เชนน์ตรงจากบริษัทมาถึงบลู วอเทอร์ เรสซิเดนเชียล แอเรีย เวลาก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว
กิจวัตรประจำวันของแยนนี่ในยามปกตินั้นไม่ต่างอะไรกับคนแก่ เธอกำลังจะเข้านอน ตอนนั้นเองที่เชนน์โทรมาพอดี
พอรับสาย เขาเอ่ยสั้น ๆ ด้วยประโยคง่าย ๆ ได้ใจความออกมา “ฉันอยู่ล่างที่พักเธอ”
แยนนี่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอถือโทรศัพท์เดินตรงไปยังหน้าต่างแล้วมองลงไป อย่างที่คิดเลย รถสปอร์ตคันสีเงินพร้อมกับร่างอันแสนคุ้นเคยยืนอยู่ข้างกัน
แยนนี่พิงหน้าต่างนิ่งแล้วเอ่ยถามเขา “ทำไมคุณมาหาฉันดึกป่านนี้เนี่ย?”
“ลงมา แยนนี่”
“ฉันจะนอนแล้ว ฉันใส่ชุดนอนแล้ว” แยนนี่ไม่ได้โกหก
เชนน์แนบโทรศัพท์กับหูด้วยมือข้างหนึ่ง ก่อนก้มหัวลงเหยียดขาเตะก้อนกรวดบนพื้นไปมา “ฉันขับรถมาตั้งไกล เธอจะไม่มาเจอฉันหน่อยเหรอ?”
“งั้นรอแป๊บหนึ่งนะ”
แยนนี่วางสายแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ข้างนอกอากาศหนาว เธอต้องสวมเสื้อแจ๊คเก็ตอีกชั้นก่อนจะลงไป
10 นาทีต่อมา แยนนี่ออกจากที่พักพร้อมแจ๊คเก็ตคลุมยาวทั้งตัว
เชนน์ซุกมืออีกข้างไว้ในกระเป๋า มองเธอที่กำลังเดินมาจากระยะทางไกล ปมคิ้วผ่อนคลายบนใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม นัยตาสีดำสนิทเหมือนมีดาวหางเรืองแสงอยู่ข้างในนั้น พวกมันเปล่งประกายเรืองรองเต็มไปด้วยความปรารถนายามที่เขามองเธอ
แยนนี่เดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยถาม “ดึกแล้วนะ คุณเองก็ทำงานมาทั้งวัน ทำไมถึงมายืนเก๊กเป็นนายแบบโฆษณารถแทนที่จะกลับบ้านล่ะ?”
เชนน์เตะรองเท้าหนังกับฝุ่นเป็นพัก ๆ เขาแถกลับข้าง ๆ คู ๆ “ฉันเหนื่อยจากงานทั้งวันก็จริง แต่พอฉันเห็นเธอ ความเหนื่อยก็หายไปเลย ตอนนี้ฉันป่วยและเธอก็เป็นยารักษา”
“ฮะ?”
“ฉันอยากจะเจอเธอทุกวัน ถ้าฉันไม่ได้เจอเธอล่ะก็ ฉันจะรู้สึกเมื่อยล้าและไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น”
ทันใดนั้นเชนน์ก็ขยับก้าวเข้ามาใกล้ เงาร่างสูงใหญ่ของเขาปกคลุมรอบตัวเธอ “แน่นอน ถ้าฉันได้กอดเพิ่มด้วย ฉันก็จะหายไวขึ้น”
แขนยาวเหยียดของเขาคว้าร่างของเธอเข้ามาในออมกอด
ถึงจะมีเสื้อแจ็คเก็ตผืนยาวหนามาขั้น แต่แยนนี่ก็ได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นเป็นจังหวะรัว
แค่อ้อมกอดธรรมดา ๆ ยังไม่ทันได้ทำอะไรที่ใกล้ชิดกว่านี้เลย เชนน์ก็พึงพอใจจนรู้สึกล้มเปี่ยมไปด้วยความรักความอบอุ่น
อ้อมกอดนี้ช่างยาวนาน
เชนน์ไม่อยากจะปล่อยมันไป เขาวางคางลงบนหน้าผากของเธอ แล้วเอ่ยยํ้าคำสัญญากับเธออย่างจริงใจ “แยนนี่ จะไม่มีเรื่องผิดระหว่างเรา และจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก คราวนี้ ต่อให้เธอจะทรมานฉันจนตาย ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป ตราบใดที่ฉันรู้ว่าเธอยังอยู่ฉันจะรีบตามหาเธอ ให้แยกจากกันทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่มันทรมานยิ่งกว่าแยกจากกันเพราะความตายเสียอีก”
แยนนี่สูดหายใจเข้าลึก แล้วปล่อยไออุ่นสีขาวออกมา เธอเงยหน้ามองเขาช้า ๆ ยกยิ้มให้ “หนทางระหว่างเราสองคนยังอีกยาวไกล”
ร่างกายของเชนน์สั่นสะท้าน เขาสวมกอดเธอแน่นขึ้น ริมฝีปากยกยิ้ม
ใช่แล้ว หนทางยังอีกยาวไกล แล้วจะต้องกลัวอะไรล่ะ?
โทรศัพท์ของเธอส่งเสียงแจ้งเตือนได้เวลาเข้านอน
เธอเอ่ย “ฉันต้องไปนอนแล้ว”
เชนน์คลายอ้อมกอด เขายังยืนอยู่ที่รถมองเธอหันหลังกลับ พอเดินไปได้ไม่ทันไร เขาก็เดินเข้าไปดึงเธอกลับเข้ามากอดอีกครั้ง เขาสวมกอดเธอจากด้านหลัง ใบหน้าของเชนน์เย็นเฉียบจากลมหนาวแนบชิดติดกับหญิงสาว เขาพูดเสียงอยู่ในคออย่างอ่อนโยนว่า “แยนนี่ ฉันเพิ่งได้รู้ว่าขอแค่มีเธออยู่ในอ้อมอก จะให้ต้องเจ็บปวดหรือทรมานแค่ไหนก็คุ้มค่า”
แยนนี่ตกอยู่ในความเงียบสักพัก ก่อนจะหยอกเขาเล่น “ฉันต้องกลับขึ้นไปแล้วจริง ๆ ฉันไม่เหมือนคุณที่อดหลับอดนอนทั้งคืนแล้วยังมีพลังล้นเหลือนะ”
เชนน์ปล่อยเธอแล้วพูดขึ้น “งั้นก็กลับเถอะ ฉันจะอยู่นี่จนเห็นเธอเข้าไปแล้ว”
เขายืนอยู่ข้างรถเต็มความสูงสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ นัยตาสะท้อนดวงดาวนับพัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน