ตอนที่ 59 ความลับที่สำคัญ
ท่านประธานคะ ดิฉันหาข้อมูลเจอแล้วค่ะ!” น้ำเสียงของทัศนีย์ดังออกมาจากโทรศัพท์ของยศพล
ยศพลยื่นมือไปหยิบผ้าขนหนูมาคลุมบนร่างของจารวี ไฟในห้องรับแขกปิดหมดแล้ว จารวีนอนอยู่บนโซฟาอย่างหมดแรง
“พูดมา” ยศพลพูดอย่างกระชับ
“ค่ะ ก่อนที่บริษัทซัวกรุ๊ปจะเข้าตลาดจีน พวกเขาได้แอบซื้อบริษัทเสื้อผ้าโดยเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทน้องวีกรุ๊ปจำกัด ซึ่งหลังจากที่บริษัทซัวกรุ๊ปกลับประเทศ ก็รีบลงทุนเข้าไปพันล้าน และเพื่อที่จะทำให้บริษัทนี้ใหญ่ขึ้น พวกเขาจึงทำให้แบรนด์เป็นเสื้อผ้าของวัยรุ่นผู้หญิงโดยเฉพาะ และคณะออกแบบกับองค์กรการจัดตั้งค่อนข้างยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งมากค่ะ ใช้เวลาแค่ภายในครึ่งปี ยอดการขายก็เลื่อนมาอยู่อันดับสามแล้ว ถ้าจะให้พูดถึงบริษัทเสื้อผ้าที่เปิดใหม่แบบนี้ นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากเลยค่ะ”
ทัศนีย์พูดจบก็ถอนหายใจออกมา
นอกจากจะมีผู้นำบริษัทอย่างยศพลแล้ว ยังมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งทางธุรกิจเพิ่มขึ้นมาอีก
“ถ้าอย่างนั้นคุณอยากย้ายไปทำงานที่บริษัทพวกเขาไหม!!” ยศพลเดือดดาลขึ้นมาทันที เธอเหมือนจะลืมว่าตัวเองกำลังพูดอยู่กับใคร
ทัศนีย์รีบดึงสติ แล้วหยุดคำพูดของตัวเองทันที
“ขอโทษค่ะ ท่านประธาน เป็นความผิดของฉันเอง ฉันหมายความว่าพวกเขาไม่มีทางงยิ่งใหญ่ไปกว่าท่านประธานหรอกค่ะ”
“บริษัทน้องวีกรุ๊ปหมายความว่ายังไง”
“อ่อ จากที่ดิฉันทราบมา น้องวีกรุ๊ปคือตัวละครในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนเป็นที่นิยมมาก วัยรุ่นผู้หญิงส่วนใหญ่ค่อนข้างจะชอบ ถ้าให้ดิฉันเดา เสื้อผ้าที่พวกเขาออกแบบมาน่าจะจัดอยู่ในกลุ่มผู้หญิงวัยสิบถึงสิบแปดปี และที่ตั้งชื่อนี้ก็เพื่อที่จะได้สะดุดตาค่ะ”
“อืม ส่งคนเข้าไปสืบที่บริษัทนี้สะ”
ทัศนีย์สงสัยเล็กน้อย”ท่านประธานคะ องค์กรของพวกเราก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจเสื้อผ้านี่คะ”
ยศพลตวาดกลับ “ก็เริ่มเกี่ยวข้องตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!”
“ถ้าหากว่าท่านประธานต้องการโจมตีบริษัทซัวกรุ๊ปละก็ ดิฉันแนะนำให้โจมตีสำนักงานใหญ่ของพวกเขา เพราะแบรนด์นี้เป็นแค่บริษัทรอง.....”
“คุณพูดมากเกินไปแล้ว ไม่อยากจะทำงานแล้วใช่ไหม!!” ยศพลพูดขัดเธอทันที
ทัศนีย์พยักหน้ากับตัวเอง “โอเคค่ะ ดิฉันจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้”
หลังจากวางสาย ยศพลหันกลับมาเห็นจารวีนั่งจ้องมองที่เขาอย่างไม่วางตา
บนใบหน้าของยศพลเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาเดินเข้าไปดึงจารวีมาไว้ในอ้อมกอด
“บริษัทน้องวีกรุ๊ปจำกัด ชื่อนี้คล้ายกับชื่อเธอเลยใช่ไหม”
แววตาสดใสทั้งสองข้างของจารวีเบิกกว้างขึ้น
บริษัทน้องวีกรุ๊ป ตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัวทำให้เธอหูผึ่งขึ้นมาทันที ทำไมถึงเป็นบริษัทน้องวีกรุ๊ปล่ะ!!
เมื่อเห็นจารวีใจลอย ยศพลก็พูดอย่างอิ่มเอมใจ “ฮ่าๆ แปลกดีใช่ไหมล่ะ ตอนนี้ผมกำลังคิดว่าจะออกแบบบริษัทเสื้อผ้าให้เธอยังไงดี แต่จู่ๆโอกาสก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าสะอย่างงั้น เธอว่ามันมหัศจรรย์ไหมล่ะ”
จารวีถอนหายใจอย่างแรง แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“มีบริษัทนี้ด้วยหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ เธอว่ามันแปลกไหมล่ะ เธอยังจำสุรีย์วัลย์ได้ไหม”
ยศพลยิ้มเยือกเย็น จารวีพยักหน้าตอบ คนที่ใส่ร้ายเธอ ก็คือคู่หมั้นของมนต์ตรี
“คู่หมั้นของสุรีย์วัลย์กำลังก่อตั้งแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ เขาคงคิดไม่ถึงแน่ว่าความฝันที่เขาฝันเอาไว้ มันจะคือทุกสิ่งที่เขาเตรียมมันเอาไว้เพื่อผม”
จารวีเมื่อได้ยินที่เขาพูด ก็หน้าซีดเข้าไปอีก เดิมทีก็คือพี่มนต์นั่นเอง
เธอรู้อยู่แล้วว่าเป็นเขา บนโลกนี้ มีเพียงเขาคนเดียวที่เรียกเธอว่าน้องวี
ตอนเด็กๆเธอชอบวาดรูปมาก และพี่มนต์ก็จะคอยเฝ้าดูเธอวาดรูปนั้นรูปนี้อยู่ข้างๆตลอด แต่รูปพวกนั้นล้วนเป็นรูปเสื้อผ้าตุ๊กตาทั้งนั้น บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอมีพรสวรรค์ทางด้านนี้จริงๆ เสื้อผ้าตุ๊กตาที่ถูกวาดออกมาล้วนน่ารักมาก แถมยังเต็มไปด้วยไอเดียใหม่ๆ
และก็มีแค่พี่มนต์คนเดียวเท่าที่ชื่นชมผลงานของเธอ
“น้องวี โตไปอยากเป็นจิตรกรหรอครับ”
“ไม่ค่ะพี่มนต์ วีโตไปอยากเป็นดีไซเนอร์ค่ะ อยากออกแบบเสื้อผ้าต่างๆให้ออกมาสวยๆ”
“ฮ่าๆ ทำไมล่ะ”
“เพราะว่าพี่มนต์ชอบไงคะ!พี่มนต์ชอบรูปวาดของน้องวี น้องวีก็จะวาดให้พี่มนต์ดู”
“โอเคครับ น้องวี”
เมื่อเห็นใบหน้าที่ขาวซีดของจารวี ยศพลก็รู้สึกสงสัยจึงยื่นมือออกไปลูบที่หัวเธอ จารวีที่ถูกเขาลูบเข้าที่หัวจึงได้สติกลับมา
“บริษัทซัวกรุ๊ปนี่ มันเกี่ยวกับฉันยังไงกัน”
“ตอนนี้ไม่เกี่ยว แต่หลังจากนี้ก็เกี่ยวเองนั่นล่ะ”
แววตายศพลเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว กล้ามาทำผู้หญิงของยศพล ก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างสงบสุขเลย
ฟังจากน้ำเสียงของยศพลแล้ว ภายใต้จิตใจของจารวีก็รู้สึกแย่เอามากๆ
“คุณจะซื้อบริษัทนี้หรอ” จารวีลองถามหยั่งเชิงดู
ยศพลยกยิ้ม “จารวี เธอนี่อยู่กับผมจนเริ่มจะฉลาดขึ้นมาบ้างแล้วนะ!”
จารวีเหงื่อตกทันที “ไม่กะ กล้า...”
“ยังไงเธอก็ชอบออกแบบอยู่แล้ว ก็แค่ซื้อบริษัทนี้มาให้เธอเล่นสักหน่อยเท่านั้นเอง” ยศพลอ้าขาออกออกกว้าง นั่งบนโซฟาอย่างสบายใจ แววตาแฝงไปด้วยความชั่วร้าย
จารวีใจลอยอยู่ครู่หนึ่ง ก็พูดขึ้นมาเบาๆ “อันที่จริงแล้วฉันไม่ได้อยากจะเปิดบริษัทอะไร ให้ฉันกลับไปเรียนต่อให้จบดีกว่า”
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว”
ยศพลผลักจารวีออก แล้วเดินมุ่งตรงขึ้นไปด้านบน
จารวีหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง ทำยังไงดี? เขาต้องการจะกำจัดพี่มนต์ เธอจะยอมให้เขาทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
จารวีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรออกหาอังคณา
“ฮัลโหล ยัยอัง”
“ยัยวี แกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แล้วหรอ !มิน่าล่ะเมื่อวานฉันโทรหาแกไม่ติดเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย