แยนนี่รู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่หิมะตก
นั่นก็เป็นเพราะเขา
เชนน์กลับเข้าห้องนอนมาแล้วก็ซุกลงใต้ผ้าห่ม แยนนี่ที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นก็ซุกตัวข้าง ๆ เขาพร้อมพูดเสียงอู้อี้ “นอนเถอะ นอนดึกตลอดแบบนี้ไม่ดีกับสุขภาพคุณนะ”
เชนน์เป็นคนประเภทที่ยังคงทำงานได้มีประสิทธิภาพแม้ว่าจะนอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง ดังนั้นไม่ว่าเขาจะอยู่จนดึกหรือไม่ก็ไม่เป็นปัญหา
เขาโน้มตัวเข้าหาแล้วจูบหน้าผากเธอ เขาพูดด้วยเสียงต่ำแหบพร่าว่า “ฉันรอดกลับมานะแยนนี่ ฉันไม่ได้ตายเพราะพายุหิมะ ฉันต้องขอบคุณพายุนั่นด้วยซ้ำที่ทำให้เธอกลับมาหาฉัน”
แยนนี่ตื่นเต็มตาแล้วตอนนี้
เธอตัวแข็ง ก่อนหันมาแล้วมองเชนน์ภายใต้แสงสลัว “คุณป้าบอกคุณเหรอ?”
“ตอนนี้หิมะตกอยู่ ถ้าเธอกลัวก็ขยับมาใกล้ ๆ กอดฉันไว้ ฉันจะไม่ไปห่างจากเธออีก”
น้ำเสียงเขาหนักแน่นแต่ก็ปลอบประโลมใจ ทำให้คนฟังรู้สึกมั่นคงปลอดภัย
ไม่มีอะไรที่ช่วยทำให้ใจสงบได้ดีไปกว่าการได้รู้สึกถึงความอบอุ่นจากตัวเขาและเสียงหัวใจของเขาเต้นอยู่ข้าง ๆ เธอ
แยนนี่มองเขาแล้วยิ้ม ดวงตามีน้ำตารื้น “เชนน์ คุณเคยนึกเสียใจบ้างไหม? ถ้าสมมุติว่าคุณไปรักแล้วก็แต่งงานกับคนอื่น 10 ปีที่ผ่านมาคุณคงไม่ต้องเจอกับปัญหามากมายขนาดนี้ ตอนนี้คุณอาจจะมีความสุขกับชีวิตแต่งงานแถมอาจจะมีลูก ๆ ด้วย?”
เชนน์ใข้มือประคองใบหน้าเธอ เขาโน้มตัวเข้าหาแล้วเอาหน้าผากชนกับหน้าผากของเธอก่อนยิ้มน้อย ๆ “เด็กโง่ ฉันยอมทรมาน 10 ปีนั่นก็เพราะว่าเป็นเธอไง ถ้าหากว่าไม่ใช่เธอฉันก็คงไม่ยอมทำแบบนี้หรอก ในโลกนี้มีแยนนี่แค่คนเดียว และเธอก็อยู่ตรงนี้กับฉันแล้ว”
เขาเอามือเธอมาวางทาบตรงหัวใจ แววตาเขาอบอุ่น อ่อนโยนและมั่นคง เขามองเห็นเพียงแค่เธอเท่านั้น
เขาพูดเสริม “ฉันอารมณ์ร้อน ขาดความอดทน ขี้รำคาญ แล้วก็ไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษสักเท่าไร ฉันขอโทษที่เธอต้องมาทนรับนิสัยแย่ ๆ ของฉันเพราะว่าเป็นภรรยาฉัน”
แยนนี่ส่ายหน้า มีอะไรให้ต้องขอโทษกันในเมื่อเขาก็ปฏิบัติต่อเธออย่างสุภาพและอดทนนี่นา?
การเป็นภรรยาของเขาจะไม่ดีได้ยังไง?
แยนนี่ซุกใบหน้าอาบน้ำตาเข้ากับซอกคอเขาก่อนพูดด้วยเสียงพร่าเล็กน้อย “จอร์แดน พรุ่งนี้มาจดทะเบียนสมรสกันเถอะ”
เชนน์อึ้งไปเล็กน้อยก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฉันคงลืมไปแล้วถ้าเธอไม่พูดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้เราเหมือนกำลังขับรถโดยที่ไม่มีใบขับขี่เลย รู้สึกเหมือนผ่านไปแล้วสักสิบปี แยนนี่คราวนี้เราน่าจะจัดงานแต่งงานให้เหมาะสมนะ รอบนี้เป็นตาฉันจัดงานแต่งที่ฉันติดค้างไว้เมื่อสามปีก่อนให้เธอ”
“มันไม่สำคัญหรอก ตราบใดที่ฉันได้แต่งงานกับคุณ งานแต่งงานมันก็เป็นแค่พิธีการเท่านั้น ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย”
“แต่ฉันสนใจนี่ ฉันอยากให้ทั้งโลกได้รู้ว่าฉันกำลังจะแต่งงานกับแยนนี่แล้วเธอก็เป็นของฉันแล้ว อีกอย่างภรรยาของฉันก็มีแค่แยนนี่เท่านั้น เธอไปปรากฏตัวในงานเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ ถึงยังไงเธอก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของฉันอยู่แล้ว”
แยนนี่เอาแขนโอบตัวเชนน์ แล้วปรึกษากับเขา “เชนน์ ถ้าสุขภาพฉันดีขึ้นเมื่อไร ฉันอยากมีลูกกับคุณนะ”
“ฉันคิดว่าเราตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีลูก เบนไม่แนะนำให้เธอตั้งครรภ์นี่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอตอนคลอดฉันคง…”
แยนนี่ยกมือขึ้นปิดปากเขาไว้ ไม่ยอมให้เชนน์พูดจบประโยค เธอสบตาเขาและพูดว่า “ฉันก็อยากลองดู บางทีฉันยังพอมีโชคอยู่ ตลอด 28 ปีที่ผ่านมาชีวิตฉันยากลำบากจนมีช่วงที่ฉันคิดว่าตัวเองคงใช้โชคที่มีหมดไปแล้วเมื่อได้เจอคุณ”
“ฉันก็ไม่ได้อิจฉาคนที่มีลูกนะ เพราะว่าที่จริงฉันก็ไม่ชอบเด็กขนาดนั้น แต่ฉันแค่อยากพิสูจน์ว่า… ฉันรักคุณ ตลอดเวลามานี้ฉันรู้ว่าลูคัสแล้วก็คนอื่น ๆ ต่างก็คิดว่าคุณรักฉันมากกว่าที่ฉันรักคุณ แล้วก็คิดว่าฉันโกหกคุณ มันเพราะว่าฉันดูเหมือนจะเป็นตัวหาเรื่องมาให้คุณ แต่ก็ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาคิดกับฉันว่าเป็นพวกเจ้าแผนการหรือแค่หลอกใช้คุณ ฉันไม่สนหรอกว่าพวกเขาคิดยังไง”
“แต่มันสำคัญว่าพวกเขามองคุณยังไง ฉันห่วงว่าเขาจะคิดว่าคุณเป็นพวกไม่มีน้ำยาทำให้เมียท้อง หรืออาจจะว่าภรรยาของเชนน์ไม่ยอมมีลูกให้เขา เชนน์ ฉันแค่ไม่อยากให้ใครมองคุณแบบนั้น”
เขาน้ำตารื้น มองเธออย่างอึ้งงันแล้วบอกว่า “แต่แยนนี่ ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าคนอื่นจะคิดกับฉันยังไง”
“แต่ฉันสนใจค่ะ ว่าคนอื่นคิดกับคุณยังไง เพราะว่าคุณเป็นคนที่สำคัญที่สุดในใจของฉัน”
แยนนี่จับมือเขามาวางทาบที่หัวใจของเธอ เธอมองเขาด้วยน้ำตาเอ่อคลอพร้อมยิ้มอ่อนโยน “ฉันไม่เคยคิดเรื่องที่จะเป็นแม่เลย แต่ถ้าคุณเป็นพ่อของลูกฉัน ฉันก็พนันได้ว่าฉันนั้นต้องเป็นคนโชคดี สิ่งเลวร้ายที่จะเกิดก็อาจจะถึงตาย หรืออาจจะเป็นการตกเลือดระหว่างคลอด ถ้าเรื่องเลวร้ายพวกนั้นเกิดขึ้นเราก็ไม่ต้องเก็บเด็กไว้ ฉันรู้ว่าคุณจะพยายามเต็มที่เพื่อให้ฉันปลอดภัย”
“แยนนี่…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน