ตอนที่103 ห้องแต่งงานของเธอ
โดยเฉพาะตั้งแต่นักข่าวประกาศข่าวว่าเขากับสุรีย์วัลย์เลิกกัน บางหน่วยงานราชการกับหน่วยงาน เห็นได้เลยว่ากำลังโจมตีบริษัทซัวกรุ๊ปจำกัด ในขณะที่เราได้ตรวจเช็คดีแล้ว แต่ก็ยังนำไปสู่ความเพี้ยนและขายไม่ออก ผลกำไรลดลงเกือบ 50%
และยังมียศพลคอยขีดกั้นเป็นขู่แข่ง ทุกการลงทุนผมล้วนมียศพลคอยขีดกั้น แย่งชิงกันถึงกับไม่เสียดายต้นทุนที่มี ดูออก ว่ายศพลไม่เพียงแต่จะแก้แค้นเขา และยังคิดที่จะแย้งจารวีไปจากเขาอีก
ช่วงระยะเวลานี้ แทบจะเป็นช่วงเวลาที่รางน้ำชีวิต ด้านหนึ่งต้องสู้กับความกดดันของพ่อ ไปดูแลสุรีย์วัลย์ อีกด้านหนึ่ง ยังต้องเตรียมพร้อมต่อสู้กับสภาวะตอนนี้ในบริษัท แล้วยังคงต้องยุ่งกับเรื่องงานแต่จารวี
ความกดดันที่ผู้ชายคนหนึ่งควรรับ ตอนนั้นเขาได้รับมาทั้งหมด
เพื่อจารวี เขารู้สึกคุ้มเสมอ เขาเชื่อในสิ่งที่เขาได้ตัดสินลงไป
"วี อย่ากังวลเรื่องอื่นเลย คิดแค่กำลังจะเป็นเจ้าสาวก็พอ
"อืม!" จารวียิ้มหวานๆ เธอหลับตา และจินตนาการภาพแต่งงานในวันนั้น มันคงจะโรแมติกและมีความสุขมาก
"พิธีการขั้นตอนงานแต่งผมเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว หลังเสร็จงานแต่งเมืองS ผมจะพาคุณไปเกาะปารีส ต่อมา ลองดูว่าจะมีโรงเรียนที่ชอบไหม...... ปารีสเป็นเมืองที่บุกเบิกเรื่องเเฟชั่น ผมก่าว่าจะให้เธอไปอยู่โน้นสักสองปีไหนๆคุณก็ยังสาวอยู่
หรือว่าพี่มนต์จะคิดรอบคอบขนาดนี้เพื่อเธอ หัวใจจารวีโดนการกระทำเหล่านี้เติมเต็ม
"คุณหนู นี่โทรศัพท์!"
ตามเสียงร้องของเจ้าขาว ปาลวิ่งหยิบมือถือมนต์ตรีที่วางอยู่ในห้องอาหารออกมา
มนต์ตรีนับสาย "วัสดีครับ!"
"อะไรน่ะ? ได้ ผมจะรีบไป!"
มนต์ตรีวางสายอย่างรีบ "ขอโทษวี สุรีย์วัลย์เธอไม่เจอผม ไม่ยอมกินข้าว ตอนนี้เธอวิ่งขึ้นหลังคาบนชั้นดาดฟ้าโรงพยาบาล หากผมไม่ไปเธอก็จะกระโดด"
จารวีอื้งจนปิดปากไม่ได้ อีกแล้วมาอีกแล้ว เหมือนที่พ่อพูดไว้ไม่มีผิด
จารสีจะร้องไห้ เธออยากจะพูด พี่มนต์ หนูไม่อยากให้พี่ไป
แต่เธอก็พูดไม่ออกมา เธอรู้ว่าถ้าพี่มนต์แคร์ความรู้สึกเธอจริง เขาจะไม่ไป
สุดท้ายเธอทนเห็นมนต์ตรีเดินจากไปอย่างเร่งรีบ น้ำตาเธอไหลออกมาอีกครั้ง
ทันใดนั้นเธอได้กลิ่นเหม็นขึ้นมา
เหมือนมีกลิ่นที่เหม็นมากมาถิ้มจมูกเธอ เธอวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว พอถึงข้างนอก เธอนั่งยองๆอยู่หน้าต้นไม้ต้นเล็อกแล้วอาเจียน
อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้เสียใจเกินเหตุ ทำให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกาย
จารวีนั่งยองอยู่สักพัก ก็ไม่ได้อาเจียนอะไรออกมา เธอลุกขึ้นมา แล้วเช็ดปาก ได้มีเสียงรถเบรด์ขึ้นมา
เธอหันหลังมองไป รถเราะห์คันสีขาวจอดอยู่หน้าถนน เปิดประตูรถออกมา มีคนวิ่งมาหาเธอ
"จารวี นี้เธอจริงใช่ไหม!"
จารวีปวดหัวขึ้นทันที เพราะนั้นเป็นนิชาภา ผู้หญิงคนนี้ตามหลอกหลอนเธอไม่หยุดจริงๆ ถึงกับมาหาถึงที่นี่
ในช่วงกระพริบตา นิชาภาได้วิ่งมาหาเธอตรงหน้า เธอใส่ชุดสีขาวแดงพร้อมกับเสื้อกีฬา
"พี่ยศพลหนูอยากไปขี่ม้า ตอนนี้กำลังเตรียมตัวไป หนูมองดูไกลๆแค่แว๊ปเดียวก็รู้ว่าเป็นเธอ คิดไม่ถึงใช่ไหมหล่ะว่าเราสายตาดีแค่ไหน นี่เป็นวิลล่าของเธอหรือ? ฉันเข้าไปดูหน่อย......"
นิชาภาเข้าไปโดยไม่ได้คำเชิญ จารวีไม่ทันได้ตกลงเธอ เธอก็เดินเข้าไปแล้ว
"ว้าว ตกแต่งสวยจัง เหมือนบ้านใหม่เลย!" นิชาภาพูดอย่างอื้ง
มีพนักงานตกแต่งคนหนึ่งหัวเราะในที่เกิดเหตุ " คุณค่าสายตาขอองคุณแย่จริงๆ นี่มันเป็นห้องงานแตต่างหากล่ะ!"
นิชาภาเพิ่งรู้สึกตัว จับมือจารวีไว้ ยิ้มอย่างสดใส "จริงหรอ?วี เธอจะแต่งงานแล้วจริงหรอ? ว้าว ฉันจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวน่ะ เธอจะทิ้งฉันไว้ไม่ได้"
นิชาภาพูดอย่างได้ใจ แต่กับไม่สนใจสีหน้าจารวีที่ใกล้ตาย
ต่อมา มีเงาสีดำเดินเข้ามา ความรู้สึกกดดันแบบนั้นทำให้จารวีไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เธอไม่กล้ามองเขา ไม่รู้ทำไม ทุกครั้งที่เรามองตากัน เหมือนรู้สึกมีโดนไฟเผา
สายตานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่พูดออกมาไม่ได้
"พี่ยศพล วีกำลังจะแต่งงานแล้วน่ะ พี่ดีใจไหม? หนูจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวๆ ได้ยินมาว่าถ้าใครแย้งดอกไม้ในมือเจ้าสาวได้ คนนั้นก็จะเป็นเจ้าสาวคนโชคดีต่อไป ฉะนั้น หนูจะแย้งให้ได้....."
"พอที!"
ยศพลพูดแทรกขึ้นมา เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธที่ถูกระงับ
ห้องแต่งงานที่เต็มไปด้วยสีสันสีแดง เหมือนกับไฟที่กำลังเผาอยู่ในดวงตาเธอ
ให้ตายเถอะ ผู้หญิงคนนี้จะแต่งงานกับไอ่ต๊ะบ้านั้นจริงๆ
เขายศพลไม่ดีเท่าไอ่คนออ่นแอนั้นตรงไหน
แต่ว่า ตอนนี้เขาจะโมโหไม่ได้ เขาจะเปิดเผยความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ไม่งั้น จะตกอยู่ในภาวะที่ทำตัวไม่ถูกอีก
นิชาภามองมองยศพลด้วยสายตาที่ถูกทำร้าย "พี่ยศพล หากพี่ไม่ชอบ หนูก็จะไม่ร่วม "ยศพลทำปากจู๋ เสียงพูดออ่นลงเยอะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย