เมื่อทุกคนจากไป ก็เหลือเพียงแยนนี่และเชนน์อยู่ในห้องผู้ป่วย
เชนน์ยิ่งกล้ามากขึ้น เขาคว้ามือของแยนนี่มาแล้วซุกเข้าไปใต้ผ้าห่ม เขายิ้มเหมือนพวกนักเลงแล้วถามเธอว่า “เป็นไงบ้าง? อุ่นไหม?”
แยนนี่ได้แต่จ้องเขาเขม็งโดยไม่พูดอะไร
เชนน์ดึงมือข้างหนึ่งออกมาแล้วโบกตรงหน้าเธอ “ทำไมเธอถึงได้เย็นชากับฉันจัง? เธอไม่ยิ้มเลย นี่ฉันทำอะไรไม่ดีให้เธอโกรธเหรอ?”
“...เปล่า” แยนนี่สายตาอ่อนลง
“เธอโกหก เธอเป็นภรรยาฉันนะทำไมถึงต้องทำตัวเหมือนเป็นคนแปลกหน้ากับฉันด้วย? ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของเราสองคนไม่ดีเหรอ? หรือว่าฉันรักเธอไม่มากพอ?”
แยนนี่เจอระดมคำถามใส่เสียจนเธอไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เธอได้แต่เพียงพูดว่า “คุณเพิ่งจะฟื้น นอนพักก่อนเถอะ”
“ฉันพักมาพอแล้ว ฉันนอนจนเริ่มจะเวียนหัวแล้วเนี่ย คุยกับฉันหน่อยเถอะ”
แยนนี่ไม่มีอะไรที่จะคุยกับเขา “เราจะคุยเรื่องอะไรกันดีล่ะ?”
เชนน์ยกมือข้างหนึ่งไปหนุนหัวไว้ แล้วอีกข้างก็จับมือเธอ ดวงตาสีดำเข้มของเขามองใบหน้างดงามของเธอก่อนพูด “บอกฉันเรื่องของเรา เรารักกันได้ยังไง เราแต่งงานกันยังไง ถึงฉันจะจำอะไรไม่ได้แต่สัญชาตญาณก็บอกว่าฉันเกลียดความคิดเรื่องการที่ต้องแต่งงานแล้วต้องโดนผูกพัน ถ้าฉันยอมแต่งงานกับเธอแสดงว่าฉันคงจะต้องรักเธอมาก”
แยนนี่พูดไม่ออก
เมื่อเห็นเธออึ้งไป เชนน์ก็ยื่นใบหน้าหล่อเหลาของเขาเข้ามาใกล้ “ฉันพูดถูกใช่ไหม?”
แยนนี่เม้มปาก เธอถาม “คุณหิวน้ำไหม?”
“นิดหน่อย”
แยนนี่รินน้ำใส่แก้วแล้วส่งให้เขา
เชนน์พูด “ตอนนี้ฉันเป็นคนป่วยนะ ป้อนหน่อยสิ”
“มือคุณไม่ได้หักสักหน่อย”
“เธอเป็นภรรยาฉันไม่ใช่เหรอ?”
แยนนี่ไม่รู้จะบอกเขายังไงว่าพวกเขาหย่าขาดกันแล้ว มันคงยากที่จะอธิบายเธอก็เลยไม่คิดที่จะยกเรื่องนี้มาพูด เธอยกแก้วน้ำไปจ่อปากเขา “ดื่มสิ”
เชนน์จับมือเธอไว้แล้วดื่มน้ำไปครึ่งแก้วอย่างเชื่อฟัง
เมื่อเขามองเธอดวงตาก็เป็นประกายระยิบระยับราวกับมีดวงดาวมากมายในนั้น ดวงตาเขาใสกระจ่าง ความรักที่เขามีให้เธอแทบล้นปรี่ออกมา
เมื่อแยนนี่วางแก้วลง มือเธอลื่นจนแก้วเกือบร่วงลงกระแทกพื้น
เชนน์บีบมือเธอแน่นและถาม “ทำไมเธอถึงใจลอยจังเวลาที่อยู่กับฉัน? เธอคิดเรื่องอะไรอยู่?”
“ไม่มีอะไร”
“ก็ได้ ว่าแต่ฉันยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย”
“แยนนี่ จอย”
“ชื่อเพราะมาก” เชนน์พูดพร้อมรอยยิ้ม
แยนนี่อยู่เป็นเพื่อนเขาครู่หนึ่ง เชนน์นั้นเพิ่งฟื้นและอาการบาดเจ็บของเขาก็รุนแรงซึ่งทำให้เขาอ่อนแรง ไม่นานนักเขาก็หลับไป
แยนนี่เดินเข้าไปหาหมอก่อนถาม “หมอคะ อาการที่เขาเป็นนี่ปกติไหม?”
หมอตอบ “ครับ บางครั้งในเหตุหิมะถล่ม อาจจะมีการกระแทกทำให้สมองกระทบกระเทือน ซึ่งส่งผลให้เขามีอาการความจำเสื่อมในช่วงสั้น ๆ ได้”
“แล้วเขาจะฟื้นคืนความทรงจำเมื่อไรคะ?”
“ผมก็บอกเวลาแน่นอนไม่ได้นะครับ คงต้องดูว่าเขาฟื้นตัวยังไง แต่จากผล CT สมองเราเห็นว่าสมองเขาไม่ได้เสียหายมาก อาการน่าจะอยู่แค่ชั่วคราว”
…
เชนน์นอนหลับไปจนถึงตอนบ่าย
เมื่อเขาตื่นขึ้นก็พบซาแมนธายืนอยู่ต่อหน้า
เชนน์รู้สึกกระวนกระวายและร้อนใจเล็กน้อย “พี่สะใภ้เธออยู่ไหน?”
ซาแมนธาพูด “เชนน์ นี่พี่ความจำเสื่อมจริง ๆ หรือแกล้งทำเนี่ย?”
เชนน์จ้องเธอดุ ๆ “ฉันยังไม่ได้ถามเธอเลยว่าเรื่องของเธอกับร็อดนีย์น่ะจริงหรือเปล่า”
ซาแมนธายกมือปิดปาก “ฉันจะหุบปากให้แน่นเลย!”
นี่มันน่ากลัวมาก! เธอโดนเขาขู่จนหงอแล้ว!
ไม่นานนักแยนนี่ก็เอากระติกเก็บความร้อนเข้ามาในห้องผู้ป่วย
สีหน้ามืดครึ้มของเชนน์สดใสขึ้นทันใด เขานั้นทำตัวหน้าไม่อายมาก กอดแขนแยนนี่ไม่ปล่อยแล้วบ่น “เธอไปไหนมา? มีเรื่องอื่นสำคัญกว่าการดูแลฉันอีกเหรอ? เธอเป็นภรรยาฉันไม่ใช่เหรอ?”
ซาแมนธาที่ยืนอยู่ด้านข้างตะลึงอ้าปากค้างพูดไม่ออก พี่ชายของเธอเปลี่ยนสีหน้าท่าทางเร็วยิ่งกว่าเปลี่ยนช่องทีวีอีก!
แยนนี่ตอบ “ฉันกลับไปที่โรงแรมแล้วก็ทำโจ๊กมาให้คุณ คุณไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน หมอบอกว่านอกจากน้ำเกลือแล้วตอนนี้คุณกินได้แต่อาหารเหลว”
แยนนี่เปิดกระติกเก็บความร้อนก่อนเทโจ๊กร้อน ๆ สีขาวลงถ้วยให้เข้า “กินสิ”
“ป้อนหน่อยสิ”
ซาแมนธารับลูกแล้วช่วยพูด “พี่แยนนี่ สงสารพี่ชายฉันหน่อยเถอะ”
แยนนี่หยิบช้อนแล้วตักโจ๊กคำใหญ่มาป้อนเขา ตอนนั้นเชนน์ถึงยอมอ้าปากกินอาหาร
เชนน์กินโจ๊กไปชามใหญ่ เขาดูเจริญอาหารมากทีเดียว
เชนน์ยังให้ซาแมนธากลับไปเพื่อที่เขาจะได้ใช้เวลากับแยนนี่ตามลำพัง
แยนนี่สังเกตเห็นว่าในเหยือกไม่มีน้ำแล้ว เธอเลยคว้าเหยือกขึ้นมาเตรียมจะเดินออกไปเติมน้ำ แต่พอเธอลุกขึ้น จู่ ๆ เชนน์ก็โน้มเข้ามาหาแล้วจูบริมฝีปากเธอ
แยนนี่ไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ เชนน์จะจูบเธอ เธอถึงกับชะงักไปเล็กน้อย
เชนน์แหย่ “ทำไมเธอมองฉันเหมือนฉันเป็นพวกนักเลงหัวไม้เลยล่ะ? เธอเป็นภรรยาฉันนี่ ทำไมฉันจะจูบเธอไม่ได้ล่ะ?”
แยนนี่หมดคำจะพูด พอเกิดอุบัติเหตุเขากลายเป็นคนเจ้าชู้แพรวพราวขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
แยนนี่ไม่อยากจะใส่ใจเขา เธอหยิบเหยือกขึ้นมาแล้วเดินออกจากห้องไปเติมน้ำ
เธอยืนงงงันอยู่ที่หน้าตู้กดน้ำเย็น แยนนี่พยายามคิดดู เหมือนว่าเชนน์จะจำเรื่องอะไรเมื่อก่อนไม่ได้ตอนนี้ก็เลยทำให้บรรยากาศค่อนข้างที่จะผ่อนคลาย
เธอไม่อยากจะหยิบเรื่องอดีตขึ้นมาพูด เพราะว่ามันมีแต่ความทรงจำที่เป็นทุกข์
แยนนี่นำเหยือกน้ำกลับเข้าไปในห้อง
เมื่อเธอก้าวเข้าไป เธอก็เห็นว่าเชนน์ไม่ได้นอนอยู่บนเตียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน