ตอนที่ 134 ความสำนึกผิดของเขา
ในใจของชยรพมีความรู้สึกที่ละอายใจ ในตอนนั้น เขาเข้าใจมาตลอดว่าจารวีคือลูกสาวของยงยศ
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาจากมา ไอ้คนเลวคนนั้นมันทำให้ครอบครัวของเขาแตกแยก ชยรพไม่อยากเลี้ยงดูลูกของไอ้เลวยงยศ
ทั้งหมดนี้ เขาไม่มีหนทางจะพูดให้จารวีเข้าใจได้
แต่ว่า ผ่านมาเนิ่นนานหลายปี เขาจึงค่อยๆค้นพบว่าตนเองเห็นแก่ตัว
วีไม่มีความสุข ไม่ว่าเธอจะเป็นลูกของใคร เธอก็นามสกุลพูลสวัสดิ์ และเรียกเขาว่าพ่อมาโดยตลอด
แต่ตอนที่เขารู้เรื่องว่าจารวีคบหากับมนต์ตรี เขาก็ตกใจไปชั่วขณะ ในตอนนั้นก็รู้ว่าในที่สุด กรรมที่เขาแก้แค้นยงยศได้ย้อนสู่ตัวเขาแล้ว
แต่ที่เขาทำไปทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้เขามีความสุข
"วี ตอนนั้นพ่อขอโทษนะวี ไม่ว่าวีจะเป็นลูกสาวแท้ๆของพ่อหรือไม่ใช่ พ่อก็ยังรักวี ตั้งแต่ตอนที่วีเกิด ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว….” มีน้ำตาที่ถูกแสงสะท้อนจนเป็นประกายอยู่ในดวงตาของชยรพ
จารวียังคงเงียบเหมือนเดิม เธอไม่สามารถให้อภัยเขาได้ เธอให้อภัยผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนนี้ไม่ได้
"วี เรื่องแม่ของวีในตอนนั้น พ่อหนีความรับผิดชอบของตัวเองไม่ได้จริงๆ อาจพูดได้ว่าเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเองที่เป็นเหตุจูงใจให้หล่อนฆ่าตัวตาย พ่อรู้สึกได้ว่าดาอยู่กับพ่อตลอด ไม่ว่าพ่อหนีไปที่ไหน หล่อนก็จะติดตามพ่อตลอดไป และมองพ่อด้วยสายตาที่เศร้าโศก...”
"วี พ่อขอโทษ ตอนนั้น...พ่อไม่ควรทิ้งวีไปเลย” ชยรพมีน้ำตาคลอ
"ที่คุณพูดมามันมีประโยชน์อะไร เรื่องบางเรื่องไม่ใช่แค่ขอโทษก็หายกันนะ ถ้าคำขอโทษของคุณทำให้แม่กลับมามีชีวิตอีกครั้งได้ ฉันก็จะให้อภัยคุณ…" จารวีพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา วิธีการที่จะเจราจากับเธอน้อยมากจนแทบไม่มีวิธีใดๆ เลย
ชยรพรู้ รู้ว่าจารวีอาจจะไม่ให้อภัยเขาแล้ว
เขาลุกขึ้นยืน "วี พ่อรู้ว่าวีให้อภัยพ่อ นี่คงเป็นความหวังที่มากเกินไป แต่ว่า พ่อหวังแค่ว่า...วีจะอยู่อย่างมีความสุข”
ตอนที่ชยรพเดินจากไปแล้ว น้าอามก็ยืนอยู่หน้าประตู มองดูชยรพที่ขวัญหาย น้าอามเข้าใจความรู้สึกของเขา เธอรอให้ชยรพเดินลับตาไปก่อน จึงรีบวิ่งเข้ามาในห้องผู้ป่วย
“คุณจารวี ดูเหมือนว่าสภาพจิตใจของพ่อคุณจะแย่มากๆ”
จารวีค่อยๆหลับตาลง “น้าอามคะ จากนี้ไปถ้าเจอเขาอีก ก็อย่าให้เขาเข้ามานะคะ"
"โหย คุณจารวีคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกละคะเนี่ย ยังไงเขาก็เป็นพ่อของคุณนะคะ”
น้าอามส่ายหัวอย่างถอดถอนใจ เด็กคนนี้ดื้อจริงๆ
แต่ชยรพก็ทำเกินไปเหมือนกัน เห็นชัดอยู่ว่าลูกสาวของตัวเองสนิทกับลูกชายตระกูลนั้นเหมือนพี่น้องแท้ๆ ก็ไม่รีบบอกให้เร็วกว่านี้ คิดแต่จะป่าวประกาศเรื่องการแต่งงานให้คนอื่นรู้ แบบนี้จะให้ลูกเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ในช่วงสองสามวันนี้ ชยรพแวะมาเยี่ยมจารวีทุกวัน แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดกักตัวไว้ด้านนอก
ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชนระดับสูง ยศพลก็ยังส่งบอดี้การ์ดมาเฝ้าหน้าห้องของจารวี ชยรพอยากจะพบจารวีเป็นการส่วนตัว ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้
วันที่ออกจารโรงพยาบาล ยศพลมีธุระจึงไม่ได้มาที่โรงพยาบาล มีแค่น้าอามกับบอดีการ์ดสองสามคนที่มารับจารวี
หน้าประตูของโรงพยาบาล จารวีก็เจอกับมนต์ตรี
ที่แท้โลกนี้ก็แคบมาก ไม่ว่าหันไปทางไหนก็ได้พบได้เจอกัน
มนต์ตรีออกมาจากในรถ เขาเห็นจารวีเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็นิ่งงงไม่ไหว ก้าวเท้ายาวๆวิ่งไปหาเธอ ในตอนที่เขายังไม่ทันถึงตัวจารวี ก็ถูกบอดี้การ์ดร่างสูงหุ่นหมียื่นมือมาขวางไว้
“วี วีมีเรื่องอะไรรึเปล่า”
ในครั้งนั้นที่ถูกไล่ฆ่า มนต์ตรีพยายามสุดชีวิตเพื่อที่จะปกป้องจารวี ถึงได้ทำให้จารวีไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
ในใจของจารวีทุกข์ทรมานจากความละอายใจเป็นอย่างมาก เธอหันไปโบกมือให้กับบอดี้การ์ดทั้งสอง “พวกคุณเอามือลงก่อนเถอะค่ะ”
บอดี้การ์ดทั้งสองเอามือลง มนต์ตรีรีบวิ่งไปอยู่ตรงหน้าของจารวี ใบหน้าของเขาดูวิตกกังวลมาก
“วี ไม่กี่วันมานี้พี่เป็นห่วงวีมาโดยตลอดเลย…”
มุมปากเล็กๆของจารวียกขึ้น รอยยิ้มอันแสนหวานและบริสุทธิ์สะท้อนอยู่ในใจของมนต์ตรี
สิ่งนี้ค่อยๆปลุกความรักอันลึกซึ้งที่เขามีต่อจารวี
“พี่มนต์ วีไม่เป็นไร วีรู้สึกดีมาก แผลที่ถูกยิงเป็นไงบ้างแล้วคะ ทางสถานีตำรวจมีเบาะแสข่าวคราวอะไรบ้างมั้ยคะ”
มนต์ตรีมองเห็นน้าอามที่อยู่เคียงข้างจารวี ก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงพูดออกมาเบาๆว่า “วี วีว่างเข้าไลน์รึเปล่า”
จารวีนิ่งตะลึงงันเล็กน้อย แล้วรีบพยักหน้าทันที “อ้อ ค่ะ พี่มนต์ พี่มาที่โรงพยาบาลนี้ได้ยังไงคะ”
“ไม่เป็นไร พี่มีเพื่อนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแห่งนี้ พี่แวะมาเยี่ยมเขา ไม่นึกว่าจะได้เจอวีที่นี่ ถ้ารู้เร็วกว่านี้พี่ก็คงมาหาวีแล้วล่ะ”
ใบหน้าของมนต์ตรีเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน การแสดงออกอย่างอ่อนโยนทำให้จารวีตะลึงทันที
“คุณจารวี พวกเราต้องไปแล้วค่ะ
น้าอามพูดเตือน เห็นได้ชัดว่าคุณชายยศพลเกลียดคุณชายมนต์ตรีมาก ถ้าเกิดอยู่นานเกินไปแล้วถูกคุณยศพลเห็นเข้า คงจะอารมณ์เสียและทะเลาะกันแน่
จารวีพยักหน้า “พี่มนต์ วีต้องไปแล้วค่ะ ลาก่อน”
สายตามนต์ตรีมีความอาลัยอาวรณ์ “วี ดูแลตัวเองดีๆนะ มีเรื่องอะไรให้มาหาพี่นะ”
“อื้อ ลาก่อนค่ะ”
ในตอนที่จารวีหันกลับไปแล้ว มนต์ตรีคิดจะยื่นมือออกไปเพื่อรั้งเธอไว้ แต่น่าเสียดาย เขาหยุดชะงักกลางคัน และไม่ได้ยื่นมือออกไป
ในแววตาที่หล่อเหลามีความสิ้นหวังอยู่ เขามีเหตุผลอะไรที่จะรั้งเธอไว้ได้ล่ะ
เขามองไปที่ร่างเล็ก ๆ ของเธอ เมื่อเข้ามาในรถแล้ว เขาก็โบกมือ แต่มีกระจกหน้าต่างรถกั้นอยู่ เธอก็โบกมือให้เขาเช่นกัน
กลับมาถึงบ้าน รถจอดที่โรงรถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย