วันหนึ่งเชนน์พาแยนนี่ไปที่ห้องเกมเพื่อผ่อนคลาย
ตลอดเวลาที่เธอต้องพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แยนนี่ก็เลิกทำงานทั้งหมด นอกจากการออกกำลังกับเชนน์แล้วแยนนี่ก็รู้สึกเบื่อจนแทบตายเวลาที่อยู่บ้าน
ครอบครัวของฮีลตัน ครอบครัววิลสัน และคนโสดตลอดกาลอย่างลูคัสต่างก็ได้รับเชิญมา
ร็อดนีย์ไม่สามารถมาร่วมได้เพราะว่าเขาไปออกเดตกับแฟนสาว
นี่เป็นเกมไพ่ที่รวมแต่ละครอบครัวเข้าด้วยกัน
บรรดาสาว ๆ ต่างก็จับกลุ่มสนุกสนานกัน ขณะที่พวกผู้ชายก็เล่นไพ่
ทั้งเวอเรียนและเซรีนต่างก็ไม่เคยเล่นบอร์ดเกมมาก่อน พวกเขาต่างก็เด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจกติกาได้
แยนนี่เล่นเกมกับพวกสาว ๆ อยู่เกือบสองชั่วโมง
ขณะที่บรรดาผู้ใหญ่ต่างก็เริ่มอ่อนล้า เจลลี่ ลีนตัวน้อยก็เอามือเล็ก ๆ ของเธอตบโต๊ะแล้วอ้อนวอนว่า “หนูยังอยากเล่นต่อ พิคเคิลน้อย ลูคัส จาเรตต์ เรามาเล่นกันอีกตาดีไหม?
แม้ว่าจะยังเด็กแต่เด็กน้อยทั้งสองก็ฉลาดและคึกคัก
พิคเคิลตอบ “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? แต่ว่าถ้าแพ้เธอห้ามร้องไห้นะ”
เจลลี่ บีนงอแง “ตอนนี้ฉันเจ็ดขวบแล้วนะ ไม่ได้ร้องไห้ง่ายแบบนั้นสักหน่อย แต่นายแค่สามขวบเอง นายจะเอาชนะฉันได้ยังไง”
ลูคัสเสริม “เจลลี่ บีน เป็นเด็กขี้แย ปล่อยตามใจเธอเถอะแฮร์ริสัน ถ้าไม่งั้นลุงฮีลตันคงได้บ่นเราอีกแน่ถ้าเราทำเธอร้องไห้”
พิคเคิลน้อยเลยตอบ “ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะออมมือให้เธอ”
เจลลี่ บีน แย้ง “ฉันไม่ต้องการให้เธอมาออมมือให้หรอก ฉันจะชนะได้เพราะว่าฉันเก่ง”
การโต้เถียงไปมาของเด็ก ๆ ทำให้ผู้ใหญ่พากันหัวเราะ
ประเด็นเรื่องที่คุยกันเลยเปลี่ยนมาเป็นเรื่องของพวกเด็ก ๆ
เซรีนถามสบาย ๆ “แยนนี่ แล้วเธอกับเชนน์วางแผนจะมีลูกกันเมื่อไหร่?”
แยนนี้อึ้งไปเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าจะมีการคุยเรื่องนี้ตอนนี้ แถมตอนนี้เธอเองก็ยังไม่รู้คำตอบ
ทั้งเวอเรียนและเซรีนต่างก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับอาการป่วยของแยนนี่
แยนนี่เองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายสถานการณ์ของตัวเองให้พวกเธอฟังยังไง
ทันใดนั้นเชนน์ก็เดินเข้ามาจากโต๊ะที่เล่นไพ่อยู่ แล้วพูดกับแยนนี่ “มานั่งข้าง ๆ ฉันสิ ฉันไม่มีสมาธิเลยแล้วก็เล่นแพ้ตลอดเพราะว่าเธอไม่ได้นั่งอยู่ข้างฉัน”
หลังจากที่ขอตัวเธอออกมาจากเวอเรียนและเซรีนได้ แยนนี่ก็ยืนขึ้นแล้วเดินไปนั่งข้างเชนน์
แยนนี่นั้นมีนิสัยเหมือนคนแก่ พอสักสี่ทุ่มเธอก็เริ่มง่วงนอนแล้ว
เธอจึงนอนหลับโดยเอนพิงไหล่เชนน์
เชนน์วางไพ่ลงและกล่าวว่า “ฉันจะหยุดเล่นแล้ว ต้องกลับไปนอน”
ลูคัสวางไพ่แล้วต่อว่า “อะไรนะ? นี่ไม่เอาไหนเลยนี่หว่า นายอยู่ใต้อำนาจเมียเกินไปแล้ว”
เชนน์ตอบอย่างไม่แยแส “ฉันก็กลัวเมียมาตั้งแต่ไหนแต่ไร”
จากนั้นเชนน์ก็อุ้มแยนนี่ซึ่งผล็อยหลับแล้วขึ้นมาแล้วออกจากห้องเกมไป
ภายในรถ แยนนี่รู้สึกตัวตื่นขึ้นแล้วก็รู้สึกมึนงงสับสน “ทำไมคุณไม่อยู่เล่นต่อล่ะ?”
เชนน์โน้มตัวมารัดเข็มขัดให้และจูบเธอเบา ๆ “ฉันจะเล่นต่อได้ยังไงเมื่อเธอนอนหลับสนิทอยู่ข้าง ๆ น่ะ?”
“ถึงฉันหลับก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย คุณน่าจะเล่นต่อ”
“การนอนหลับของภรรยาฉันสำคัญกว่าการเล่นไพ่น่ะ เรากลับบ้านไปนอนพักกันดีกว่า”
แยนนี้มองใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาของเขา เธอเอื้อมมือมาจับมือเขาไว้ แยนนี่จ้องมองเชนน์แล้วถาม “ทำไมคุณถึงบอกให้ฉันลุกไปนั่งข้างคุณล่ะ?”
แยนนี่จักจี้เอวเขาพร้อมหัวเราะ “พอเลย คุณแก่เกินกว่าจะมาเล่นมุกอะไรแบบนี้แล้วนะ”
เชนน์พูดพร้อมสตาร์ทรถ “เธอไม่รู้เหรอไงว่าใจฉันยังเด็กน่ะ?”
แยนนี่ยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ จนถึงอายุ 80 คุณก็คงยังเป็นเด็กอยู่”
รถขับมาถึงสนามหน้าบ้าน เชนน์เปิดประตูรถด้านผู้โดยสารย่อตัวลงตรงหน้าแยนนี่แล้วตบไหล่เธอ “คุณผู้หญิง เชิญขึ้นมาครับ”
วันหลังจากที่แต่งงานกัน แยนนี่แทบไม่ต้องเดินเลย เชนน์มักจะอุ้มเธอไม่ก็ให้เธอขี่หลัง
เธอโดดขึ้นหลังเขาอย่างคุ้นเคย เพราะตอนนี้เธอก็ชินแล้ว
เชนน์แบกเธอขึ้นหลังขณะที่ร้องออกมา “พาเธอกลับบ้านกัน”
แยนนี่โอบแขนรอบคอเขาและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ก่อนแตะไหล่เขาเบา ๆ เธอพูด “เชนน์ เงยดูสิ คืนนี้ดวงจันทร์สว่างมากเลย”
เชนน์พูดกระเซ้า “ด้วยดวงจันทร์ที่สว่างแบบนี้ เราก็ควรจะฉลองการแต่งงานคืนนี้ให้ฉ่ำ”
“พูดไร้สาระ”
“รีบเข้าห้องดีกว่า”
เชนน์พุ่งตัวเข้าบ้านขณะที่มีแยนนี่กอดอยู่บนหลัง
แยนนี่กอดคอเขาแน่นพร้อมยิ้มอย่างสดใส
แยนนี่เองก็อยากบอกเชนน์ว่าจิตใจที่อ่อนเยาว์ของเขานั้นเพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอตื่นเต้นไปทั้งชีวิต
มันเป็นเรื่องยากที่จะคุยกับคนที่ไม่เข้าใจหรือต่อกันไม่ติด แต่กับเชนน์แค่พูดคุยกันก็ยังไม่เพียงพอ
ในโลกนี้มีคนหลายล้าน แต่ทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็สู้ชายที่อยู่ต่อหน้าเธอไม่ได้ เขาทั้งมีชีวิตชีวาและเป็นเรื่องตื่นเต้นในชีวิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน