ค้นอาเคเชียเติบโตแข็งแรงขึ้นมากเมื่อเทียบกับครั้งแรกที่นำมันมาลงดินในคฤหาสน์ลูน่า
ในฤดูร้อน เงาของมันจะช่วยบดบังแสงแดดในสวนด้วยร่มเงาเย็นของมัน
ชิงช้าโลหะที่แกะสลักลวดลายวิจิตรใต้ต้นอาเคเชียสะอาดสะอ้าน ไร้ร่องรอยของดินฝุ่น คงมีใครมาทำความสะอาดดูแลมันเป็นประจำ
แยนนี่นั่งลงบนชิงช้าโดยมีเชนน์นั่งลงข้าง ๆ
แยนนี่เหลือบมองเขาโดยไม่พูดอะไร
เชนน์จับเสาชิงช้าด้วยแขนเรียว ขายาวสัมผัสกับพื้นดินอย่างนุ่มนวล รองเท้าหนังยันพื้นดินสองสามครั้งก่อนชิงช้าจะเริ่มแกว้งโยกเยกไปมา
เชนน์หันมามองใบหน้าด้านข้างของแนนนี่แล้วถามอย่างตรงไปตรงมา "ตั้งแต่เธอไป ฉันให้คนงานสร้างเรือนในสวนหลังคฤหาสน์ขึ้นมาใหม่ เธออยากจะไปดูไหม?"
พอพูดถึงเรือนในสวนหลังคฤหาสน์ แววตาของแยนนี่พลันเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างทันที
เชนน์กุมมือเธอไว้แล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “หลังสร้างเรือนใหม่แล้ว มันจะไม่ใช่ที่เอาไว้กักขังเธออีกต่อไป ฉันอดโมโหตัวเองไม่ได้กับเรื่องแย่ ๆ ที่เคยทำลงไป แต่การปรับปรุงเรือนหลังนั้นขึ้นมาใหม่มันเหมือนกักขังตัวฉันอยู่ในนั้นตลอดสองปี”
แยนนี่ไม่เข้าใจ
เชนน์ลุกขึ้นแล้วพูดต่อ “ไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้เธอดู”
แยนนี่ไม่ปฏิเสธ เธอตามเชนน์ไปยังสวนหลังคฤหาสน์
ผนังนอกเรือนหลังเล็กในสวนแลดูใหม่เอี่ยม มีร่องรอยทาสีและรอยไหม้จากในอดีตยังคงเหลือให้เห็น
แยนนี่เดินขึ้นบันไดไม้โดยมีเชนน์คอยตามอยู่ด้านหลัง เขาเอ่ย “ย้อนไปตอนนั้นที่เธอจากไป ฉันนอนอยู่ที่นี่จะแทบทุกจะคืน เฝ้าหวังให้เธอมาหาฉันในความฝัน แค่แวบเดียวก็ยังดี ตอนนั้นฉันเอาแต่คิดว่าเธอใจร้ายจังนะที่ไม่ยอมมาให้ฉันเห็นแม้กระทั่งในความฝัน”
บนบันไดเชนน์เปิดประตูให้แยนนี่เข้าไปในเรือน
เธอมองหน้าต่างที่แกะสลักไว้ แล้วเอ่ยนํ้าเสียงอุ่นพร้อมรอยยิ้มสงบนิ่ง “อันที่จริงมีเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่ได้บอกคุณ เมื่อสามปีก่อน วันก่อนตรุษจีน คุณเขียนในสมุดบันทึกว่าคุณจุดดอกไม้ไฟให้ฉันตรงใต้บันใด จริง ๆ ตอนนั้นฉันเองก็นั่งอยู่ตรงนี้ รอคุณตลอดทั้งคืน”
หัวใจของเชนน์สั่นสะท้านเขาจ้องมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง
แยนนี่เดินเข้าไปข้างในเรือนหลังเล็ก บนโต๊ะทำงานเธอสังเกตเห็นแผ่นกระดาษที่ฉีกทิ้งไว้
ก่อนจะทันได้อ่านว่าในนั้นเขียนเอาไว้ว่าอะไร เชนน์ก็เข้ามาปัดมือเธอออกแล้วแย่งกระดาษไปซ่อนไว้ข้างหลัง มือหนาขยำมันจนยู่ยี่เป็นลูกบอล
เขาไม่อยากให้แยนนี่เจอมัน
แต่ยิ่งเขาจะพยายามซ่อนมันไว้มากเท่าไหร่ ความสงสัยของแยนนี่ก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
แยนนี่เอื้อมมือออกไปหาเขา “นั่นอะไร?”
“ไม่มีอะไร ก็แค่เศษกระดาษน่ะ” สีหน้าของเชนน์ไม่เนียนเลยสักนิด
แยนนี่แบมืออกแล้วดึงดันขอกระดาษจากเขา “ฉันเห็นนะว่ามีอะไรเขียนไว้ ลายมือคุณชัด ๆ”
“มันไม่มีอะไรจริง ๆ…”
เชนน์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ มันเป็นหน้าหนึ่งในสมุดบันทึกที่เขาเขียนในทุกคํ่าคืนที่อ้างว้างและหดหู่ การได้เขียนระบายความเปลี่ยวเหงาเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าจะให้เธออ่านต่อหน้าเขามันคงออกมากระอักกระอ่วนพิกล
เขาไม่ใช่คนที่จะแสดงอารมณ์ออกมาได้ง่าย ๆ เพราะมันจะทำให้เขาดูเป็นคนอ่อนแอ
“เชนน์ ถ้าคุณไม่ให้ฉันดู ฉันจะไปล่ะ”
แยนนี่ตั้งท่าจะเดินออกไป
เชนน์ยกมือขึ้นขวางทางเธอไว้ “ได้โปรดอย่า”
“ถ้างั้นคุณจะให้ฉันอ่านมันได้รึยัง?”
“ยัง”
เชนน์ปฏิเสธได้ไม่ทันจบดี แยนนี่ก็ก้มตัวลอดใต้แขนของเขาไปยังด้านหลัง คว้าบอลกระดาษที่ถูกขยำในมือได้สำเร็จ
เชนน์ถอยหลังผงะ เดี๋ยวเดินหน้าเดี๋ยวถอยหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว พวกเขาทั้งคู่ล้มลงบนโซฟาในเวลาเดียวกัน
ร่างของเชนน์นอนระนาบติดกับโซฟ ขณะที่แยนนี่ล้มลงมาในอ้อมอกเขา
ทั้งสองสบตากัน
สายตาของเชนน์แฝงยิ้มทะเล้น ขณะที่มือข้างหนึ่งขยำกระดาษและอีกข้างหนึ่งวางบนแผ่นหลังของเธออย่างซุกซน “เธอน่าจะบอกฉันก่อนนะ ถ้าเธอบอกฉันว่านี่คือแผนที่เธอวางไว้ล่ะก็ ฉันจะยอมให้เธอผลักฉันเลย”
แยนนี่มองสีหน้าชั่วร้ายของเขา แล้วทำท่าจะคว้ากระดาษในมือของชายหนุ่มอีกครั้ง แต่แขนของเชนน์ยาวกว่า พอเขายื่นแขนหนีเธอแล้วแยนนี่สู้เขาไม่ได้เลย
“เชนน์ จินน์!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน