป็นคนช่วยดึงเอาเขาออกไป
เขาเฝ้ารอ รอให้แยนนี่มาช่วยเขาออกไป รอให้แยนนี่บอกเหตุผลกับเขาเพื่อที่จะได้ให้อภัยแก่เธอ
เมื่ออารมณ์เชิงลบและรุนแรงทั้งหมดหาทางลงไม่ได้ สุดท้ายมันก็ถูกเอาไปลงกับเธอ ยามได้มองดูเธอเจ็บปวดจากการทรมานของเขาทำให้เชนน์ได้ปลดปล่อยความรู้สึกเกลียดชังที่มีต่อเธอได้ชั่วขณะ เขาบอกตัวเองเห็นใจเธอบ้างแม้มันจะทำให้เขาดีกับเธอขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม
เสียงนาฬิกาดังเมื่อเข็มชี้เลข 12.00 นาฬิกา ในวันขึ้นตรุษจีน
เชนน์มองเข้าไปในห้องมืดสนิทบนชั้นสองแล้วพึมพำเบา ๆ “แยนนี่ สุขสันต์วันปีใหม่นะ”
ในตอนนี้ เขายังไม่สามารถมองหน้าเธออย่างใจเย็นได้ การไม่ไปเจอเธอถือเป็นการดีที่สุด
ถึงอย่างนั้น เชนน์ไม่รู้เลยว่าในคืนที่เขายืนอยู่ตรงบันไดตลอดทั้งคืน แยนนี่กำลังรอเขาอยู่บนชั้นสอง เธอเฝ้ารอตลอดทั้งคืนเพื่อรอดูดอกไม้ไฟจากเขา
คนที่รักษาคำพูดจะไม่มีทางลืมคำสัญญาได้ง่าย ๆ แบบนั้น
7.00 นาฬิกาของอีกวัน ท้องฟ้าเริ่มสร่าง
แยนนี่เดินมายังหน้าต่างก้มหน้ามองบันได้ด้านล่าง ไม่มีทั้งดอกไม้ไฟและคนที่เธอรอคอย
เธอหวังว่าเชนน์จะปรากฎตัวออกมาพร้อมกับดอกไม้ไฟเรียงรายอยู่บนพื้นข้างล่าง และเมื่อดอกไม้ไฟพวกนั้นถูกจุดขึ้น เขาจะเดินเข้ามาหาเธอพร้อมฉากหลังที่เต็มไปด้วยแสงสี
แต่เธอรู้ตัวดีว่าเธอไม่คู่ควรกับสิ่งเหล่านั้นเลย
…
เช้าวันแรกของปีใหม่ ซินดี้และซาแมนธาแวะเข้ามา
ซินดี้ยืนอยู่หลังซาแมนธาอย่างโกรธเคือง เธอโก่งคอตะโกนเสียงดัง “เชนน์ จินน์! นายทำอะไรกับแยนนี่กันแน่?! ฉันขอเตือน ปล่อยตัวแยนนี่ไปซะเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้น… ไม่อย่างนั้น ฉันจะแจ้งตำรวจ! ”
สีหน้าของเชนน์ดูน่ากลัวมากทั้งดูเย็นชาและตายด้านไม่รู้ร้อนรู้หนาว ต่อให้ซินดี้จะมีความกล้าแค่ไหนก็เหมือนกำลังยกตนข่มท่านเสียเปล่า เธอกำเสื้อของซาแมนธาเอาไว้แน่นพร้อมหลบอยู่ด้านหลังก่อนพูดเสียงเบา “ซาแมนธา พี่ชายของเธอน่ากลัวชะมัด ทำไมทำอย่างกับมีคนตายอย่างนั้นแหละ?”
เชนน์ขมวดคิ้ว แล้วจ้องเขม็งไปยังซินดี้ด้วยสายตาคมเฉียบ “แล้วเธอไปรู้เรื่องนี้มาจากไหนไม่ทราบ?”
“ฉัน…นายไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันรู้เรื่องนี้ได้ยังไง! ถ้านายไม่ให้ฉันเจอแยนนี่ ฉันจะ…ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
ซาแมนธาเองก็กลัวว่าเชนน์จะทำอะไรเลวร้ายเข้าจริง ๆ แม้ตอนนี้พี่ชายของเธอจะดูสะพรึงกลัวมากแต่เธอก็ยังยืนหยัดแล้วพูดว่า “พี่คะ ให้พวกเราได้เจอพี่แยนนี่เถอะนะ! ไม่สิ พวกพี่แต่งงานกันแล้ว เธอเป็นพี่สะใภ้ของฉันเหมือนกันนะ พี่คะ ขอร้องเถอะ ให้เราได้เจอพี่สะใภ้ด้วย! ถ้าพี่มีอะไรผิดใจกันกับเธอ ซินดี้กับฉันจะพยายามช่วยพูดกับเธอให้ บางทีพวกเราอาจช่วยพี่ได้นะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน