ตอนที่126 เด็กที่ติดตัว
การเอ่ยวิงวอนขอร้องของจารวี ทำให้ยศพลทำได้เพียงตอบรับ
แต่ทว่า พอเขาพาเด็กน้อยขึ้นไปบนรถ ยศพลก็รู้สึกผิดหวัง
“ว้าย”
ในขณะที่จารวีกำลังเล่นเกมกับเด็กน้อยอยู่ที่เบาะด้านหลังนั้น เธอก็รู้สึกถึงความชื้นแฉะอุ่นร้อน ก็เลยร้องเสียงเล็กแหลมออกมา
ยศพลเหยียบเบรคหยุดรถ เขาหันไปมองเธอพลางเอ่ยถาม “เป็นอะไรไป”
“เอ่อ..เหมือนว่าเขาฉี่ใส่รถคุณน่ะ”
ยศพลโมโหขึ้นมาอย่างฉับพลันบ้าจริงไม่คิดว่าจะมีคนกล้าฉี่ใส่รถของเขา Ferrari คันนี้เค้าเพิ่งซื้อมาได้เพียงไม่นาน
“ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าเด็กคนนี้ไอคิวมีปัญหา”
“ ฉันว่าคงเป็นเพราะเขาทานไอศครีมมากไปนะบวกกับความตื่นตระหนกด้วย พวกเรารีบกลับบ้านกันเถอะ”
ตัวรถทะยานไปข้างหน้า พร้อมกลับถึงบ้านอย่างรวดเร็ว
จารวีจูงเด็กน้อยเข้าไปในบ้าน ทำให้คนทั้งคฤหาสน์ตื่นตระหนก พลางวิ่งออกมามุงดู
หลังจากจารวีเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย ก็รีบร้อนให้นิรันพาตนเองไปยังร้านขายเสื้อผ้าเด็กที่ใกล้ที่สุด เพื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้กับเด็กน้อย
ยศลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พอเข้ามาในบ้านเขาก็ทิ้งจารวีไว้ข้างหลัง พลางพรวดพราดเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง
น้าอามจ้องมองไปยังเด็กน้อยอย่างพินิจพิเคราะห์ เนิ่นนานเธอจึงเอ่ยถามออกมา “นี่คือลูกของใครคะ”
ครั้งแรกที่เธอเห็น เธอคิดว่าคือลูกที่เกิดจากคุณชายสาม ในตอนที่เขาไปไข่ทิ้งไว้ที่ด้านนอกเสียอีก
จารวีปิดปากอมยิ้ม “เก็บได้น่ะค่ะ”
“เก็บได้หรอคะ ยุคสมัยนี้แล้วก็ยังเก็บเด็กได้แบบนี้อยู่หรอคะ ช่างน่าแปลกจริงๆ” เวลานี้ถิระพลก็กลับมาจากด้านนอกพอดี ทั้งตัวของเขามีแต่กินเหล้า เขาเดินเข้ามาใกล้เด็กน้อย มองซ้ายมองขวาพลางพยักหน้า “ไม่เหมือนกับไอ้น้องชายหนิ เด็กคนนี้คือลูกของเธอหรอ”
“นี่พี่คะ ถ้าฉันคลอดเด็กตัวโตขนาดนี้ออกมาได้สิถึงจะแปลก”
“ถ้างั้นก็ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ ที่ไอ้น้องชายมันยอมให้เธอพาเด็กกลับมาบ้าน”
ถิรพลไหวไหล่ ในความทรงจำของเขา น้องชายไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นัก เขาไม่มีทางพาเด็กกลับบ้านมาอย่างนี้แน่
“ฮ่าๆ ฉันเก็บเด็กได้น่ะค่ะ ยศพลไม่ได้ให้ฉันพากลับมาหรอก แต่ฉันยืนยันว่าจะพาเขากลับมาด้วย แต่ว่าพวกคุณวางใจได้นะคะ ไม่นานแม่ของเขาก็คงกลับมารับกลับไป”
จารวีเอ่ยพูดกับน้าอาม “น้าอามคะเด็กคนนี้พูดไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เรียกได้แค่คุณพ่อคุณแม่”
“งั้นหรอคะ”
พอน้าอามเห็นเด็กน้อยคนนี้ก็รู้สึกรักใคร่ เธอยื่นมือออกไปรูปหัวของเด็กน้อย
เด็กน้อยไม่ร้องไห้แล้ว ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองไปรอบๆ หลังจากนั้นจึงร้องเรียกน้าอาม “คุณยาย”
สิ่งนี้ทำให้นะอามรู้สึกเป็นสุข “คุณเห็นไหมคะ เด็กคนนี้น่ารักน่าชัง เขาแยกแยะคนได้... เด็กน้อย หนูชื่ออะไรจ๊ะ บ้านหนูอยู่ที่ไหน”
เด็กน้อยทำได้เพียงกระพริบตาปริบปริบ ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี เนิ่นนาน เด็กน้อยจึงเอ่ยออกมา “จูโน่”
“หนูชื่อจูโน่เหรอจ๊ะ” เด็กน้อยพยักหน้ารับ
“อ๋อเป็นชื่อเล่นของหนูใช่ไหมจ๊ะ จูโน่ไม่ต้องกลัวนะ วันนี้อยู่กับคุณน้าก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ของหนูก็มารับแล้ว”
ในท้องของจารวีก็มีเด็กอีกคนอยู่ ดังนั้นเธอก็เลยมีความรู้สึกที่ดีกับเด็กคนนี้เป็นพิเศษ ราวกับว่าเขาเป็นลูกของตนเอง
“คุณจารวีคะ ให้ฉันดูแลเด็กคนนี้แทนคุณเถอะค่ะ ฉันมีประสบการณ์” น้าอามออกตัว
แต่ดูเหมือนว่าจูโน่ชอบจารวีมากกว่า เขาหลบอยู่ในอ้อมกอดของจารวีไม่ไปไหน
น้าอามจนปัญญา “ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะมีพรมลิขิตต่อคุณจารวีนะคะ” น้าอาร์มพูดจบ พลันดวงตาก็ลุกวาว เธอเอ่ยออกมาอย่างลึกลับ “คุณจารวีคะ บ้านของพวกเรา มีประเพณีที่เก่าแก่อยู่ประเพณีหนึ่ง มันเหมือนกับการ แต่งงานของคู่สามีภรรยาใหม่ นั่นก็คือถ้าหากว่าเอาเด็กจากบ้านอื่นมานอนบนที่นอนของตัวเองจะทำให้ลูกของตัวเองนั้นร่างกายแข็งแรง”
“จริงหรอคะนะ”
น้าอามพยักหน้ารับเป็นพัลวัน เธอยิ้มพลางเอ่ย
“แต่ว่าคุณชายสามต้องไม่ชอบแน่ๆค่ะ เขาเกลียดเด็ก”
“ทำไมเขาถึงเกลียดเด็กขนาดนี้ล่ะคะ”
“เรื่องนี้ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันค่ะ คุณรู้จักคุณทัศนีย์เลขาของคุณชายใช่ไหมคะ? เมื่อก่อนเธอเคยพาลูกของเธอไปที่บริษัท ผลลัพธ์ก็คือเธอถูกคุณชายตะโกนไล่ หลังจากนั้นเขาก็เลยกำชับอย่างแน่นหนาว่าไม่อนุญาตให้พนักงานทุกคนพาเด็กเข้ามาในบริษัท แม้กระทั่งคฤหาสน์หลังนี้ก็เช่นกันค่ะ”
จารวีตกอยู่ในภวังค์ความคิด ยศพลเขาเกลียดเด็กขนาดนั้นเลยหรือ?
งั้นถ้าหากเค้ารู้ว่าเธอท้องล่ะ เค้าจะสอนเธอจนแท้งลูกเลยหรือเปล่า พลันในใจของจารวีก็รู้สึกกังวล
น้าอามมองเห็นท่าทีที่เป็นกังวลของจารวี เธอก็รู้ในทันทีว่าจารวีกำลังคิดมากอยู่
เธอยิ้ม พร้อมเอ่ยปลอบใจ “คุณจารวีไม่ต้องคิดมากนะคะ ผู้ชายตอนเป็นวัยรุ่นก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะเพราะว่าตัวเองยังไม่โตพอ ก็เลยคิดว่าจะดูแลเด็กน้อยได้อย่างไร คนรักของฉันเมื่อตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น ก็ไม่ชอบเด็กเหมือนกันค่ะ ตอนนั้นลูกชายของฉันร้องไห้ เขาก็เอาแต่พูดว่า จะเอาลูกชายไปทิ้ง
จารวีอ้าปากค้างอย่างตะลึงงัน “ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ลูกชายของน้าอามกับพ่อของเขา มีความสัมพันธ์ที่ดีไหมคะ?”
น้าอาร์มยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ตอนนี้ดีแล้วค่ะ มีใครบ้างจะไม่รักเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองล่ะคะ เวลาโกรธก็ชอบพูดถ้อยคำที่ไม่ดีออกมา แต่พอหลังจากจบเรื่องก็รู้สึกเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว”
จารวีผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ
ในเวลาอาหารค่ำ จูโน่พันผ้ากันเปื้อนและนั่งลงทานข้าวที่โต๊ะเดียวกันกับจารวี
จูโน่ค่อยๆทำความรู้จักกับคนในบ้านหลังนี้ เขาไม่งอแงแล้ว เพราะน้าอามมักจะหาของกินมาหลอกล่อ ทำให้เด็กน้อยไม่มีโอกาสร้องไห้
ถิรพลชูแก้วเหล้าขึ้นมา พลางยื่นมันไปตรงริมฝีปากของจูโน่ “ลองดื่มซักคำสิ อร่อยมากเลยนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย