เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 1179

เมื่อทุกคนจากไป ก็เหลือเพียงแยนนี่และเชนน์อยู่ในห้องผู้ป่วย

เชนน์ยิ่งกล้ามากขึ้น เขาคว้ามือของแยนนี่มาแล้วซุกเข้าไปใต้ผ้าห่ม เขายิ้มเหมือนพวกนักเลงแล้วถามเธอว่า “เป็นไงบ้าง? อุ่นไหม?”

แยนนี่ได้แต่จ้องเขาเขม็งโดยไม่พูดอะไร

เชนน์ดึงมือข้างหนึ่งออกมาแล้วโบกตรงหน้าเธอ “ทำไมเธอถึงได้เย็นชากับฉันจัง? เธอไม่ยิ้มเลย นี่ฉันทำอะไรไม่ดีให้เธอโกรธเหรอ?”

“...เปล่า” แยนนี่สายตาอ่อนลง

“เธอโกหก เธอเป็นภรรยาฉันนะทำไมถึงต้องทำตัวเหมือนเป็นคนแปลกหน้ากับฉันด้วย? ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของเราสองคนไม่ดีเหรอ? หรือว่าฉันรักเธอไม่มากพอ?”

แยนนี่เจอระดมคำถามใส่เสียจนเธอไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เธอได้แต่เพียงพูดว่า “คุณเพิ่งจะฟื้น นอนพักก่อนเถอะ”

“ฉันพักมาพอแล้ว ฉันนอนจนเริ่มจะเวียนหัวแล้วเนี่ย คุยกับฉันหน่อยเถอะ”

แยนนี่ไม่มีอะไรที่จะคุยกับเขา “เราจะคุยเรื่องอะไรกันดีล่ะ?”

เชนน์ยกมือข้างหนึ่งไปหนุนหัวไว้ แล้วอีกข้างก็จับมือเธอ ดวงตาสีดำเข้มของเขามองใบหน้างดงามของเธอก่อนพูด “บอกฉันเรื่องของเรา เรารักกันได้ยังไง เราแต่งงานกันยังไง ถึงฉันจะจำอะไรไม่ได้แต่สัญชาตญาณก็บอกว่าฉันเกลียดความคิดเรื่องการที่ต้องแต่งงานแล้วต้องโดนผูกพัน ถ้าฉันยอมแต่งงานกับเธอแสดงว่าฉันคงจะต้องรักเธอมาก”

แยนนี่พูดไม่ออก

เมื่อเห็นเธออึ้งไป เชนน์ก็ยื่นใบหน้าหล่อเหลาของเขาเข้ามาใกล้ “ฉันพูดถูกใช่ไหม?”

แยนนี่เม้มปาก เธอถาม “คุณหิวน้ำไหม?”

“นิดหน่อย”

แยนนี่รินน้ำใส่แก้วแล้วส่งให้เขา

เชนน์พูด “ตอนนี้ฉันเป็นคนป่วยนะ ป้อนหน่อยสิ”

“มือคุณไม่ได้หักสักหน่อย”

“เธอเป็นภรรยาฉันไม่ใช่เหรอ?”

แยนนี่ไม่รู้จะบอกเขายังไงว่าพวกเขาหย่าขาดกันแล้ว มันคงยากที่จะอธิบายเธอก็เลยไม่คิดที่จะยกเรื่องนี้มาพูด เธอยกแก้วน้ำไปจ่อปากเขา “ดื่มสิ”

เชนน์จับมือเธอไว้แล้วดื่มน้ำไปครึ่งแก้วอย่างเชื่อฟัง

เมื่อเขามองเธอดวงตาก็เป็นประกายระยิบระยับราวกับมีดวงดาวมากมายในนั้น ดวงตาเขาใสกระจ่าง ความรักที่เขามีให้เธอแทบล้นปรี่ออกมา

เมื่อแยนนี่วางแก้วลง มือเธอลื่นจนแก้วเกือบร่วงลงกระแทกพื้น

เชนน์บีบมือเธอแน่นและถาม “ทำไมเธอถึงใจลอยจังเวลาที่อยู่กับฉัน? เธอคิดเรื่องอะไรอยู่?”

“ไม่มีอะไร”

“ก็ได้ ว่าแต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย”

“แยนนี่ จอย”

“ชื่อเพราะมาก” เชนน์พูดพร้อมรอยยิ้ม

แยนนี่อยู่เป็นเพื่อนเขาครู่หนึ่ง เชนน์นั้นเพิ่งฟื้นและอาการบาดเจ็บของเขาก็รุนแรงซึ่งทำให้เขาอ่อนแรง ไม่นานนักเขาก็หลับไป

แยนนี่เดินเข้าไปหาหมอก่อนถาม “หมอคะ อาการที่เขาเป็นนี่ปกติไหม?”

หมอตอบ “ครับ บางครั้งในเหตุหิมะถล่ม อาจจะมีการกระแทกทำให้สมองกระทบกระเทือน ซึ่งส่งผลให้เขามีอาการความจำเสื่อมในช่วงสั้น ๆ ได้”

“แล้วเขาจะฟื้นคืนความทรงจำเมื่อไรคะ?”

“ผมก็บอกเวลาแน่นอนไม่ได้นะครับ คงต้องดูว่าเขาฟื้นตัวยังไง แต่จากผล CT สมองเราเห็นว่าสมองเขาไม่ได้เสียหายมาก อาการน่าจะอยู่แค่ชั่วคราว”

เชนน์นอนหลับไปจนถึงตอนบ่าย

เมื่อเขาตื่นขึ้นก็พบซาแมนธายืนอยู่ต่อหน้า

เชนน์รู้สึกกระวนกระวายและร้อนใจเล็กน้อย “พี่สะใภ้เธออยู่ไหน?”

ซาแมนธาพูด “เชนน์ นี่พี่ความจำเสื่อมจริง ๆ หรือแกล้งทำเนี่ย?”

เชนน์จ้องเธอดุ ๆ “ฉันยังไม่ได้ถามเธอเลยว่าเรื่องของเธอกับร็อดนีย์น่ะจริงหรือเปล่า”

ซาแมนธายกมือปิดปาก “ฉันจะหุบปากให้แน่นเลย!”

นี่มันน่ากลัวมาก! เธอโดนเขาขู่จนหงอแล้ว!

ไม่นานนักแยนนี่ก็เอากระติกเก็บความร้อนเข้ามาในห้องผู้ป่วย

สีหน้ามืดครึ้มของเชนน์สดใสขึ้นทันใด เขานั้นทำตัวหน้าไม่อายมาก กอดแขนแยนนี่ไม่ปล่อยแล้วบ่น “เธอไปไหนมา? มีเรื่องอื่นสำคัญกว่าการดูแลฉันอีกเหรอ? เธอเป็นภรรยาฉันไม่ใช่เหรอ?”

ซาแมนธาที่ยืนอยู่ด้านข้างตะลึงอ้าปากค้างพูดไม่ออก พี่ชายของเธอเปลี่ยนสีหน้าท่าทางเร็วยิ่งกว่าเปลี่ยนช่องทีวีอีก!

แยนนี่ตอบ “ฉันกลับไปที่โรงแรมแล้วก็ทำโจ๊กมาให้คุณ คุณไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน หมอบอกว่านอกจากน้ำเกลือแล้วตอนนี้คุณกินได้แต่อาหารเหลว”

แยนนี่เปิดกระติกเก็บความร้อนก่อนเทโจ๊กร้อน ๆ สีขาวลงถ้วยให้เข้า “กินสิ”

“ป้อนหน่อยสิ”

ซาแมนธารับลูกแล้วช่วยพูด “พี่แยนนี่ สงสารพี่ชายฉันหน่อยเถอะ”

แยนนี่หยิบช้อนแล้วตักโจ๊กคำใหญ่มาป้อนเขา ตอนนั้นเชนน์ถึงยอมอ้าปากกินอาหาร

เชนน์กินโจ๊กไปชามใหญ่ เขาดูเจริญอาหารมากทีเดียว

เชนน์ยังให้ซาแมนธากลับไปเพื่อที่เขาจะได้ใช้เวลากับแยนนี่ตามลำพัง

แยนนี่สังเกตเห็นว่าในเหยือกไม่มีน้ำแล้ว เธอเลยคว้าเหยือกขึ้นมาเตรียมจะเดินออกไปเติมน้ำ แต่พอเธอลุกขึ้น จู่ ๆ เชนน์ก็โน้มเข้ามาหาแล้วจูบริมฝีปากเธอ

แยนนี่ไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ เชนน์จะจูบเธอ เธอถึงกับชะงักไปเล็กน้อย

เชนน์แหย่ “ทำไมเธอมองฉันเหมือนฉันเป็นพวกนักเลงหัวไม้เลยล่ะ? เธอเป็นภรรยาฉันนี่ ทำไมฉันจะจูบเธอไม่ได้ล่ะ?”

แยนนี่หมดคำจะพูด พอเกิดอุบัติเหตุเขากลายเป็นคนเจ้าชู้แพรวพราวขนาดนี้ได้ยังไงกัน?

แยนนี่ไม่อยากจะใส่ใจเขา เธอหยิบเหยือกขึ้นมาแล้วเดินออกจากห้องไปเติมน้ำ

เธอยืนงงงันอยู่ที่หน้าตู้กดน้ำเย็น แยนนี่พยายามคิดดู เหมือนว่าเชนน์จะจำเรื่องอะไรเมื่อก่อนไม่ได้ตอนนี้ก็เลยทำให้บรรยากาศค่อนข้างที่จะผ่อนคลาย

เธอไม่อยากจะหยิบเรื่องอดีตขึ้นมาพูด เพราะว่ามันมีแต่ความทรงจำที่เป็นทุกข์

แยนนี่นำเหยือกน้ำกลับเข้าไปในห้อง

เมื่อเธอก้าวเข้าไป เธอก็เห็นว่าเชนน์ไม่ได้นอนอยู่บนเตียง

“เชนน์?”

มีเสียงความเคลื่อนไหวดังออกมาจากห้องน้ำ

แยนนี่วางเหยือกน้ำลงแล้วเดินไปหา “เชนน์?”

เชนน์กำลังโก่งตัวอยู่เหนือโถส้วม อาเจียรออกมาอย่างหมดไส้หมดพุง

แยนนี่เลิกคิ้วและช่วยเขาลุกขึ้น “เกิดอะไรขึ้นคะ? ฉันเพิ่งเห็นว่าคุณเจริญอาหารดีนี่นา? คุณโกหกฉันเหรอ?”

เชนน์คิดว่าเธอโมโห เขารีบจับมือเธออย่างกระวนกระวายและกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ บางทีอาจจะเพราะว่าไม่ได้กินอะไรมานานแล้วกระเพาะเลยรับไม่ได้ ลูกพี่แยนนี่ อย่าโมโหเลยนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่…”

ก่อนที่เชนน์จะพูดจบประโยคเขาก็รู้ตัวว่าเผลอหลุดปากเรียกเธอว่า ลูกพี่แยนนี่ไปเสียแล้ว

แน่นอนว่าแยนนี่เองก็ได้ยิน เธอมองเขาอย่างเย็นชา “เชนน์ จิน คุณไม่ได้สุญเสียความทรงจำสินะ คุณหลอกฉันอีกแล้ว”

“ฉัน… ลูกพี่แยนนี่ ตอนนี้ฟื้นขึ้นมาฉันสับสนจริง ๆ นะ แต่พอเห็นเธอฉันก็ได้สติขึ้นมา แต่ว่าฉันไม่รู้จะคุยกับเธอยังไงดี ฉันกลัวว่าเธอจะไม่ยอมคุยกับฉันแต่ว่าฉันก็อยากให้เธออยู่ข้าง ๆ ฉันก็เลยต้องแกล้งทำ…”

สีหน้าของแยนนี่เย็นชาเล็กน้อย เธอตำหนิ “เชนน์ จิน คุณอายุเท่าไรแล้วทำไมถึงยังเล่นอะไรเป็นเด็กแบบนี้อยู่ได้?”

เชนน์ค่อย ๆ ปล่อยมือเธอที่เขากุมไว้อย่างไม่มีทางเลือก เหมือนเด็กที่โดนจับได้ว่าทำความผิด เขาก้มหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้ซูบซีดลงเล็กน้อยและไม่กล้ามองสบตาแยนนี่ เขาพูดเสียงเบาอย่างสิ้นหวัง “ฉันน่าจะรู้ว่าฉันรั้งให้เธออยู่แบบนี้ไม่ได้ ยังไงเธอก็อยากทิ้งฉันไปแล้วก็แต่งงานกับคนอื่น”

แยนนี่งง นี่เธอจะไปแต่งงานกับคนอื่นตอนไหนกัน?

“ฉันจะแต่งงานกับใครเหรอ?”

“เธอไม่ได้จะแต่งกับซามูเอล…”

ก่อนที่เชนน์จะพูดจบ แยนนี่ก็มองเขาอย่างขบขัน “เชนน์ ในสายตาคุณ ยังไงซามูเอลกับฉันก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกันใช่ไหม?”

“เปล่านะ ฉัน…” เชนน์ไม่รู้ว่าจะอธิบายตัวเองยังไง

แยนนี่มองเขา “เชนน์ มองฉัน”

เชนน์เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างเชื่อฟัง ดูรู้สึกผิดเล็กน้อย

แยนนี่ประกาศอย่างชัดเจน “เรื่องที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว มันแล้วแต่คุณว่าคุณจะอยากฟังไหม ฉันจะพูดหนเดียวเท่านั้น”

เชนน์จะไม่ฟังเธอได้ยังไง? เขามองเธอเงียบ ๆ

แยนนี่พูด “ซามูเอลกำลังจะแต่งงาน แต่ไม่ใช่กับฉัน”

ดวงตาเชนน์เบิกกว้าง ความมืดหม่นในดวงตาเขาเหมือนหายวับไปทันใด

หัวใจเขาเต้นแรงจนรู้สึกได้ ราวกับได้ฟืนคืนชีพมาด้วยความรู้สึกเร่าร้อนที่ท่วมท้น

แยนนี่พูดต่อ “ตั้งแต่แยกทางกับคุณ ถึงฉันไม่คิดจะกลับมาอยู่กับคุณอีกแต่ฉันก็ไม่คิดจะไปตกหลุมรักใครอื่นเหมือนกัน เชนน์ ความรู้สึกของฉันนั้นให้คุณไปหมดแล้ว ทั้งหมดเลย”

เชนน์กำมือแน่นอยู่ข้างตัว เขาเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ไม่ได้

เขาได้ยินคำพูดของเธอทุกคำอย่างชัดเจน

ดวงตาของเชนน์แดงก่ำ เขาพึมพำเสียงเบาเรียกชื่อเธอ “แยนนี่…”

แยนนี่ไม่ได้ใส่ใจเขา เธอยังคงพูดต่อ “เชนน์ ฉันยังยกโทษให้คุณแบบที่คุณต้องการไม่ได้ บางทีฉันอาจจะไม่มีวันยกโทษให้คุณได้เลย แต่ที่ฉันพูดก็หมายถึงแค่ตอนนี้ อนาคตยังอีกยาวไกล ฉันแน่ใจว่าคุณมีหนทางที่จะทำให้ฉันค่อย ๆ ให้อภัยคุณได้ คุณเข้าใจที่ฉันพูดไหมคะ?”

ในที่สุดเชนน์ก็รวบรวมความกล้า เขายื่นมือออกไปแล้วดึงแขนเสื้อเธอไว้ “ที่เธอพูดมาหมายความว่าเธอเต็มใจให้โอกาสฉันได้ชดเชยให้เธอใช่ไหม?”

“ค่ะ แต่ฉันมีเรื่องจะถามคุณ”

“เรื่องอะไร?”

แยนนี่มองเขาตรง ๆ “หลังหิมะถล่มคุณส่งข้อความเสียงมาหาฉันเหรอเปล่า?”

เชนน์ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ แยนนี่ก็ถามเขาเรื่องนี้ แต่เขาก็ยอมรับ “ตอนนั้นฉันติดอยู่ใต้หิมะมาหลายชั่วโมงแล้ว พอฉันได้สติขึ้นมากก็เลยหยิบมือถือมาอัดข้อความเสียงให้เธอ”

“คุณบอกฉันว่าอะไร?”

เชนน์ทำเป็นยักไหล่อย่างไม่แยแส เขาพูดพร้อมทำท่าวางมาดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ฉันจะพูดอะไรได้อีก? ก็ต้องเป็นอะไรน้ำเน่าแบบฉันรักเธอ แต่ถึงยังไงเธอก็คงไม่สนใจจะฟังอยู่แล้ว ฉันกลัวว่าเธอคงรู้สึกอี๋แล้วก็ขนลุกแน่ถ้าได้ฟัง”

แยนนี่ง้างมือขึ้นเตรียมจะตบเขา “เชนน์ ฉันยอมให้คุณโกหกฉันครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย”

คำโกหกเขาโดนจับได้เสียแล้ว เชนน์มีสีหน้ากระอักกระอ่วน “เธอรู้แล้วสินะ”

“คุณคิดว่าถ้าคุณตาย ได้พูดเรื่องพวกนี้ออกมาจะทำให้คุณไม่ต้องแบกความรู้สึกผิดอีกแล้วงั้นเหรอ?”

ขนตาหนาเป็นแพของเชนน์บดบังความรู้สึกผิดในดวงตาเขาไว้ “ฉันขอโทษ แยนนี่”

เขาเอ่ยขอโทษเหมือนเด็กที่ทำความผิด

เขายื่นแขนออกมาและกอดแยนนี่ไว้แน่น เขาสัญญากับเธอด้วยเสียงพร่ำต่ำ “ฉันจะไม่มีวันโกหกเธออีกแล้ว ฉันจะไม่มีวันพูดเรื่องไร้ความรับผิดชอบ ฉันจะมีชีวิตอยู่แล้วค่อย ๆ ชดใช้ความผิดให้เธอ ฉันจะไม่ทอดทิ้งเธอหรือ… จากเธอไป”

หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ แยนนี่ก็ช่วยพาเขาออกมาจากห้องน้ำ

ซาแมนธาถือตะกร้าผลไม้เดินเข้ามาพอดี “พี่เชนน์ พี่แยนนี่ ร็อดนีย์ซื้อแอปเปิ้ลมาด้วย พวกพี่ต้องอย่าลืมกินนะ”

จากนั้นซาแมนธาก็หันหลังเตรียมออกไป

เสียงต่ำเยือกเย็นของเชนน์ดังขึ้น “หยุดเลย”

ซาแมนธารู้สึกเสียวสันหลังวาบ เธอหันหน้ากลับมามอง เม้มปากก่อนยิ้มอย่างประจบ “พี่ชาย พี่ลงมาจากเตียงได้แล้วเหรอเนี่ย? ดูเหมือนร่างกายพี่จะฟื้นตัวดีแล้วนะ”

เชนน์ชำเลืองมองตะกร้าผลไม้ ก่อนพูดอย่างรันทด “ฉันเพิ่งตื่นขึ้นมาแล้วอาเจียนเอาโจ๊กออกไปหมด ร็อดนีย์ยังอยากให้ฉันกินแอปเปิ้ลอีกเหรอ? เขาไม่อยากให้ฉันอาการดีขึ้นเหรอไง?”

ซาแมนธามองแยนนี่อย่างหาคนช่วย เธอรู้ว่าเชนน์ไม่ค่อยปลื้ม “น้องเขย” คนนี้เท่าไร

ตอนสมัยเป็นเพื่อนกัน พวกเขาหัวหกก้นขวิดด้วยกันได้เพราะว่าเป็นคนแบบเดียวกัน เคยผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน

แต่พอต้องมาเป็นน้องเขยของเชนน์ มันก็ไม่เหมือนกัน

แยนนี่รีบไกล่เกลี่ยสถานการณ์และกล่าวว่า “คุณเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา อย่าไปจู้จี้กับซาแมนธานักเลย ยังไงเขาก็คบกับซาแมนธาแล้ว ถึงคุณจะอยากจัดการเขาแต่ยังไงตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลา”

ซาแมนธาพยักหน้ารัวอย่างเห็นด้วย “พี่แยนนี่พูดถูก พี่เชนน์หายเร็ว ๆ นะ แล้วฉันจะมาเยี่ยมใหม่”

จากนั้นเธอก็เผ่นหนีไป

เชนน์มองแยนนี่อย่างไม่ได้โมโหแล้ว เขาบ่น “ร็อดนีย์กล้ามาคว้าซาแมนธาไปใต้จมูกฉันเลย พอหายดีเมื่อไรฉันจะต้องไปจัดการหมอนั่นแน่!”

แยนนี่ช่วยเขาขึ้นไปนอนบนเตียง พอฟังเขาพูดจบเธอก็พูด “ซาแมนธาไม่ใช่เด็กแล้วนะ เธอก็มีความคิดของตัวเอง”

“ช่างมันเถอะ ไม่คุยเรื่องพวกเขาแล้ว”

เชนน์มองไปที่แอปเปิ้ลที่อยู่ด้านข้าง เขาเอื้อมมือไปหยิบมาหนึ่งลูก

แยนนี่ขมวดคิ้ว “คุณยังกล้าจะกินแอปเปิ้ลอีกเหรอ?”

เชนน์หยิบมีดมา นั่งบนเตียงแล้วเริ่มปอกเปลือกแอปเปิ้ล เขาเลิกคิ้วพร้อมยิ้ม “ฉันจะปอกเปลือกแอปเปิ้ลให้ภรรยาไม่ได้เหรอ?”

แยนนี่ไม่สนใจเขาแล้วปล่อยให้เขาทำไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน