ในทันทีที่เขาเข้าไป ฮีลตันก็สังเกตเห็นหญิงสาวที่บาดเจ็บได้ตื่นขึ้นแล้ว เธอกำลังเล่นโทรศัพท์ขณะที่นอนอยู่บนเตียง และดูท่าจะครบถ้วนสบายดี
ประกายแห่งความกรุ่นโกรธเดือดพล่านอยู่ภายในใจของฮีลตัน เขาเป็นห่วงเธอแทบบ้าตลอดเวลาที่เดินทางมา แล้วปรากฏว่าเวอเรียนสบายดีและยังไม่พูดถึงว่า เธอดูเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลย
ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเธอ และฉวยเอามือถือของเธอไปก่อนจะตะโกน “คุณไม่คิดว่าตัวเองควรอธิบายกับผมหน่อยเหรอว่าทำไมคุณถึงขับรถออกมาเองโดยที่ผมไม่อนุญาต? ดูคุณตอนนี้สิ คุณประสบอุบัติเหตุ ห๊ะ?”
เวอเรียนจ้องตรงไปยังเขาด้วยความงงงวยอย่างแปลกใจที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอพูด “คุณเป็นใครคะเนี่ย? ทำไมถึงมาแย่งมือถือไปจากฉัน?”
ฮีลตันพูดไม่ออก
เขาเลิกคิ้วขณะที่พูด “คุณพูดว่าอะไรนะ?”
เวอเรียนใจเย็นเป็นอย่างมาก ขณะที่ฉวยมือถือของเธอกลับมาพลางตะโกน “คุณเป็นคนประหลาด ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใครแล้วทำไมถึงโผล่พรวดเข้ามาในห้องของฉัน ทั้งยังแย่งมือถือของฉันไปอีก? ถ้าคุณไม่ออกไป ฉันจะให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเตะคุณออกไป”
ไม่มีคำพูดใดออกจากปากฮีลตัน
ฮีลตันไม่เพียงแค่ไม่ออกไป แต่เขายังนั่งลงข้าง ๆ เวอเรียน และเอื้อมมือออกไปแตะหน้าผากเธอ
เวอเรียนเหวี่ยงมือของเขาออกไป ขณะที่รู้สึกรำคาญเล็กน้อย เธอพูด “คุณกำลังทำอะไร? อย่าคิดว่าแค่เพราะคุณหล่อ แล้วจะคิดว่าฉันจะไม่กล้าเอาผิดคุณเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศนะ! ถ้าคุณกล้าแตะฉันอีกนะ ฉันจะ…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ มือทั้งสองข้างของเวอเรียนก็ถูกฮีลตันคว้าไว้แน่น ก่อนจะกดพวกมันลงแนบแก้มทั้งสองข้างของเขา จากนั้นฮีลตันก็จ้องมองลงไปยังเธอ ขณะที่ดูเหมือนเขากำลังประเมินเธอด้วยดวงตาสีเข้มของเขา
“ตอนนี้คุณสติไม่ดีไปแล้วใช่ไหม?”
เวอเรียนพูดไม่ออก
เธอดิ้นรนอย่างไม่เป็นผล ดังนั้นเธอจึงมองไปยังเขาด้วยดวงตาใสวาวน้ำของเธอ ขณะที่พูดอย่างโกรธเคือง “คุณเป็นใครมาเรียกฉันว่าสติไม่ดี? คุณนั่นแหละที่สติไม่ดี! ปล่อยฉันนะ!”
ตอนที่พยาบาลเข้ามาในห้องพร้อมด้วยสารน้ำเกลือให้ยาของเวอเรียน เธอก็ถูกทักทายด้วยภาพความใกล้ชิด
“เอ่อ… ยาของผู้ป่วยพร้อมแล้ว… พวกคุณ…”
ฮีลตันเพียงปล่อยเวอเรียนช้า ๆ หลังจากนั้น เขาลุกขึ้นอย่างสงบ และดูเหมือนเขาไม่ได้มีความประหม่า หรือเขินอายแม้แต่น้อย
ในตอนที่พยาบาลกำลังใส่ถุงน้ำเกลือของเวอเรียน เวอเรียนก็พูดว่า “พยาบาลคะ เขาโผล่พรวดเข้ามาในห้องของฉันโดนที่ฉันไม่ได้อนุญาต พวกคุณจะไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้หน่อยเหรอคะ? ช่วยเอาเขาออกไปทีค่ะ”
พยาบาลดูงุนงง และเดาว่าพวกเขากำลังมีการทะเลาะกันเล็กน้อย ขณะที่เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “มาดามฟัดด์ค่ะ คุณทะเลาะกับคุณฟัดด์เหรอคะ?”
“คุณหมายความว่ายังไง มาดามกับคุณฟัดด์อะไรกัน? ฉันไม่รู้จักเขา”
พยาบาลเหลือบมองฮีลตันตามสัญชาตญาณขณะที่เธอกล่าว “คุณฟัดด์คะ นี่…”
ฮีลตันจ้องตรงไปยังเวอเรียนด้วยดวงตาสีเข้มของเขา ก่อนที่จะตอบกลับอย่างใจเย็น “คุณไม่ต้องสนใจภรรยาของผมหรอก บางทีน่าจะมีอะไรผิดปกติกับสมองของเธอเนื่องจากอุบัติเหตุ”
เวอเรียนกล่าวอย่างเดือดดาล “เฮ้! สมองของใครกันที่คุณบอกว่ามีปัญหา? คุณนั่นแหละเป็นปัญหา! คุณพยาบาล พวกคุณจะไม่ใส่ใจกับคนที่น่ากลัวแบบนี้ในโรงพยาบาลของคุณจริง ๆ เหรอคะ?”
พยาบาลรู้สึกสิ้นไร้หนทาง ขณะที่เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “แต่มาดามฟัดด์ค่ะ เขาเป็นสามีของคุณจริง ๆ คุณพึ่งได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อย แต่คุณจะ… จำสามีของคุณไม่ได้ได้ยังไงคะ?”
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง? ฉันจะไม่รู้ว่าตัวเองแต่งงานหรือยังได้ยังไง?”
“คนนี้คือ คุณฮีลตัน ฟัดด์ และเขาเป็นสามีของคุณจริง ๆ เขาเป็นประธานของฟัดด์ กรุ๊ป และเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักของโรงพยาบาลนี้ด้วยค่ะ”
เวอเรียนตอบกลับ “... แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเขาเป็นผู้ถือหุ้นหลักล่ะ? เขาเลยสามารถเข้าห้องคนอื่นได้ตามใจงั้นเหรอ?”
พยาบาลหมดคำจะพูด
มาดามฟัดด์กำลังเล่นเกมอะไรอยู่กันแน่?
ตามความรู้ทางการแพทย์แล้ว เป็นเรื่องจริงที่ว่าการกระทบกระเทือนสามารถทำให้ผู้ประสบภัยสูญเสียความทรงจำบางส่วนไปได้ อย่างไรก็ตามไม่น่าจะถึงขนาดที่จะลืมสามีของตัวเองแน่ ๆ เว้นแต่ว่าสมองของพวกเขาได้รับความเสียหายจากอาการเลือดออกในสมองอย่างรุนแรง หรือเจอกับการผ่าตัดแบบเปิดสมอง ไม่นานหลังจากนั้นคนไข้ก็จะลืมคนที่เขารักและญาติใกล้ชิด อย่างไรก็ตามในสถานการณ์พวกนั้น คนที่พวกเขารักและใกล้ชิดจะไม่ใช่ความทรงจำส่วนเดียวที่จะหายไป แต่พวกเขาจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ความสามารถทางจิตของพวกเขาจะเสื่อมถอยคล้ายกับเด็กสามขวบ
อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาก่อนหน้านี้ของมาดามฟัดด์ค่อนข้างจะดุเดือดมาก และดูเหมือนจะคล่องแคล่วเมื่อเธอเคลื่อนไหว เธอลืมสามีของเธอเองได้ยังไงกัน?
หลังจากที่พยาบาลเปลี่ยนถุงน้ำเกลือ และฉีดยาให้เวอเรียนเสร็จ เธอก็ออกจากห้องไป ฮีลตันนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเธอ และจ้องมายังเวอเรียนไม่วางตา ทำให้เวอเรียนรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
“เพราะว่าคุณจำผมไม่ได้ งั้นคุณจำได้ไหมว่า เซรีน ลุดด์ คือใคร?”
“แน่นอนสิว่าจำได้ เซรีนเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน และฉันพึ่งไปเจอเซรีนมาก่อนหน้านี้ คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเตือนฉัน”
ฮีลตันเลิกคิ้วและกอดอกไว้ เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาเฉียบแหลมราวกับนกอินทรี ขณะที่เขาพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน