เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 61

ตอนที่ 60 สถานที่ที่อบอุ่น

“ฉันมีเรื่องอยากจะปรึกษานายหน่อย!”

“ว่ามา!” ยศพลแกล้งว่าได้ยินไม่ค่อยชัดเจน ชัดเจนแล้วว่าเขาถูกเธอปลุกไฟราคะขึ้นมา

“ฉันว่าที่นายพูดมาก็ไม่เลวนะ ฉันจะไปทำเรื่องดรอปที่มหาวิทยาลัยสักหน่อย"

ยศพลเดินก้าวใหญ่เข้ามาหาเธอ มือทั้งสองจับเธอไว้ “เรื่องนี้ให้ลูกน้องไปทำก็ได้”

“ไม่เอา ไม่เอา ฉันอยากจะบอกลากับเพื่อนร่วมชั้นสักหน่อยน่ะ”

ในแววตาของยศพลแฝงไปด้วยกามารมณ์“ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอต้องปฏิบัติตัวดีๆหน่อย…”

จารวีถูกเขาดันไปที่มุมกำแพงอีกครั้ง และหันมาก็ไม่มีทางถอยอีกแล้ว

เธอถูกอุ้มขึ้นและวางลงบนโต๊ะทำงาน

วันต่อมา จารวีกับอังคณาโดดเรียนโดยออกไปทางประตูหลังของมหาวิทยาลัย

อังคณายังคงสับสนและไม่เข้าใจ "วี ตอนนี้บ้านแกดูลึกลับมากเลยนะ มีเพื่อนร่วมชั้นหลายคนแอบซุบซิบกันว่าเธอเป็นเมียน้อยน่ะ เรื่องนี้มันจริงรึเปล่า”

จารวีมองอังคณาอย่างตั้งใจและเป็นเวลานาน จากนั้นก็ส่ายหัว “ไม่ได้เป็นเครื่องจริง เธออย่าไปฟังที่คนอื่นพูดมั่วเลย ฉันจะไปเป็นเมียน้อยชาวบ้านได้ยังไงล่ะ”

ใช่ ไม่ใช่เมียน้อย แต่เป็นเมียเก็บต่างหาก

มันต้องเป็นเพราะปัถย์ตัวแสบที่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปแน่ๆ

“อ๋อ ฉันก็ว่าละ เธอจะไปเป็นเมียน้อยได้ยังไง ถ้าจะเป็นเมียน้อยละก็ ก็คงจะเป็นเมียน้อยของคุณชายมนต์สิ อิอิ….”

จาวรวีมองใบหน้าที่ได้ใจของอังคณาแล้วโบกหัวเธอไปทีหนึ่ง

“จำไว้ด้วยนะ ทีหลังอย่าพูดมั่วซั่วอีก พี่มนต์ตรีน่ะเขามีว่าที่ภรรยาแล้ว…”

อังคณาลูบหน้าผาก พลางพูดว่า “จารวี เธอเนี่ยน๊า นับวันยิ่งชอบความรุนแรงซะจริง…”

จารวียิ่งอยู่ยิ่งเป็นคนชอบความรุนแรง คำพูดของอังคณาทำให้เธอรู้สึกตกใจกลัว หรือว่าอยู่กับยศพลมากเกินไป ก็เลยติดเชื้อมา

จารวีไม่ได้เข้าไปในสำนักงานใหญ่บริษัทซัวกรุ๊ปจำกัด แต่อยู่ตรงสวนสาธารณะเล็กๆใกล้ๆแถวนั้น ให้อังคณาโทรหาพี่มนต์ตรี

“คุณชายมนต์ตรี พวกเรามาถึงด้านล่างของบริษัทคุณแล้วค่ะ คุณว่างมั้ยคะ…”

“ฮะๆ ฉันก็รอพวกเธอมานานแล้ว”

มนต์ตรีถือมือถือเดินมาออกมาจากสวนสาธารณะด้านหลังที่มีพุ่มไม้อยู่

เขาสวมชุดสูทแบบยาวสีขาว เหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวในนิทานเลย

ในวินาทีนั้น เวทมนต์ในความทรงจำของจารวีราวกับถูกปลุกให้ตื่นอีกครั้ง

ผู้ชายที่เขารอคอย ตอนนี้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว

แสงอาทิตย์สีทอง สาดส่องมาที่ใบหน้าของเขา

เหมือนกำลังอยู่ในโลกแห่งความฝัน

ในตอนนั้น จารวีสวมเดรสสีขาวมีลายดอกไม้สีเขียวอ่อนๆดูสุภาพ บนใบหน้าที่ดูสะอาดและบริสุทธิ์ มีดวงตาทั้งสองข้างโตและแวววับ ริมฝีปากสีแดงชุ่มชื่นดั่งเชอร์รี่

ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน เธอก็ดูสวยกว่าเดิมเยอะ

ไม่ ไม่ใช่เพราะเหตุนี้ นี่ไม่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา ไม่ว่าเธอจะขี้เหร่หรือสวย เธอก็คือคนที่ใจเขาตามหาเสมอมา

อังคณาเห็นสองคนนี้เริ่มจะเฉื่อยชา กระแอมออกมาอย่างพอเป็นพิธี

“แค่ก เอ่อ ถ้างั้นฉันไม่อยู่ตรงนี้เป็น กขค แล้วดีกว่า เชิญคุยกับตามสบาย ฉันขอตัวไปก่อนนะ…”

ใบหน้าของจารวีดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ บีบมือของอังคณาแน่น

กำลังจะพูดออกมา มนต์ตรีก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันก่อนแล้วค่อยไปสิ”

แม้ว่าจะเป็นคำพูดที่ดูอบอุ่นมาก แต่อังคณาก็รู้ความหมายแฝงที่มนต์ตรีพูดออกมา

“ไว้วันหลังเถอะค่ะ ฉันมีนัดกับเพื่อนแล้วน่ะ…”

เหมือนกับว่ากลัวจะถูกจารวีตำหนิ ไม่ทันไรเธอก็วิ่งช้าๆหายไปดั่งควัน

ไม่นานนักในสวนสาธารณะ ก็เหลืออยู่เพียงมนต์ตรีกับจารวีเพียงแค่สองคน

“วี พี่ดีใจมากที่ได้เจอวีอีก พี่นึกว่าวีจะ…” รอยยิ้มของมนตร์ตรีเป็นประกาย อารมณ์แบบนี้เป็นอารมณ์ที่ออกมาจากใจที่ไม่ได้มีการเสแสร้งแม้แต่น้อย

จารวีใจเต้นเร็วและแรง เธอได้กลิ่นน้ำหอมลอยมาจากตัวของมนต์ตรี เหมือนเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์

เธอชอบกลิ่นนี้มาก กลิ่นนี้ทำให้ระยะห่างของทั้งสองเริ่มหดสั้นลง

“พี่มนต์!” จารวีเรียกด้วยเสียงหวาน แล้วรียรีบก้มหน้าลง

เธอไม่กล้าที่จะมองมนต์ตรีตรงๆ เพราะกลัวตัวเองจะอดใจหลงใหลในความอบอุ่นอ่อนโยนของมนต์ตรี

รู้ทั้งรู้อยู่ว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถครอบครองได้ ถ้าหากเอาตัวเข้าไป ต้องรู้สึกเหมือนตายไปแล้วแน่ๆ

“วี พี่จะพาวีไปที่ที่หนึ่ง…”

มนต์ตรีจูงมือจารวีอย่างเป็นธรรมชาติตามความเคยชิน เหมือนกับตอนเด็กๆ ราวกับว่าทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

จารวีพยายามที่จะปฏิเสธ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ทำได้เพียงให้เขาจูงมือไป เดินออกมาจากพุ่มไม้

ทั้งสองคนเดินฝ่าระหว่างป่าไม้ออกมา แสงอาทิตย์สาดส่องมายังพวกเขาสองคน

เป็นภาพที่เหมือนความฝันเล็กน้อย จารวีเงยหน้าขึ้นมาแอบมองมนต์ตรี

มุมข้างของใบหน้ายศพลช่างหล่อเหลา เหมือนก้อนหยกก้อนหนึ่งที่ดูอ่อนโยน

จารวีมองจนใจเต้น

ถ้าเธอไม่ถูกยศพลใช้กำลังบีบบังคับ ถ้าไม่ได้ตกเป็นเมียเก็บของยศพล ถ้าทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลง พี่มนต์ตรีคนนี้ที่ยืนอยู่ข้างกายเธอ ต้องเป็นของเธออย่างแน่นอน

แต่ว่าโชคชะตากลับมาล้อเล่น ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีงามล้วนหายไปหมดทั้งสิ้น

พอจารวีคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าก็ปรากฏความรู้สึกหดหู่และโศกเศร้า

มนต์ตรีรู้สึกได้ถึงแววตาของจารวี หันหน้ามา สายตาทั้งสองคู่ปะทะกัน มีประกายไฟที่กำลังเปล่งประกายอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย