สรุปตอน บทที่ 1184 กลับมาพักผ่อน 2 – จากเรื่อง เล่ห์รัก ท่านประธาน โดย โอเอสเต้ ลูน่า
ตอน บทที่ 1184 กลับมาพักผ่อน 2 ของนิยายนิยาย โรแมนติคเรื่องดัง เล่ห์รัก ท่านประธาน โดยนักเขียน โอเอสเต้ ลูน่า เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้ยังเช้าอยู่และยังไม่ถึงเวลามื้อเที่ยง
ฮีลตันนั่งลงบนโซฟา ดูเด็ก ๆ เล่นต่อชุดเลโก้สำหรับผู้ใหญ่ เขาคอยให้คำแนะเป็นบางครั้งบางคราว
หลังจากต่อไปได้สักพัก เจลลี่บีนก็วิ่งมานั่งบนตักของฮีลตัน เธอยัดเลโก้ใส่มือของเขาอย่างเอื่อยเฉื่อย แล้วร้องขอให้เขาช่วยต่อมัน
"แด๊ดดี้ หนูปวดมือแล้ว ช่วยต่อเลโก้ให้หนูหน่อยนะคะ!"
ฮับตันยิ้มอย่างเอ็นดู "หนูเป็นคนอยากต่อเลโก้เองนะ หนูกำลังจะยอมแพ้เพื่อเรียกร้องความสนใจเหรอคะ?"
"เรียกร้องความสนใจหมายความว่าไงเหรอคะ?"
"หมายถึงหนูรู้สึกว่าไม่มีใครสนใจหนูแล้วไงคะ" ถึงฮีลตันจะพูดอย่างนั้นแต่เขาก็เอาชิ้นส่วนที่เจลลี่บีนกำลังต่อไปประกอบ
เจลลี่บีนตากระพริบปริบ ๆ หัวเราะคิกคักในใจ "แด๊ดดี้ หนูเปล่าเรียกร้องความสนใจสักหน่อย!"
ฮีลตันหัวเราะชอบใจกับลูกสาวตัวน้อย ความสุขล้นเอ่อจากการออดอ้อนของลูกสาว "หนูคงจะทานเค้กสตอเบอรี่มากไปถึงได้พูดออดอ้อนหวานหูขนาดนี้ ว่าแต่คราวนี้หนูอยากได้อะไรล่ะคะ?"
เจลลี่ บีนยกมือปิดปากน้อย ๆ ของเธอ แต่กลับส่งสายตายิ้มที่เต็มไปด้วยอาการดีใจออกมา "แด๊ดดี้ หนูอยากได้กล้องที่เอาไว้ส่องดาวค่ะ"
อ๋อ กล้องดูดาวนั่นเอง
"ได้สิ ไปซื้อกัน" ฮีลตันตอบกลับทันที
"แด๊ดดี้คะ เราจะไปเมื่อไหร่กันคะ?"
เขาตอบลูกสาว ขณะที่มือกำลังต่อเลโก้ของเจลลี่บีนไปด้วย "หลังทานมื้อเที่ยงเสร็จ ตอนบ่าย พ่อจะพาหนูไปดูร้านขายอุปกรณ์เฉพาะกัน ให้หนูเลือกเองเลย"
เจลลี่ บีนกอดรอบคอของฮีลตัน แล้วจุ๊บแก้มคุณพ่อของเธอ "ขอบคุณค่ะ แด๊ดดี้!"
แยนนี่มองภาพนั้นด้วยความรู้สึกเอ่อล้น แล้วเอ่ยกัยเวอเรียนด้วยรอยยิ้ม "คุณฟัดด์ ตามใจเด็ก ๆ เสียจริง ซื้อทุกอย่างที่เจลลี่ บีนอยากจะได้"
เวอเรียนตอบกลับ “ใช่จ๊ะ เด็ก ๆ น่ะเป็นเหมือนนางฟ้าตัวน้อย ๆ ทำเอาเราอยากจะตามใจพวกให้มากที่สุด ถ้าเธอกับเชนน์มีลูกเมื่อไหร่ เดี๋ยวเธอก็จะอยากให้แต่สิ่งดี ๆ แก่พวกเขาเอง โอ้จริงสิ ตอนนี้เธอกับเชนน์เป็นยังไงบ้าง?”
“ตอนนี้เราตกลงใจจะเป็นแค่เพื่อนกันน่ะ แต่ในอนาคตยังพอมีเวลาไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ”
ทีแรกฮีลตันไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนาด้วย แต่พอได้ยินแยนนี่เอ่ยว่ายังมีเวลา เขาอดไม่ได้ที่จะแซวเธอออกมา “เธอจะทนรอได้จริง ๆ เหรอ เธอคิดว่าเชนน์จะปล่อยให้เธอมีเวลาสุขสันต์ตามลำพังรึไง?”
พอฮีลตันพูดจบ เสียงเครื่องยนต์รถดังจากสวนของคฤหาสน์แชลโลว์ เบย์
ฮีลตันเผยไต๋คันปาก ก่อนพูดขึ้น “ตายยากจริง ๆ เห็นไหม ฉันบอกเธอแล้วไง วันไหนที่หมอนี่มีความอดทนวันนั้นหมูทั้งโลกก็คงบินได้”
เชนน์ก้าวขายาวออกจากบูกัตติสีเงิน
ในคฤหาสน์ เวอเรียนโน้มตัวหาแยนนี่ก่อนพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม “จะกินอาหารอร่อยก็ต้องกินตอนยังร้อนนะ”
แยนนี่เลิกคิ้ว “เก้าในสิบของคนที่กินของร้อนจะโดนลวกปาก”
ฮีลตันอุ้มเจลลี่ บีนลงจากตักแล้วยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนประกาศ “ทุกคนมาครบแล้ว ได้เวลามื้อเที่ยง!”
เด็กน้อยสองคนชูมือขึ้นพร้อมเพรียงแล้วส่งเสียงเจื้อยแจ้วว่าพวกเขาหิวแล้ว
เวอเรียนบอก “ฉันจะไปบอกเชฟในครัวให้เริ่มเสิร์ฟอาหารนะ”
แยนนี่พาเด็กทั้งสองคนไปล้างมือ
เชนน์มองหาแยนนี่ทันทีที่ก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ เขาเห็นเธออยู่ข้างอ่างล้างมือกำลังบีบสบู่ให้กับเด็กทั้งสองและช่วยพับแขนเสื้อให้พวกเด็ก ๆ
เจลลี่ บีนส่งยิ้มน่ารักให้กับแยนนี่ ราวกับว่าพวกเธอเป็นแม่ลูกกันจริง ๆ เธอยังกระพริบส่งสายตาออดอ้อนให้กับแยนนี่แล้วพูดว่า “คุณน้าแยนนี่ขา คุณน้ามาเล่นกับพวกเราบ่อย ๆ ที่บ้านได้ไหมคะ? หนูรู้ว่าน้าเล่นเปียโนเก่งมาก ตอนนี้หนูเรียนเปียโนด้วยนะคะ เรามาเล่นเปียโนด้วยกันได้ไหมคะ?”
“ได้สิจ๊ะ เจลลี่ บีนเก่งจริง ๆ เลยนะ หนูเล่นเปียโนได้ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบเลยเหรอเนี่ย?”
เจลลี่ บีนเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจแล้วอวดว่า “ครูของหนูบอกว่าหนูเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่เคยมีเลยค่ะ อีกหน่อยหนูอาจจะเป็นนักเปียโน น้าแยนนี่คะ น้าจะต้องมาขอลายเซ็นหนูในอนาคตนะคะ!”
แยนนี่มองเชนน์อย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ เธอหัวเราะลั่น “เชนน์ เจลลี่ บีนแค่เจ็ดขวบเองนะ นี่คุณไม่พูดเกินไปหน่อยเหรอ?”
เชนน์วางมือโอบแยนนี่แล้วเดินไปยังโต๊ะอาหาร “อย่าโดนเด็กนั่นหลอกสิ เธอพยายามใช้ความน่ารักอ้อนให้เธอไปเป็นแม่นะ ฉันเห็นเด็กแบบนี้มานักต่อนักแล้ว!”
เจลลี่ บีนจ้องเชนน์เขม็ง “หนูมีมอนตี้ของหนูอยู่แล้ว! ฮึ่ม! เลิกใส่ร้ายหนูต่อหน้าน้าแยนนี่สักที!”
เธอทำเสียงไม่พอใจ
“เธอคิดว่าตัวเองทำเสียงไม่พอใจได้คนเดียวเหรอ? ฮึ่ม! ฉันก็ทำได้ ไปไป๊ ไปนั่งกับแม่ของเธอโน่น” เชนน์สู้กลับ
เจลลี่ บีนเดินนำไปนั่งหัวมุมท้ายโต๊ะ สายตาจ้องเชนน์ด้วยอาฆาต
เชนน์นั่งข้างแยนนี่แล้วเริ่มแข่งจ้องตากับเจลลี่ บีน ต่างคนต่างไม่มีใครยอมใคร
เจลลี่ บีนพูดขึ้น “ถ้าไม่ใช่เพราะหนูมีมอนตี้ของหนูนะ ทำไมน้าแยนนี่ต้องไปอยู่กับคนตัวเหม็นแบบลุงด้วย? มาอยู่กับแด๊ดดี้ของหนูยังดีกว่า”
“เธอหาว่าฉันตัวเหม็นเหรอ เธอรู้จักพวกตีสองหน้าไหมล่ะ? ยัยเด็กเหลือขอ”
“หึ ลุงสิเหลือขอ หนูเจ็ดขวบแล้ว อย่ามาว่าหนูเหลือขอในบ้านของหนูนะ!”
เจลลี่ บีนเบ่งตัวเองใหญ่ พองตัวเป็นนายน้อยของบ้าน แต่เชนน์ไม่ใช่พวกที่จะก้มหัวให้ใครแม้อยู่ในบ้านของคนอื่นก็ตาม เขาพูดจาอย่างโอหัง “เจ็ดขวบเหรอ? เธอคิดว่าฉันอายุเท่าไหร่? ฉันอายุเท่าพ่อของเธอเลยนะ เธอสิต้องเคารพฉันให้เหมือนเวลาเธอเคารพ่อของเธอสิ เข้าใจไหม?”
เจลลี่ บีน ตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน “อ๋อเหรอ” จากนั้นก็พูดต่อ “หนูรู้แค่ต้องเคารพคนแก่และให้ความรักกับเด็ก”
เคารพคนแก่และให้ความรักกับเด็ก
“เธอเรียกใครว่าคนแก่ฮะ?” เชนน์แยกเขี้ยว
ฮีลตันลูบหัวลูกสาวสุดที่รัก “เราควรเคารพคนแก่และมอบความรักให้กับเด็ก โดยเฉพาะกับคุณลุงจินขี้โมโหที่เสียภรรยาไปคนนี้ หนูยิ่งต้องเคารพเขาให้มาก ๆ นะ แค่เขาเสียภรรยาไปก็น่าสงสารพอแล้ว เราต้องเห็นใจเขาหน่อย”
เชนน์คว้าทิชชู่ที่อยู่ข้าง ๆ แล้วโยนใส่ฮีลตัน “ใครบอกว่าฉันเสียภรรยาไปไม่ทราบ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน