หลังอาหารเช้า เชนน์ก็พาแยนนี่ไปที่กรมกิจการพลเรือนเพื่อจดทะเบียนสมรส
บังเอิญมากที่เจอเจ้าหน้าที่คนเดิมซึ่งเคยจดทะเบียนหย่าให้พวกเขาเมื่อหนึ่งปีก่อน เจ้าหน้าที่ทะเบียนจำพวกเขาได้ทันทีเพราะหน้าตาที่โดดเด่นของทั้งเชนน์และแยนนี่
เจ้าหน้าที่เป็นหญิงวัยกลางคน เธอขมวดคิ้วขณะที่มองทั้งเชนน์และแยนนี่ “ถ้าฉันจำไม่ผิด คราวก่อนพวกคุณมาขอหย่ากันนี่ เพิ่งจะผ่านไปปีเดียวเองนะ ตอนนี้แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าต้องการแต่งงานกันใหม่?”
แยนนี่รู้สึกอายมาก
ส่วนเชนน์รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย “มีกฎห้ามไม่ให้คู่ที่เคยหย่ากันมาจดทะเบียนแต่งงานใหม่ด้วยเหรอ?”
เชนน์พูดด้วยท่าทางที่ค่อนข้างก้าวร้าว ทำให้เจ้าหน้าที่ถึงกับสะดุ้ง เธอพึมพำว่า “ฉันก็แค่ห่วงว่าพอผ่านไปอีกปีคุณจะมาหย่ากันอีก ทุกวันนี้พวกคู่หนุ่มสาวอย่างพวกคุณดูไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการแต่งงานเท่าไหร่ ทำเหมือนกว่าการแต่งงานเป็นเรื่องเล่น ๆ ที่นึกอยากจะหย่าก็หย่า อยากจะมาแต่งก็แต่ง”
รอบนี้เชนน์ไม่โมโห แต่เขาพูดกับเจ้าหน้าที่อย่างจริงจังว่า “ก่อนหน้านี่ที่หย่ากันเป็นเพราะเรื่องเข้าใจผิด แต่พอตอนนี้เรามาจดทะเบียนกันใหม่เราจะไม่หย่ากันแล้ว จะอยู่จนความตายมาแยกจาก คุณทำตามคำร้องได้เลยรับรองว่าคุณจะไม่พบเราอีกแล้วแน่”
“....”
ในเวลาไม่นานเจ้าหน้าที่ก็ส่งทะเบียนสมรสให้พวกเขา
ขณะที่เชนน์และแยนนี่กำลังจะไป เจ้าหน้าที่ก็เดินตามมาแสดงความยินดีกับทั้งคู่ “คุณสองคนเหมาะสมกันมาก เพราะงั้นคุณต้องรักษาคำพูด ชาตินี้เราไม่ต้องมาเจอกันอีกนะ”
เชนน์ตอบ “แน่นอนครับ”
เมื่อเดินออกมาจากกรมกิจการพลเรือน เชนน์ก็จับมือแยนนี่และพูดว่า “สามสิ่งที่มีความสุขที่สุดในโลกนี้คือการหลบเรื่องเลวร้ายได้พ้น การได้สิ่งที่หายไปคืนมา แล้วก็การรอดจากโศกนาฏกรรม ฉันผ่านมาหมดทุกข้อแล้ว”
แยนนี้ยิ้มน้อย ๆ “เชนน์ กลับบ้านกันเถอะ”
…
เชนน์ทำงานอยู่ที่บ้านตั้งแต่ที่แยนนี่เริ่มรู้สึกไม่สบาย เขาปล่อยงานที่ไม่สำคัญทั้งหลายให้เฮนรี่แล้วก็ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นรับผิดชอบ
ทั้งคฤหาสน์มีกลิ่นยาสมุนไพรอวลคลุ้ง
แยนนี่ต้องดื่มยาสมุนไพรหลังอาหารทุกมื้อ
ยานั้นไม่เพียงแต่ขมเท่านั้น มันยังมีรสชาติแปร่งปร่าที่ทำให้คนดื่มต้องหน้าเหยเก
ยาขมน้อยลงเมื่อผสมน้ำผึ้งเข้าไปแต่ก็มีอยู่หนึ่งครั้งที่แยนนี่ร้องไห้ไปดื่มยาขม ๆ นี้ไปหลังจากที่เธอแต่งงานใหม่กับเชนน์แล้ว
แยนนี่รู้สึกราวตัวเองเป็นคนเสแสร้งเมื่อเธอมีอาการแบบนี้
เชนน์พยายามกล่อมให้เธอเปลี่ยนใจขณะที่ปลอบใจเธอ “ถ้าเราไม่ต้องมีลูก มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าเราจะรักษาอาการป่วยนี้ไหม แยนนี่ล้มเลิกความคิดเถอะ ต้องมาทนทรมานขนาดนี้เพื่อลูกมันไม่คุ้มหรอก”
แยนนี่ก็รู้สึกหวั่นไหวไปครั้งหนึ่งกับความคิดนี้และเธอก็อยากล้มเลิกเพราะว่าจริง ๆ ทั้งสองก็ไม่ได้ชอบเด็ก
อันที่จริงความสุขในความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่ไม่ต้องมีเด็กมาป่วนด้วยซ้ำ
แต่ว่าแยนนี่ก็ไม่อยากเห็นเชนน์โดนคนอื่นติฉินนินทา
อีกอย่างเธอก็ดื่มยานี่มาสักพักแล้ว ถ้าล้มเลิกตอนนี้ก็เหมือนเสียเปล่า
“ฉันไม่อยากล้มเลิกกลางคัน ไม่อย่างงั้นความพยายามที่ผ่านมาของเราก็สูญเปล่า”
แยนนี่ดื่มยาที่เหลือหมดรวดเดียว
เชนน์โน้มตัวลงมาจูบเธอ แล้วใช้ปลายลิ้นลิ้มรสของลูกกวาดผลไม้ในปากเธอ
รสหวานอมเปรี้ยวของลูกอมช่วยลดความขมของยา และทำให้ในปากของเธอเหลือแต่รสสดชื่นของลูกอมเท่านั้น
แยนนี่อมลูกอมไว้ในปากและค่อย ๆ มองที่ริมฝีปากของเชนน์ “หวานดีนะ ฉันอยากได้อีก”
เชนน์แหย่ “ลูกอมหวานเหรอ? หรือว่าฉันที่หวาน?”
“คุณ”
เชนน์เอามือประคองศีรษะเธอไว้แล้วโน้มตัวลงมาประทับจูบเธอ
เขายังได้รับรสขมของยาที่ยังเหลือค้างอยู่ในปากเธอ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
เธอดื่มยาหมดในรวดเดียวได้ยังไงกันนะ?
การที่ดื่มยานี่แล้วถึงกับต้องร้องไห้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย
…
แยนนี่ดื่มยาราวกับมันเป็นอาหารมานานครึ่งเดือนแล้ว
โชคดีที่เธอทนมาได้
หลังจากครึ่งเดือนผ่านไป เธอก็ไปหาเบนที่คลีนิค
เบนจับชีพจรของเธอ แล้วก็เจาะเลือดแยนนี่ไปตรวจก่อนที่จะบอกผลเธอ
และแน่นอนว่าก็ต้องเป็นเลือดจากเส้นเลือดใหญ่ทั้งสาม
หลังจากที่ได้ผลเลือด เบนก็พูดอย่างยินดี “มีจำนวนเกล็ดเลือดเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับคราวที่แล้ว ยานี้ส่งผลดีกับคุณหญิงจินจริง ๆ ดื่มยานี้ต่อไปประมาณครึ่งปีแล้วก็จะช่วยเรื่องลิ่มเลือดของเธอได้ครับ”
เมื่อเชนน์พาแยนนี่มาเขาคาดหวังว่าเบนจะบอกข้อมูลอะไรมากกว่านี้ เขาไม่คิดว่าแค่พูดไม่กี่คำก็เสร็จแล้ว
เชนน์ถามอย่างเย็นชา “บอกฉันมาว่านายรักษาอาการป่วยเธอได้ไหม? ถ้าทำไม่ได้ฉันจะได้พาเธอไปหาหมออื่น”
ไม่อย่างงั้นแยนนี่คงต้องกล้ำกลืนดื่มยาขม ๆ นี่ไปทั้งที่ไม่ได้ผล เธออาจจะเสียเวลาชีวิตทำเรื่องไร้ประโยชน์พวกนี้
เบนมักคิดว่าเชนน์นั้นโอเวอร์เกินไป เขายิ้มและอธิบาย “คุณชายเชนน์อาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาการป่วยของคุณหญิงจิน อาการของเธอไม่ถือว่ารุนแรง แม้ว่าค่าเลือดจะดูมีความดันต่ำกว่าปกติแต่ก็ไม่ได้ต่ำขนาดที่จะถือว่าผิดปกติ แล้วอาการนี้ก็รักษาได้ แม้ร่างกายของคุณหญิงจินจะอ่อนแอแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ว่าถ้าพวกคุณเตรียมตัวที่จะมีลูกก็จำเป็นต้องใส่ใจ อาการป่วยของคุณหญิงจินนั้นรักษาได้ครับ คุณแค่กังวลเกินไป”
เชนน์ถาม “ยานี้มันขมเกินไปที่จะให้ดื่มต่อกันตั้งครึ่งปี มียาที่ขมน้อยกว่านี้ไหม?”
เบนตอบเสียงอ่อยอย่างลังเล “ที่จริงก็มี…”
“ถ้างั้นก็เปลี่ยนยา ไม่งั้นยานี่คงขมจนทำเธอตายก่อนที่จะรักษาโรคหาย”
“...”
เบนคิด ‘จะเว่อร์อะไรปานนั้น’
เมื่อเห็นว่าเบนยังเงียบอยู่ เชนน์ก็ขมวดคิ้วและสั่งอย่างหมดความอดทน “ตกลงนายมียาไหม?”
ส่วนซาแมนธาก็แสนจะยินดี
เมื่อเชนน์กลับมาถึง เขาก็เห็นซาแมนธานอนอยู่บนโซฟากินมันฝรั่งแผ่นอยู่ขณะที่แยนนี่กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัว
เชนน์ดึงหลังคอเสื้อของซาแมนธาแล้วเทศนา “เธอต้องไปหัดทำอาหารแล้ว”
ซาแมนธาทำหน้างอแล้วตอบ “ก็ฉันทำอาหารไม่เก่งนี่”
ร็อดนีย์เสริม “ปล่อยเธอไปเถอะ อาหารที่เธอทำมันห่วยมากเลย”
ซาแมนธารับ “ใช่เลย”
เชนน์รู้สึกไม่พอใจ “แต่พี่สะใภ้เธอไม่ควรต้องเป็นคนทำอาหารทั้งหมดนะ”
หลังจากที่แต่งงานกันมาหกเดือน เชนน์ไม่เคยให้แยนนี่ทำอาหารเลยแม้ว่าเธอจะทำอร่อยก็ตาม เพราะเธอไม่ควรใช้งานร่างกายที่อ่อนแอของเธอหนักเกินไป
แยนนี่ผู้ที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ครัวกล่าวว่า “ก็แค่มื้อเย็นเองค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ทำอาหารมาตั้งนานแล้ว”
เชนน์ลากซาแมนธาเข้ามาในครัวแล้วก็ดึงแยนนี่ออกมา จากนั้นเขาก็สั่ง “ร็อดนีย์ นายต้องสอนให้แฟนนายทำอาหารให้เป็นซะ”
“...” ทั้งร็อดนีย์และซาแมนธาต่างก็ยืนอึ้ง
มันน่ากวนใจมากที่เชนน์เป็นพวกชอบใช้อำนาจข่มคนอื่น
ซาแมนธาอ้อนวอนเสียงอ่อนอย่างขมขื่น “พี่ แต่ฉันมาเป็นแขกนะ…”
เชนน์ตอบ “ฉันไม่ได้เชิญเธอมา อีกอย่างแล้วเธอกับร็อดนีย์มีแผนอะไรกัน? ทำไมถึงมาหาผู้ใหญ่พร้อมกันทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน?”
“เอ่อ…” ซาแมนธาลังเล
ร็อดนีย์ยิ้มขอโทษอย่างกระอักกระอ่วน เพราะว่าเขาอยากแต่งงานกับน้องสาวเชนน์ดังนั้นจังไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมทำตามที่เชนน์พูด “ทั้งสองคนพักเธอ เดี๋ยวฉันกับซาแมนธาจะเตรียมอาหารเย็นเอง”
สุดท้ายในครัวก็เหลือเพียงร็อดนีย์และซาแมนธาที่อยู่ทำอาหารเย็น
เชนน์นั่งกอดแยนนี่ดูหนังแล้วก็กินมันฝรั่งทอดด้วยกันบนโซฟา
แยนนี่รู้สึกไม่สบายใจ เธอชำเลืองไปทางครัวแล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันว่ามันไม่ถูกนะ ที่เราให้แขกเป็นคนเตรียมอาหารเย็นน่ะ”
เชนน์เลิกคิ้วและกล่าว “มีอะไรผิดตรงไหน? ถ้าเขาอยากมาเป็นน้องเขยฉัน เขาต้องทำอาหารเป็น”
แยนนี่เสริม “คุณเข้มกับร็อดนีย์เพื่อซาแมนธามันก็ดี แต่ว่าเขาก็ช่วยฉันทำอาหารจนถึงเมื่อกี้นี้ เขามีน้ำใจมากนะ”
เชนน์นิ่วหน้า “คุณหญิงจิน นี่ชมชายอื่นต่อหน้าคุณชายจินได้ยังไงกัน?”
“...” เขาขี้หึงขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ?
เชนน์จับคางเธอด้วยนิ้วเรียวยาวของเขา แล้วจ้องตาเธอก่อนพูดอย่างชัดเจน “คุณหญิงจิน เธอได้รับอนุญาตให้มองแค่ฉันเท่านั้น”
เพราะว่ายังอยากจะอยู่ด่อ แยนนี่ยิ้ม “ฉันแค่จะบอกว่าร็อดนีย์เป็นตัวเลือกน้องเขยที่ดีของคุณแค่นั้นเอง”
เชนน์โน้มตัวลงมาจูบภรรยาของเขา “หนนี้ฉันจะปล่อยให้เธอรอดตัวไปก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน