ดวงตาของแยนนี่ร้อนผ่าว เธอตรงไปยังประตูทางออกเพื่อขึ้นเครื่องในทันทีอย่างไม่ลังเล
แยนนี่นั่งอยู่ในระดับชั้นธุรกิจบนเครื่องบิน เธอไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้อยู่พักใหญ่ กระทั่งเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มาพร้อมกล้องโพลารอยด์ในมือ เธอยื่นรูปของแยนนี่ส่งมาให้
แยนนี่ชะงักเล็กน้อยแล้วมองดูรูปภาพ
มันเป็นภาพที่เธอกำลังสวมกอดกับเชนน์ในสนามบินเมื่อครู่ ช่างภาพตัวน้อยจัดแสงและมุมได้อย่างยอดเยี่ยม จนภาพนั้นราวกับกำลังบอกเล่าเรื่องราวความรักอันสวยงาม
เด็กสาวอธิบาย “ขอโทษนะคะ พอดีหนูเห็นพวกคุณก่อนหน้านี้ หนูคิดว่าพวกคุณดูดีมากก็เลยถ่ายภาพพวกคุณเอาไว้ หนูไม่คิดเลยว่าเราจะได้นั่งเที่ยวบินเดียวกัน หนูเลยคิดว่าเอาให้ภาพนี้ให้คุณจะดีกว่า”
แยนนี่ก้มหน้าลงจ้องมองภาพที่อยู่ในมือ ริมฝีปากซีดเซียวของเธอคลี่ยิ้ม
เกรงว่านี่จะเป็นอ้อมกอดครั้งสุดท้ายที่เธอจะให้กับเชนน์
พอเห็นว่าแยนนี่เงียบไป เด็กสาวเอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล “คุณโกรธที่หนูแอบถ่ายพวกคุณรึเปล่าคะ?”
แยนนี่ยิ้มอ่อนส่ายหน้าให้กับสาวน้อย “ไม่จ้ะ ฉันไม่ได้โกรธเลย ขอบใจนะ ฉันจะเก็บมันไว้ เธอถ่ายออกมาได้สวยงามมากจ้ะ”
“จริงเหรอคะ?” เด็กสาวยิ้มอย่างดีใจ “หนูกำลังเดินทางไปเที่ยวชมเอ็มเพรส ทรี ซิตี้ หนูได้ยินมาว่าที่นั่นมีทั้งแม่นํ้าและภูเขาเยอะแยะเลย วิวที่นั่นอลังการมาก หนูอยากจะถ่ายรูปสวย ๆ ให้เยอะกว่านี้”
แยนนี่ไม่ได้พูดอะไรตอบ เด็กหญิงคนนี้ทั้งอายุยังน้อยและกำลังน่ารัก เธอร่าเริงและสดใส ระหว่างที่นั่งข้าง ๆ แยนนี่ เธอพยายามจะคุยกับแยนนี่อยู่ตลอดเวลา
เด็กสาวแอบเหลือบมองแยนนี่อยู่สองสามครั้งก่อนจะเอ่ยกับแยนนี่อย่างชื่นชม “คุณสวยมากเลยนะคะ”
“เธอก็สวยเหมือนกันจ้ะ” แยนนี่รู้สึกไม่ค่อยดี เธอไม่อยากจะพูดคุยสักเท่าไหร่
เด็กสาวขี้สงสัย เธอถามอย่างเป็นห่วงอีกครั้ง “หนูขอถามอะไรคุณได้ไหมคะ? ผู้ชายที่อยู่ในภาพกับคุณเมื่อกี้นี้ พวกคุณกำลังบอกลากันเหรอ?”
แยนนี่นิ่งไปพักหนึ่ง เธอไม่ปฏิเสธแล้วตอบกลับ “ฉันคิดว่างั้น”
เด็กสาวกล่าวอย่างเศร้างสร้อย “พวกคุณสองคนดูเหมาะกันมากเลยนะคะ มันน่าเศร้าที่ได้แต่มองดูพวกคุณจากกัน หนูที่ยืนอยู่ตรงนั้นช่วยอะไรไม่ได้เลยนอกจากมองพวกคุณ เฮ้อ...ครูของหนูพูดถูก เขาบอกว่าเราจะเห็นความรักที่จริงใจได้จากในสนามบินมากกว่าในงานแต่งเสียอีก และเราจะได้ยินเสียงสวดภาวนาที่จริงใจนอกห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลมากกว่าในโบสถ์”
แยนนี่มองเด็กสาวที่อายุยังน้อยแต่กลับรู้ลึกเสียเหลือเกิน เธอไม่รู้จะทำยังไงนอกจากตอบเธอกลับไป “เพราะเวลากอดกันในสนามบินมักจะเป็นกอดสุดท้ายล่ะมั้ง ขณะที่การภาวนาในโรงพยาบาลก็มักจะไม่สมหวังเช่นกัน ความรักมันก็ตลกดีเนาะ”
แยนนี่ตัวสั่นคลอน เธอหัวเราะทั้งน้ำตาที่ไหลริน
เด็กสาวเข้าปลอบเธอออย่างเห็นใจ “แต่โลกนี้ก็กลมนะคะ ถ้ายังมีรักต่อกันอยู่ พวกคุณจะได้เจอกันอีกแน่ ๆ ค่ะ พี่สาว พี่สวยมากเลยนะใครจะกล้าทำพี่ร้องไห้ได้ลงกัน”
จากนั้น แยนนี่ได้แต่หัวเราะแห้งทั้งน้ำตา เธอกล่าว “ขอบคุณนะ”
…
พอแยนนี่มาถึงเอ็มเพรส ทรี ซิตี้ เธอโบกรถแท็กซี่แล้วมุ่งหน้าสู่คาร์ฮิล เคาน์ตี้ แฟรี่ ครีก วิลเลจ
ทัศนียภาพตลอดเส้นทางงดงามตระการตา พื้นที่เขียวชอุ่ม รถของเธอแล่นผ่านเขื่อนเก็บน้ำ อากาศสดชื่นไร้เมฆบดบัง เหมาะกับการเที่ยวพักผ่อนวันหยุดยิ่งนัก
ไม่แปลกที่ปีเตอร์ บรู๊คจะตัดสินใจอยู่ที่นี่อย่างถาวร ช่างเป็นสถานที่ที่งดงามและเงียบสงบเหมาะกับการรังสรรค์ผลงาน ราวกับได้อยู่ในสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน
คาร์ฮิล เคาน์ตี้นั้นเป็นเมืองเล็ก ๆ ไม่นานเธอก็มาถึงทางเข้าแฟรี่ ครีก วิลเลจ
แท็กซี่จอด “คุณผู้หญิง เรามาถึงแฟรี่ ครีกแล้วครับ คุณลงรถแล้วเดินจากตรงนี้ได้เลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
แยนนี่สะพายกระเป๋าแล้วลากสัมภาระเดินทางมุ่งหน้าสู่หมู่บ้าน
แฟรี่ ครีก วิลเลจเป็นที่พักพิงสำหรับพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด มีบ้านพักส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่น แยนนี่ดูข้อมูลแล้วหาที่อยู่ของปีเตอร์จนเจอ เธอค่อย ๆ เดินดูทุกบ้านทีละหลัง
101 แฟรี่ ครีก วิลเลจ
ที่นี่เอง
แยนนี่วางสัมภาระลงแล้วก้าวเข้าไปใกล้ก่อนจะเคาะประตู
หลังเคาะประตูไปแล้วอยู่พักใหญ่ ชายหนุ่มกรอบแว่นหนาเตอะเดินเอื่อยเฉื่อยออกมาจากบ้าน เขาเดินเข้ามาด้วยสีหน้ามึนงง ก่อจะเปิดประตูออก
“ใครครับ?”
“สวัสดีคะ คุณคือนักเขียนปีเตอร์ บรู๊คใช่ไหมคะ?”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “เอ่อ..นั่นผมเอง แล้วคุณเป็นใครล่ะ?”
แยนนี่หยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าแล้วตอบ “ฉันมาจากบริษัทมูฟมีเดีย ชื่อลินน์ แฟรงค์ค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อพูดคุยกับคุณเรื่องลิขสิทธิ์หนังสือชุดเยลโลว์ ริเวอร์ของคุ...”
“ฉันไม่ขาย”
พอปีเตอร์ได้ยินว่าเธอมาจากบริษัทสื่อ เขาก็ปฏิเสธทันควันแล้วปิดประตูกระแทกเสียงดัง
แยนนี่ถูกปฏิเสธ แต่เธอเองก็เตรียมจิตใจไว้แล้วสำหรับศึกอันยาวนานนี้ เธอเดินลงจากบันไดอย่างใจเย็นก่อนที่ประตูบ้านจะเปิดออกอีกครั้ง
ปีเตอร์ยืนอยู่บนเนินพื้นสูง เขาพูดออกมาอย่างเย่อหยิ่ง “ปลุกฉันทำงานพรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมง ฉันจะให้โอกาสเธอกล่อมฉันอีกครั้ง เพราะเธอสวยหรอกนะ“
แยนนี่อึ้ง เธอถึงกับผงะเล็กน้อย
“อะไร? เธออยากจะซื้อลิขสิทธิ์แต่ไม่คิดจะแสดงความจริงใจให้ฉันเลยงั้นเหรอ?”
แยนนี่ยิ้ม “ไม่ค่ะ ฉันจะมาที่นี่พรุ่งนี้เจ็ดโมงเพื่อปลุกคุณทำงานค่ะ”
ปีเตอร์ปิดประตูลงอีกครั้ง
ความมั่นใจของแยนนี่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
ยังมีสายรุ้งรออยู่หลังฟ้าฝนเสมอ
แยนยี่ลงชื่อเข้าบ้านพักในแฟรี่ ครีก วิลเลจ หลังจากเดินทางมาทั้งวัน เธอรู้สึกเพลียอยุ่ไม่น้อย
ตั้งแต่เธอแท้งเมื่อสองปีก่อน ทั้งพลังงานกายและพลังงานใจของเธอไม่เหมือนเดิม ทุกครั้งที่เธอออกท่องเที่ยว เธอจะรู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติ
แฟรี่ ครีก วิลเลจเงียบสงบ ภายในบ้านพักแต่ละหลังก็เงียบเช่นกัน เงียบสงบเสียจนแยนนี่ไม่รู้จะทำอะไร
เธอเปิดทีวีในห้อง กดสุ่มเลือกสักช่อง จากนั้นก็เข้าห้องน้ำเตรียมอ่าง เธอกะว่าจะแช่น้ำสักหน่อย
เสียงดังจากทีวีที่กำลังถ่ายทอดการพยาการณ์อากาศช่วงนี้ในแฟรี่ ครีก วิลเลจ
“นี่คือสภาพอากาศในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ครับ จะมีพายุฟ้าคะนองระดับสองถึงระดับวิกฤตในท้องถิ่น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดดินถล่มบริเวณภูเขาได้ ขอให้ลดการเดินทางและระมัดระวังตัวกันในอาทิตย์ที่จะถึงนี้ด้วยครับ”
…
เช้าวันต่อมา แยนนี่มาถึงยังบ้านพักของปีเตอร์ตรงเวลา
ปัง! ปัง! ปัง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน