เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 1189

แยนนี่นอนต่อจนถึงเที่ยงก่อนจะลืมตาอีกครั้ง

ข้าง ๆ กัน เชนน์เหมือนจะตื่นขึ้นก่อนเธอนานแล้ว

แยนนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วสวมรองเท้าสลิปเปอร์ก่อนลงจากบันได

พอหญิงสาวจะเดินลงมา เธอเห็นห้องครัวของเชนน์ที่เปิดอยู่เละเทะไม่เป็นท่า เท่าที่ดูแล้ว เหมือนเขากำลังวางเพลิงมากกว่าทำอาหารเสียอีก

แยนนี่อดแซวเขาไม่ได้ “เชฟจิน คุณกำลังทำอาหารหรือกำลังพังครัวกันแน่?”

เชนน์เขี่ยจมูกตัวเองอย่างเคอะเขิน “เธอไม่เห็นเหรอว่าฉันพยายามทำตามสูตรอยู่? ใครจะไปรู้ว่าใช้ไม้พายจะยากกว่าใช้ปืนกันเล่า?”

อุ๊บส์

เมื่อแยนนี่ลงมาหาเขา เธอก็ถูกเชนน์ดึงเข้าไปกอด “เสียงทำครัวของฉันทำเธอตื่นเหรอ?”

เขาวางคางลงบนไหล่ของเธอ แล้วจูบต้นคอเธออย่างรักใคร่

“เปล่า ฉันนอนไปตั้งเยอะแล้ว ถึงเวลาตื่น”

เชนน์ถาม “เธอหิวไหม?”

“นิดหน่อย”

เชนน์เอ่ย “ทำไมฉันไม่สั่งอาหารมากินนะ? กว่าจะเสร็จ เธอคงหิวตายก่อนพอดี”

“สั่งอาหารมาไม่อร่อยหรอก ฉันจะไปล้างหน้าก่อน แล้วจะต้มบะหมี่ซุปผักเป็นมื้อเที่ยงแล้วกัน”

เชนน์ยกมือขึ้นเกาคิ้ว “ไม่ได้หรอก ฉันจะปล่อยให้คนปวดท้องประจำเดือนอย่างเธอทำอาหารได้ยังไง? ทำไมเธอไม่ไปนั่งแล้วสอนฉันทำอาหารแทนล่ะ?”

แยนนี่ตอบ “ฉันกลัวว่าสุดท้ายฉันก็ต้องเป็นคนทำเองอยู่ดีน่ะสิ”

เชนน์พูดไม่ออก เขาไร้ประโยชน์ขนาดนั้นเลยเหรอ?

หลังจากแยนนี่ล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว เธอดื่มนํ้าอุ่นเข้าไปแก้วใหญ่ก่อนเข้ามามาอยู่ในอ้อมกอดของเชนน์อีกครั้งในระหว่างที่เธอสอนเขาทำบะหมี่

“ต้มบะหมี่เนี่ยมีไว้กันตายสำหรับคนขี้เกียจเลยนะ ต้มนํ้าแล้วใส่เส้นสำเร็จรูปลงไป พอเส้นอ่อนตัวแล้วก็เพิ่มผักเพิ่มไข่ก็ได้ พอทุกอย่างสุกก็กินได้เลย จะเติมเกลือหรือเครื่องปรุงสักนิดก็ยังได้”

เชนน์เติมเกลือลงไปหนึ่งช้อนชา พอแยนนี่เห็นก็ตักเตือน “เกลือเยอะเกินไปแล้ว คุณต้องค่อย ๆ ใส่ทีละนิดสิเครื่องปรุงอื่นอย่างพวกซีอิ้วขาวก็มีเกลือในนั้นเหมือนกัน”

เชนน์เงียบจ๋อย ช่างเถออะ เขาไม่มีพรสวรรค์ในการทำอาหารอยู่แล้ว

เชนน์พูดขึ้น “คุณป้าเพิ่งโทรมาเมื่อกี้ ฉันเป็นคนรับสายให้ เธอรู้แล้วว่าเรากลับมาคืนดีกัน เธอบอกให้เรากลับไปทานมื้อเย็นที่บลู วอเทอร์ เรสซิเดนเชียล แอเรีย วันนี้”

“งั้นเราก็ไม่ต้องทำข้าวเย็นแล้วสินะ”

หลังมื้อเที่ยงอันแสนเรียบง่าย เชนน์ติดต่อคุณหมอนัดเขาให้รอที่โรงพยาบาล

เชนน์ถือเสื้อแจ็คเก็ตตัวยาวของแยนนี่ลงมาแล้วสวมมันให้เธอ ตรงประตูทางเข้า เขาปลดผ้าพันคอของหญิงสาวออกจากที่แขวนแล้วพันมันรอบคอของเธอให้ ผ้าพันคอผืนหนาพันรอบคอบางระหงของแยนนี่จนเหลือไว้แค่ดวงตากับหน้าผากที่โผล่ออกมา

แยนนี่จัดผ้าพันคอเพิ่มเล็กน้อย “เชนน์ คุณพยายามจะรัดคอฉันให้ตายเหรอ?”

“ฉันจะรัดคอภรรยาของฉันได้ยังไง? ลมข้างนอกแรงมาก พันไว้แน่น ๆ แล้วค่อยปลดมันออกตอนเธออยู่บนรถ”

สนามหญ้าปกคลุมด้วยหิมะหนา

ดูไม่มีท่าทีว่าจะละลายเลยสักนิด

เชนน์ไม่ได้สั่งให้คนมาตักมันออกไป

ตรงหน้าประตู เชนน์นั่งยองลงตรงหน้าของแยนนี่ แล้วตบไหล่ตัวเองพร้อมเอ่ย “ขึ้นมาเลย คุณผู้หญิง”

แยนนี่กระโดดขึ้นหลังเขา แขนของเธอกอดรอบคอเขาแน่น “เชนน์ถ้าคุณเอาแต่ทำแบบนี้ ฉันจะกลายเป็นเด็กเข้าสักวัน”

เชนน์ประคองเอวของเธอแล้วดันขึ้น เขาหัวเราะชั่วร้าย ก่อนเอ่ยออกมา “ก็ไม่แย่นะ ฉันจะได้เป็นทั้งสามีแล้วก็พ่อคนด้วย”

แยนนี่พิงหัวลงบนไหล่กว้างของเขา เธอยิ้มหวานแล้วโน้มใบหน้าเขาใกล้หูของเขาก่อนหยอกล้อ “แด๊ดดี้”

เชนน์บีบต้นขาเธอ “เธอกล้าเรียกอีกไหมล่ะ?”

“ไม่เอาแล้ว”

ชายหนุ่มตอบกลับอย่างเจ้าเล่ห์ “เธอเรียกไปแล้วครั้งหนึ่ง เรียกอีกครั้งสิ”

มุมปากของแยนนี่เริ่มขยับ

เขากำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย?!

ทั้งสองคนเข้ามาในรถหลังจากหยอกกันไปหยอกกันมา

บูกัตติสีเงินเร่งความเร็ว ฝ่าหิมะหนาที่เกาะอยู่ตามทางมุ่งหน้าออกจากคฤหาสน์

“ฉันรู้จักคุณหมอที่ใช้ธรรมชาติบำบัดคนนี้จากวิลสัน หมอนั่นบอกว่าเขามาจากตระกูลที่เป็นหมอกันมาหลายชั่วอายุ” เชนน์แนะนำหมอคนนี้กับแยนนี่ขณะที่กำลังขับรถ

แยนนี่รู้ว่าเขาเป็นกังวัลว่าเธออาจจะมีอาการเครียดขึ้นมา ถึงได้บอกเพื่อให้ใจชื้นได้บ้าง แต่เธอไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น “มีผู้หญิงหลายคนบนโลกนี้ ฉันไม่ใช่คนเดียวที่มีอาการปวดประจำเดือนรุนแรง ผู้หญิงหลายคนก็ต้องรับมือกับอาการปวดประจำเดือนไปตลอดชีวิต มันก็ไม่ได้แย่ขนาดโลกแตกหรอก”

เชนน์ยังดึงดัน “ฉันอาจยื่นมือช่วยคนอื่นที่กำลังเจ็บปวดไม่ได้และฉันก็ไม่สนพวกเขาด้วย แต่ฉันแค่ทนดูเธอทรมานจากอาการปวดรุนแรงนี่ไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าหมอคนนี้จะสร้างปาฏิหาริย์ได้ไหม แต่ถ้าวิธีนี้ไม่ได้ผลเรายังหาทางรักษาอื่นได้ และถ้ามันยังไม่ได้ผลอีกเราก็แค่หาต่อไป ยังมีหมอที่สร้างปาฏิหาริย์ได้อีกมากมายที่จะรักษาเธอบนใบโลกนี้”

ทีแรกหัวใจของแยนนี่รู้สึกหนักอึ้ง แต่ด้วยคำพูดของเขากลับทำให้เธอระเบิดหัวเราะออกมา “ถ้ามีหมอเทวดาโผล่มาหาคุณจริง ๆ ล่ะก็ มันก็เหมือนบัณฑิตวิ่งเข้าหาโจรเลยสิ พวกเขาคงสั่นงก ๆ เพราะกลัวคุณแน่”

“ก็ดีแล้วที่พวกนั้นกลัวฉัน หมอสมัยนี้ไม่ได้มองว่าอาการปวดประจำเดือนเป็นเรื่องสำคัญ พวกนั้นเอาแต่จ่ายยาลวก ๆ ให้มันจบ ๆไป ดีแล้วถ้าพวกเขากลัวจะได้รักษาอย่างจริง ๆ จัง ๆ สักที”

แยนนี่คิดตาม เขาก็พูดถูกอยู่เหมือนกัน “จริงด้วย”

พอถึงโรงพยาบาล เชนน์พาแยนนี่ขึ้นไปบนห้องปรึกษาปัญหาเฉพาะทาง

แยนนี่คิดว่าหมอที่ว่าน่าจะแก่หงำเหงือกเสียอีก ไม่นึกเลยว่าจะเป็นหมอหนุ่มอายุแค่ยี่สิบกว่าเท่านั้น เขาค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว แต่เท่าที่เห็นแค่ตาเปล่าเธอบอกได้เลยว่าเขาอาจดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่

เชนน์เดินออกจากห้องพร้อมจูงมือแยนนี่ไปเพื่อทดสอบเลือด พวกเขาต้องใช้เหลือดถึงสามหลอดเข็มฉีดยา

เชนน์ทำหน้าบึ้งตึง ปมบนคิ้วขมวดจนแมลงก็บินผ่านไม่ได้

หลังแยนนี่ถ่ายเลือดเสร็จแล้ว เธอดึงแขนเสื้อลงแล้วพูดติดตลก “ฉันคิดว่าการรักษาแบบธรรมชาติบำบัดจะใช้เวลาตรวจไม่นานและไม่ต้องเจาะเลือดซะอีก ใครจะคิดว่าต้องใช้เลือดตั้งสามหลอด?”

เชนน์ลูบแขนข้างที่เพิ่งโดนเจาะเลือดไปของแยนนี่ ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองเธออย่าเคร่งขรึม “เธอเจ็บไหม?”

“มันก็ไม่ได้เจ็บมาก แค่เหมือนเวลามดกัด”

“แยนนี่ เราไม่ต้องมีลูกกันหรอก ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเสียเลือดมากขนาดนั้นเพื่อเด็กคนเดียว ต่อให้เด็กเกิดมาจริง ฉันก็คงจะรังเกียจเขา”

เชนน์จ้องแยนนี่ตาไม่กระพริบ สีหน้าของเขาทั้งจริงจังและจริงใจ

แยนนี่หัวเราะ ก่อนพูดปลอบ “ทำไมคุณถึงเครียดจัง? ฉันยังไม่พูดเลยว่าอยากจะมีลูก ในเมื่อคุณไม่อยากให้มี ก็ไม่ต้องมี ยังไงฉันก็ทำเพื่อคุณอยู่แล้ว”

เชนน์รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย เขาสวมกอดเธอแน่นแล้วเอ่ย “เธอถ่ายเลือดเยอะเกินไปแล้ว ฉันรู้สึกแย่ที่ต้องเห็นมัน ถึงจะแค่เลือดสามเข็ม แต่ถ้าต้องเสียเลือดจำนวนมากจากการคลอดจริง ฉันคงใจสลายก่อนที่เด็กจะเกิดมาเสียอีก ฉันกลัวจริง ๆ”

แยนนี่วางมือลงบนแผ่นหลังของเขาแล้วลูบปลอบประโลม “ฉันก็ยังอยู่ดีในอ้อมแขนของคุณนี่ไง? ถึงร่างกายฉันจะไม่ได้แข็งแรงมาก แต่ฉันก็ไม่ตายง่าย ๆ หรอก”

เชนน์ขมวดคิ้ว “เธอพูดอะไรเนี่ย? จะพูดเรื่องเป็นตายไปทำไม? เธอต้องมีชีวิตอยู่ยาว ๆ สิ”

ริมฝีปากของแยนนี่ยกยิ้ม เธอตอบกลับอย่างอ่อนโยน “ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลือกับคุณนะ”

เชนน์กุมมือของเธอแล้วลูบแหวนเพชรบนนิ้วเรียวอย่างไม่รู้ตัว เขาเอ่ย “ถ้าเป็นเรื่องอื่นนอกเหนือจากการมีลูก ฉันจะฟังเธอทุกอย่าง”

“ฉันไม่ได้พูดเลยว่าฉันอยากมีลูก”

แยนนี่ซ่อนความคิดของเธอจากเชนน์ไม่พ้นจริง ๆ เขาเอ่ย “ถ้าเธอไม่ได้ตั้งใจจะมีจริง ๆ งั้นเมื่อกี้เธอก็ไม่น่าจะบอกอาการพวกนั้นของเธอให้หมอเบนฟังสิ”

แยนนี่รู้ว่าเขาโมโห เธอซบลงบนอกของเขาก่อนเอ่ยขึ้น “ฉันก็แค่คิดว่าอาจมีโอกาสสักนิดที่ฉันจะท้องได้ มันอาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้น อาจจะเสี่ยงแค่เล็กน้อย”

“เสี่ยงแค่เล็กน้อยเหรอ? เธอไม่ได้ฟังที่เบนพูดเหรอ? มีความเสี่ยงสูงมากที่เด็กจากตายและเสี่ยงเสียเลือดอีก แถมการแข็งตัวของเลือดเธอก็ตํ่านะ จะไม่ให้ฉันกังวลได้ยังไง?”

เชนน์เครียดจนสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

ทำไมถึงต้องคิดมีลูกให้เขาด้วยล่ะ? ใครมายัดความคิดอันตรายพวกนี้ให้เธอกันนะ?

‘จริงสิ อาทิตย์ก่อน ที่ทานอาหารกับพวกตระกูลฟัดด์ เวอเรียนคงกรอกเรื่องพวกนี้ใส่หูเธอสินะ?’

เชนน์ขมวดคิ้วเป็นปมแล้วถาม “เวอเรียนกับลูกบุญธรรมของเธอใช่ไหมที่อวดว่าการมีลูกกับฮีลตันสุขสันต์นักน่ะ? เธอถึงมีความคิดแบบนี้? ต่อให้เลือดของเธอไม่ได้มีปัญหาหรือเธอไม่ได้มีกรุ๊ปเลือดหายาก ฉันก็จะยังคิดแล้วคิดอีกก่อนจะให้เธอตั้งครรภ์ ตอนที่เธอกลับมามีชีวิตตรงหน้าฉันอีกครั้ง ฉันสาบานว่าจะไม่ให้เธอต้องเสี่ยงอันตรายอีก ฉันเคยเห็นคนเจ็บท้องคลอดและเคยได้ยินเรื่องที่มีคนเกือบตายเพราะเสียเลือดจากการคลอดจริง ๆ และฉันก็รู้ว่ามีคนที่ได้รับข่าวร้ายจากนอกห้องคลอดว่าเด็กไม่สามารถคลอดออกมาได้ บางคนต้องตัดสินใจเลือกว่าจะรักษาชีวิตของเด็กเอาไว้ โดยไม่สนว่าแม่เด็กจะเป็นยังไง นั่นไม่ใช่กรณีที่ยากจะเกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นได้ทั่วไป”

“แยนนี่ ฉันไม่คาดหวังให้เธอต้องมีลูก และฉันก็ไม่เต็มใจให้เธอต้องไปเสี่ยงเพื่อมีลูกเหมือนกัน”

แยนนี่ประสานตากับเขา แล้วถาม “ไม่เต็มใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เชนน์กลืนนํ้าลายลงคอ เขายืนกรานอย่างแข็งขัน พูดขึ้นอย่างไม่สนใจ “ไม่เต็มใจมาก ๆ ฉันไม่สนว่าใครจะคิดยังไง หรือใครจะมีลูกกันเท่าไหร่ แต่ภรรยาที่รักของฉันมีค่ามากกว่าพวกนั้น ฉันห้ามเธอไม่ให้เสี่ยงอะไรทั้งสิ้นแม้แต่การมีลูก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน