สรุปเนื้อหา ตอนที่ 135 เวลาที่แสนสั้น – เล่ห์รักเมียตัวน้อย โดย BUNNY
บท ตอนที่ 135 เวลาที่แสนสั้น ของ เล่ห์รักเมียตัวน้อย ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย BUNNY อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 135 เวลาที่แสนสั้น
จารวีถูกยศพลอุ้มขึ้นมา เธอตกใจจนกางแขนทั้งสองออก แล้วล็อคคอของเขาไว้
ยศพลก้าวเท้าวิ่งไปมา แม้ว่าจะอยู่ในห้อง แต่จารวีก็รู้สึกได้ว่าเขาดูตื่นเต้นจนเหมือนเป็นบ้า
“อ๊า ปล่อยฉัน ปล่อยฉันลงได้แล้ว…” จารวีดิ้นไปมา
เหล่าสาวใช้ทำความสะอาดเดินผ่านมาเห็น ก็พากันอมยิ้มหัวเราะเบาๆ แล้วจากไปอย่างรวดเร็ว
ยศพลพาวิ่งไปจนสุดทางระเบียง จากนั้นจึงจะปล่อยจารวีออกจากอ้อมกอด
เบื้องหน้าของจารวี คือประตูห้องสีเขียวอ่อนที่มีภาพของต้นแอปเปิลเล็กๆ
ประตูห้องมีสไตล์ที่เหมือนกับประตูของปราสาทในเทพนิยาย ที่จับประตูถูกออกแบบมาให้เหมือนกับกระรอกขนาดเล็ก ราวกับ ว่ามันออกมาจากต้นแอปเปิล มันเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมราวกับว่ามันเป็นประตูสู่โลกแห่งเทพนิยาย เพียงแค่เปิดประตูออกไปเบาๆ ก็จะเห็นโลกแห่งเทพนิยายที่อยู่ตรงหน้า
“ที่นี่คือ...”
จารวีจำได้ว่าเมื่อก่อนห้องนี้เคยเป็นห้องรับแขก เป็นห้องที่อยู่ข้างๆกับห้องนอนใหญ่ แต่ในตอนนี้อยู่ดีๆประตูก็ถูกดัดแปลงเปลี่ยนเป็นแบบนี้ซะแล้ว เธอก็เลยรู้สึกแปลกตา
ใบหน้าของยศพลเต็มไปด้วยความพึงพอใจ “เฮ้ เธอไม่มีสมองเลยสักนิดเหรอ ลองใช้สมองคิดๆดูสิ”
จารวีเบิกตากว้าง “นี่คงไม่ใช่ห้องของลูกใช่มั้ย”
ยศพลเชิดคางขึ้น แล้วยื่นมือไปแตะหน้าผากเล็กๆของจารวี “เธอก็ดูเองซะสิ…”
จารวีค่อยๆยื่นมือออกไปแตะลูกบิดประตู แล้วผลักเข้าไปให้ประตูเปิดอย่างเบามือ
ทันใดนั้น จารวีก็ตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จนปากเล็กๆของเธออ้าค้างไว้
“ยศพล...นี่มัน...”
“หึๆ” ยศพลมองจารวีที่ตกตะลึงอย่างเพลินตา น่ารักเกินไปแล้ว
ห้องถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือห้องนอน พื้นถูกปกคลุมด้วยพรมสีเหลือง ผนังเป็นรูปแบบการ์ตูนมือวาดที่สวยงามมากมีสีสันลวดลาย เพดานมีดอกไม้ ท้องฟ้าสีฟ้า พร้อมเมฆสีขาว อีกส่วนหนึ่งของห้องเป็นสนามเด็กเล่นขนาดเล็ก มีของเล่นน่ารัก ขนาดเล็ก ๆ มากมายหลากหลายชนิดและยังมีสไลเดอร์ขนาดเล็กอีกด้วย
ที่แท้ที่นี่ก็เหมือนกับสวนสนุกสำหรับเด็กเล็ก
ทันใดนั้นจารวีก็หมุนตัว แล้วกอดยศพลไว้แน่น
ใจของเธอถูกโอบล้อมไว้ด้วยความสุข ที่แท้แล้วยศพลแคร์ลูกของเธอมาก
“ยศพล นายก็รักลูกนี่ ใช่ป่าว”
ยศพลหัวเราะหึๆสองที แล้วลูบคาง “ก็แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าเขาจะแย่งเมียฉันไป ฉันก็จะตี”
“นาย…”จารวีรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่มีความเป็นพ่อเลยสักนิด
“บอกไว้เลยนะ ถึงเธอมีลูกแล้ว ไม่อนุญาตให้เย็นชาเมินเฉยใส่ฉัน…”
ถึงจะเป็นลูกชายสุดที่รักของตัวเอง เขาก็ไม่ยอมให้ลูกแย่งความรักไป
“อืมๆ ไม่เมินนายแล้ว...”จารวีใจสั่นเล็กน้อยที่อยู่ดีๆก็มีภาพภาพหนึ่งผุดขึ้นมาตรงหน้าของเธอ
จารวียืนอยู่ตรงกลาง ลูกยืนอยู่ข้างซ้าย ยศพลยืนอยู่ด้านขวา
ลูกชายจับมือข้างซ้ายของจารวี ยศพลจับมือข้างขวาของจารวี แล้วทั้งสองต่างก็ดึงรั้งเธอ
ลูกพูดว่า “แม่เป็นของผม พ่อชั่ว ผมไม่ให้แย่งแม่ไปหรอก”
ยศพลคุยโวโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย “ไอ้เด็กนี่ แม่แกเป็นของฉันเว้ย ถ้าแกอยากจะแย่งเมียฉัน ฉันจะทับให้แบนเลย…”
ดังนั้น ทั้งสองจึงไม่ยอมปล่อยมือ ต่างฝ่ายต่างออกแรงดึงแขนทั้งสองของจารวีจนสุดท้ายร่างของเธอฉีกออกเป็นสองส่วน
พอคิดได้ถึงตรงนี้ วิญญาณของจารวีก็หลุดลอยไปแล้ว ช่างน่ากลัวเสียจริง
“ไอ้สมองที่เล็กเท่าเม็ดแตงโมของเธอคิดไรอยู่ห้ะ”
ยศพลมองใบหน้าของจารอย่างงุนงง แล้วยื่นมือไปดีดหัวของเธอทีหนึ่ง
จารวีส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “เปล่า ไม่มีอะไร ก็แค่คิดน่ะ ว่าลูกโตมาแล้วจะเหมือนใคร…”
ยศพลยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ แล้วหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ก็ต้องเหมือนพ่อของมันสิ”
“ชิ ยังจะมั่นใจขนาดนี้อีก มั่นหน้าจริงๆ...ไม่แน่ว่าลูกอาจจะเหมือนฉันก็ได้ป่ะ”
แน่นอนว่ายศพลที่มีหน้าตาหล่อเหลาหุ่นดี ย่อมไม่มีอะไรจะพูด ถ้าลูกที่เกิดออกมาไม่ได้ความหล่อของเขาไปล่ะก็..คงจะหน้าตาแย่น่าดู
“เหมือนเธอเหรอ...แบบนั้นโตไปก็เป็นสาวดุ้นละสิ ไม่ได้ ไม่ได้ เธอโง่ซื่อบื้อแบบนั้น เกิดมาเหมือนเธอก็ซวยสิ ลูกของเราจะต้องฉลาดและองอาจห้าวหาญ” ยศพลมองไปที่จารวีด้วยสายตาดูถูก และพูดจายกยอเข้าข้างตัวเองต่อไป
“คุณชายครับ โทรศัพท์ครับ…”
นิรันที่ยืนอยู่หน้าบันไดอย่างสำรวม ทำให้บทสนทนาของทั้งสองถูกขัดจังหวะ
ยศพลหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดรับสาย “มีเรื่องอะไร”
“ได้ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ…”
พอยศพลวางสาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นดำมืดขึ้นมาทันที
เขาก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากของจารวี “ที่รัก ฉันต้องไปก่อน เธอหาไรกินเองก่อนเลย มื้อเย็นก็รอฉันก่อน…”
“อื้ม นายไปทำธุระเถอะ”
“อื้ม อาจจะนะ ทุกคนก็มีความลับของตัวเอง และฉันเชื่อว่าเขาก็อยากจะรักษาภาพพจน์ของตัวเองด้วยแหละค่ะ” จารวีพูดอย่างจริงจัง “ในเมื่อเขาไม่พูด ฉันก็จะไม่ซักไซ้ไล่เลียงเขาหรอกค่ะ”
ถิรพลยกแก้วเหล้าในมือขึ้นมา แล้วเทเหล้าให้กับจารวี “มา ผมของแสดงความยินดีให้กับพวกเธอทั้งสองนะ”
จารวียิ้มอ่อนเป็นการตอบกลับเขา
หลังมื้อเที่ยง จารวีเดินไปเดินมาในสวนกุหลาบ
ท่ามกลางดอกไม้ที่สวยงาม จารวีรู้สึกได้ถึงความสะดวกสบายมากเป็นพิเศษ รูขุมขนทั้งร่างต่างสูดกลิ่นหอมของบรรยากาศไปเกือบหมด
หลับตาลง แล้วลืมความวุ่นวายทั้งหมดทั้งปวงไป
จารวีลืมสัญญาที่มีไว้กับมนต์ตรีไปแล้ว เธอเดินเข้าเข้าออกออกห้องเด็กอ่อน ตรวจสอบความปลอดภัยของของเล่นในห้อง และยังห่อผ้านุ่มๆไว้ตามมุมต่างๆทั่วห้อง เป็นแม่ก็ต้องละเอียดรอบคอบ เพื่อเลี่ยงไม่ให้ลูกในท้องได้รับบาดเจ็บ
ในตอนเย็น ถิรพลออกไปแล้ว แต่ยศพลก็ยังไม่กลับมา ระหว่างทางโทรมาหาเธอครั้งหนึ่ง จารวีต้องทานมื้อเย็นคนเดียว
กลับถึงห้องก็นึกถึงคำพูดของมนต์ตรี เธอเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วล็อกอินเข้าไลน์
ที่จริงตั้งแต่ที่เธอออกจากการเรียนแล้วก็ไม่ค่อยได้เข้าไลน์ หรือไม่ก็ตั้งแต่หลังจากที่พี่พินตาย เธอก็ไม่ค่อยได้สัมผัสกับโลกออนไลน์เลย
ในช่วงเวลานั้น เธอยังคงสับสนอยู่ จนกระทั่งเธอมีลูก เธอก็ตัดสินใจที่จะค่อยๆเดินไปในทางของตัวเอง
พอล็อกอินเข้าไลน์ได้ เสียงแจ้งเตือนในแอพก็ดังไม่หยุด รูปภาพในไทม์ไลน์จำนวนมากก็สั่นรัวๆ
พอจารวีเปิดเข้าแชท ส่วนหนึ่งจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่ทักมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ และยังมีเพื่อนร่วมชั้นบางส่วนที่ซุบซิบนินทา
“จารวี ได้ยินมาว่าเธอได้แต่งงานกับเงินก้อนใหญ่ จากนี้ในตอนที่หางานทำ เธอต้องเปิดประตูต้อนรับพวกเราด้วยนะ” ปัณฑาทิ้งข้อความเอาไว้
“จารวี เธอไร้ยางอายจริงๆ ที่จริงแล้วเธอคือผีเสื้อที่ถูกลมพัดแล้วบินไปทั่ว เธอคือความอัปยศ เป็นเสนียดของมหาวิทยาลัยเรา”
เป็นข้อความทางไลน์จากแอคเค้าน์แปลกหน้า จารวีกดบล็อกเลยทันที
ที่เหลือ ก็ล้วนแต่เป็นข้อความที่ทักจารวีมาเพื่อถามไถ่ชีวิตความเป็นอยู่ ความรู้สึกของเธอ
จารวียังนึกไม่ถึงเลยว่าจะกลายเป็นคนดังในเมืองเอส ที่แท้แล้วมีคนจำนวนมากสนใจในชีวิตของเธอ ช่างเป็นเรื่องที่น่าขำขันซะจริง
เธอลบพวกข้อความที่น่าเบื่อออกไปจนเกลี้ยง
จนสุดท้ายเหลืออยู่แต่เพียงข้อความทางไลน์จากมนต์ตรี เขาตั้งสถานะในไลน์ไว้ว่า “การเปลี่ยนทะเลให้เป็นน้ำเป็นเรื่องยาก นอกจากเมฆหมอกของดอยอินทนนท์ เมฆหมอกที่อื่นก็ล้วนแต่มืดมนหมองหม่นไร้ความงาม”
รูปโปรไฟล์ของเขาเป็นสีเทา น่าจะเป็นเพราะไม่ได้ออนไลน์ จารวีลังเลไปสักพัก จากนั้นก็เลื่อนเมาส์ไป แล้วคลิกเปิดไปที่เฟสบุ้คของเขา
ผ่านมาสองสามเดือนแล้ว แต่ก็โพสไว้แค่อย่างเดียวบนหน้าวอล
“วันเวลาที่สวยงามย่อมผ่านไปเร็วเสมอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย