ตอนที่ 176 ชีวิตที่เหลือน้อย
จารวีรับเงินเสร็จแล้ว นั่งลงกับเก็าอี้ ใบหน้าเรียวเล็กของเธอกลับมาเป็นปกติ ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่มีสีหน้าตื่นเต้นและสับสนอีกต่อไป เมื่อตัดสินใจแล้ว เธอก็จะทำให้ดีที่สุด
“นี่ยาอะไรคะ?”
น้าอามยกนมมาหนึ่งแก้ว ยังมีน้ำอุ่น และมีบางส่วนที่เป็นบรรจุภัณฑ์ขวดและกระป๋อง
“นี่คือ……ยาที่คุณหมอวิซ์เตอร์จ่ายให้ค่ะ บอกว่าเป็นวิตามิน และยังมีกรดอะมิโนบางตัวด้วยค่ะ เหอะเหอะ น้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ จำได้ไม่หมดค่ะ ใช่ นี่คือยานอนหลับค่ะ คุณหมอบอกว่าถ้าคุณผู้หญิงนอนไม่หลับ สามารถรับประทานได้สองเม็ดนะคะ….”
“ค่ะ วางไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันค่อยกิน……”
น้าอามนำยาวางไว้บนหัวเตียง ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
“คุณจารวี รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคะ?น้าพาคุณจารวีไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้ไหมคะ?”น้าอามลองถามดู
จารวีหยิบแก้วนมขึ้นมาดื่มสองสามคำ แล้วพยักหน้าเบาๆ
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “น้าอามค่ะ หนูไม่ดีเอง เมื่อตะกี้ไม่ควรอารมณ์เสียใส่น้าอาม ตัวหนูเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อยู่ๆอารมณ์มันก็เดือดขึ้นมา จนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้……”
น้าอามตบไหล่จารวีเบาๆ “เหมือนกันเลยค่ะ สมัยก่อนน้าตั้งครรภ์ลูกชาย อารมณ์ก็แปรปรวนเหมือนกัน ทะเลาะกับสามีบ่อยมาก บ่อยครั้งน้าก็ไล่สามีไปนอนที่โซฟา”
จารวียิ้มเบาๆ อยู่พักใหญ่ ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นมา “หนูจำได้ว่าไม่ได้ทำขนมเค้กนานแล้ว ยังไงตอนนี้ก็ว่างอยู่ น้าอาม น้าช่วยเข้าครัวไปดูว่ามีแป้งสาลีกับเบกกิ้งโซดาไหม”
ในที่สุดน้าอามก็เห็นจารวีมีความสดใสร่าเริงมากขึ้น เธอจึงพยักหน้าด้วยความวางใจ
“ค่ะ น้าจะไปช่วยคุณผู้หญิงหาดู งั้นคุณผู้หญิงอย่าลืมทานยานะคะ”
“ค่ะ ไม่ลืมค่ะ”
น้าอามลุกขึ้นแล้วเดินออกไป จารวีเดินไปปิดประตูห้องเบาๆ จากนั้นเทยานอนหลับออกมาสองสามเม็ด หยิบใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ จากนั้นเดินลงมาอย่างเงียบๆ
ในห้องครัว น้าอามร้องเรียกด้วยความดีใจว่า “คุณผู้หญิงค่ะ วัตถุดิบที่คุณผู้หญิงต้องการมีทั้งหมดค่ะ มีพร้อมทุกอย่างเลยค่ะ”
จารวีก็มลงมองดู พลิกดูส่วนผสม
“ว้า ไม่มีบลูเบอร์รี่ น้าช่วยไปซื้อให้หนูหน่อยนะคะ หนูนึกอยากกินขนมปังบลูเบอร์รี่ขึ้นมา……”
“ได้ ได้ค่ะ เดี๋ยวน้าจะให้บอดี้การ์ดออกไปซื้อให้นะคะ”
“น้าอามคะ น้าไปด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ ผู้ชายทำงานหยาบกระด้าง เลือกวัตถุดิบมาหนูไม่ชอบ นอกจากนี้ น้าช่วยเลือกทุเรียนสองสามพูกลับมาด้วยนะคะ นึกอยากกินทุเรียนขึ้นมาด้วย……”
จารวีพูดไปด้วย หาลูกส้มและมะละกอไปด้วย แล้วเริ่มการปั่นน้ำผลไม้
น้าอามลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่เธอก็ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว เห็นความกระตือรือร้นของจารวีแล้ว เธอก็ไม่อยากจะไปทำลายอารมณ์ที่ดีของเธอในขณะนี้
น้าอามออกไปพร้อมกับคนขับรถ จารวีค่อยๆเดินตามหลังออกมา
หน้าประตูบ้านมีบอดี้การ์ดสองคนยืนเฝ้าอยู่ทั้งสองฝั่งประตู มองไปไกลๆ หน้าประตูรั้วยังมีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่อีกสองคน……
ที่จริงแล้วน่าจะมีบอดี้การ์ดสี่คน แต่จะผลัดเวรกันทุกๆ 2 ชม คนอีกพวกไปนอนกันแล้ว
มุมปากจารวีอมยิ้มเล็กน้อย ในหัวใจของเธอกำลังเต้นอย่างตื่นเต้น
ขณะที่ปั่นน้ำผลไม้ไปด้วย อีกมือหนึ่งก็นำยานอนหลับที่บดแล้วผสมลงไปในน้ำผลไม้ปั่น มองดูพวกมันค่อยๆละลาดผสมเข้าไปด้วยกัน จากนั้นถือแก้วน้ำผลไม้ปั่นแล้วเดินออกไป
น้ำผลไม้สีส้ม ด้านบนปกคลุมไปด้วยไอศกรีมชั้นบางๆ เห็นแล้วดึงดูดผู้คนมาก อากาศอบอ้าวในฤดูร้อยอย่างนี้ จึงเป็นเครื่องดื่มอย่างหนึ่งที่เย็นชื่นใจ
“มา พี่ทั้งสองทำงานเหนื่อยๆ ดื่มน้ำผลไม้เย็นๆเพื่อคลายร้อนกันก่อนค่ะ”
จารวีทักทายบอดี้การ์ดทั้งสองอย่างอบอุ่น เห็นเจ้านายยกน้ำผลไม้ให้พวกเขาด้วยตัวเอง
บอดี้การ์ดพวกนี้ยังเป็นเด็กหนุ่ม ยังค่อนข้างเขินอาย ภายใต้การเร่งรัดของจารวี พวกเขาจึงหยิบแก้วน้ำผลไม้ขึ้นมา ดื่มจนหมดแก้ว
จารวีพึงพอใจที่ดูพวกเขาดื่มมันเข้าไป จากนั้นทำเช่นเดียวกัน นำน้ำผลไม้ที่เหลืออีกสองแก้วยกไปยังหน้ารั้วประตูใหญ่
“ขอบคุณสำหรับความตั้งใจที่ดีของคุณผู้หญิง ตอนนี้เป็นเวลาเข้าเวรของกระผม ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มได้ครับ”
มีบอดี้การ์ดหน้าดำทมิฬคนหนึ่ง ทำหน้าซื่อๆแล้วปฏิเสธความปรารถนาดีของจารวี
จารวีขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปมองดูบอดี้การ์ดทั้งสองคนที่หน้าประตู พวกเขาน่าจะหลับในไม่ช้านี้
ก่อนที่พวกเขาจะหลับ เธอต้องทำให้ทั้งสองคนนี้ดื่มน้ำผลไม้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกพวกเขาจับได้
รอเวลายิ่งนานเท่าไร โอกาสที่จะถูกจับได้ก็ยิ่งมาก
หัวใจของจารวีกำลังเต้นพลุ่งพล่าน
“นี่เป็นแค่น้ำผลไม้เท่านั้น ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซะหน่อย เธอนี่ ทำไมไม่เห็นแก่หน้ากันฉันบ้าง? เธอดูพวกเขาสิดื่มกันทุกคน หรือว่ากลัวฉันใส่ยาพิษลงไปในแก้ว?”
บอดี้การ์ดทั้งสองคนหันมามองหน้ากัน แล้วหันไปมองจารวีที่ยกแก้วให้โดยไม่ยอมไปไหน
ยืนกุมครรภ์ตากแดดรออยู่อย่างนั้น พวกเขาก็ไม่อยากปฏิเสธ จึงหยิบแก้วขึ้นมา ดื่มจนหมดแก้ว
เมื่อดื่มหมดแล้ว ก็หันมายิ้มให้กับจารวี “ขอบคุณ คุณจารวีที่ห่วงใย”
จารวียักคิ้ว อมยิ้ม จากนั้นก็ค่อยๆเดินกลับไปที่ห้องนอน
รอจนเธอเก็บข้าวของและโทรศัพท์มือถือออกมา ในที่สุด ทั้งสี่คนก็ได้หลับใหลหมดมีทั้งนอนราบกับพื้นและพิงผนังกำแพง
โชคดีวันนี้คุณหมอวิซ์เตอร์ไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นเธอต้องลำบากแน่
จารวีเดินออกจากประตูใหญ่อย่างราบรื่น เธอไม่ได้เดินมุ้งหน้าไปยังตัวเมือง แต่เธอเดินลัดเลอะป่าหินไปตามริมทะเล
เดินไปได้ไม่ไกลมากนัก มองเห็นเรือลำใหญ่จอดอยู่กลางทะเล เธอยกแขนโบก แล้วเร่งฝีเท้าวิ่งเข้าไป
ดนวัตให้คนนำเรือยางเข้าฝั่ง เพื่อไปรับจารวี
เรือยางค่อยๆเข้าเทียบเรือใหญ่ จารวีก็ยืนขึ้น ดนวัตอยู่บนหัวเรือกำลังจ้องมองไปยังเธอ
เขาอมยิ้ม “ดูซิ วิวทิวทัศน์สวยขนาดนี้ ชั่งเหมาะกับบรรยากาศการหนีตามไปกับคนรักเสียจริงๆ”
จารวีหัวเราะ
ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่กลับไม่เอิบอิ่มไปถึงหัวใจ
“รบกวนคุณแล้วค่ะ สามารถพาดิฉันไปส่งที่เมือง S โดยเร็วได้ไหมคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย