เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 76

ตอนที่75 ยากที่จะอยู่รอด

“โอเคค่ะ พี่มนต์”

จารวีตอบรับอย่างเป็นสุข พลางก้าวขึ้นไปนั่งบนรถของมนต์ตรี ตัวรถเคลื่อนที่ออกนอกตัวเมืองอย่างช้าๆ

“วี ทำไม่ช่วงนี้ถึงผอมลงเยอะจัง” สายตาห่วงใยของมนต์ตรีจับจ้องไปยังใบหน้าของจารวี

จารวีนวดคลึงใบหน้าไปมาพลางยิ้ม “หรอคะ คงเป็นเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยเจริญอาหารมั้งคะ”

มนต์ตรีมองจารวีอย่างรู้สึกผิด “วี เป็นเพราะพี่ไม่ดีเอง พี่ไม่ควรให้วีดูรูปภาพพวกนั้นเลย”

รูปเหล่านั้นที่มนต์ตรีหมายถึงก็คือรูปของเฉลิมชัย นัยน์ตาของจารวีพลันแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าสลด ตอนนี้ รูปภาพเหล่านั้นทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียน

ถ้าหากเธอรู้เร็วกว่านี้ว่าเฉลิมชัยเป็นคนน่ารังเกียจขนาดไหน เธอจะไม่มีทางสนใจเขาอย่างเด็ดขาด

ไอ้คนสารเลว คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำเรื่องเลวทรามพรรค์นั้นกับคุณแม่

เนิ่นนาน จารวีมองเห็นแววตาเป็นห่วงเป็นใยของมนต์ตรี เธอจึงยักไหล่พลางเอ่ย “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่มนต์ วีลืมมันไปหมดแล้ว”

“วี พี่ขอโทษจริงๆนะ พี่เคยรับปากว่าพี่จะดูแลวีทั้งชีวิตให้ดี แต่ตอนนี้พี่กลับปล่อยให้วีได้เจอกับความเจ็บปวดเพียงลำพัง”

คำพูดของมนต์ตรี เปรียบเสมือนมีมือหนาเอื้อมมากอบกุมหัวใจของจารวีให้มั่นคง

ทำให้เธอรู้สึกทั้งอบอุ่นและปลอดภัย

เขาก็คือพี่มนต์... คือพี่มนต์ของเธอ

ตัวรถขับเคลื่อนออกนอกตัวเมือง ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามายังฟาร์มแห่งหนึ่งอย่างช้าๆ กระท่อมหลังเล็กๆที่ใช้วัสดุจากไม้ก่อสร้าง ค่อยๆปรากฏแก่สายตา

ชานเมืองนี้มีความคล้ายคลึงกับมัลดีฟส์ เพียงแต่ว่าที่นี่อยู่ติดกับป่า ให้ความรู้สึกเหมือนกับกระท่อมกลางป่า

เมื่อมนต์ตรีจอดรถเรียบร้อยแล้ว เขาจูงมือจารวีเดินไปยังกระท่อมหลังเล็ก

ใต้ฝ่าเท้าคือต้นหญ้าอ่อนนุ่ม ก้อนเมฆขาวสะอาดลอยอยู่บนท้องฟ้าสีคราม มีกระท่อมคล้ายๆซุ้มเล็กๆอยู่หนึ่งหลัง ด้านในมีโซฟาตัวยาว สามารถนอนชื่นชมทัศนียภาพรอบด้านทั้งสี่ทิศ อีกทั้งห้องใหญ่ที่อยู่ติดกันก็เป็นห้องที่ทำจากไม้

กระท่อมเหล่านี้ ถัดไปอีกระยะนึงก็มีอีกหลังที่คล้ายกัน ถ้ามองไกลๆจะดูเหมือนเม็ดไข่มุกที่ร่วงกระจายเป็นหย่อมๆอยู่บนทุ่งหญ้า “วี! ขึ้นมาสิ!”

มนต์ตรีถอดรองเท้าออก พลางก้าวขึ้นบันไดไม้ จารวีทำตาม เธอถอดรองเท้าและก้าวตามหลังเขาไป

เขาและเธอเดินทะลุห้องไปยังซุ้มห้องโถง

โซฟาตัวใหญ่นั่งสบายมาก ต้นไม้สีเขียวมรกตผลิดอกออกผลมากมายหลากหลายสี ผีเสื้อน้อยใหญ่บินร่อนลงมาเกาะอยู่บนโซฟาอย่างต่อเนื่อง

โต๊ะไม้สำหรับวางชุดน้ำชา มีดอกลาเวนเดอร์สีม่วงหนึ่งดอกวางอยู่ เหล่าผีเสื้อที่กล้าหาญบินเข้าไปดอมดมกลิ่นเกษรของดอกลาเวนเดอร์

จารวีนั่งอยู่บนโซฟา มนต์ตรีถือน้ำลูกท้อสายน้ำผึ้งเดินออกมากจากห้อง

ทั้งยังมีเม็ดเกาลัดที่คั่วจนเหลืองอร่ามอีกจาน

ดูเหมือนว่าของพวกนี้เป็นสิ่งที่เขาเตรียมการล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นสถานที่ที่มีระดับเช่นนี้ คงไม่มีทางมีเกาลัดคั่วแบบนี้เป็นแน่

“พี่มนต์ พี่ยังจำได้หรอว่าวีชอบดื่มน้ำลูกท้อสายน้ำผึ้ง” ตัวจารวีเองยังลืมเลยว่าครั้งหนึ่งเธอเคยติดน้ำลูกท้อสายน้ำผึ้งนี้มาก

“ฮ่าๆๆ จำได้สิ ทำไมพี่จะจำไม่ได้ล่ะ ตอนนั้นนะ วีอยากดื่มน้ำลูกท้อก็เลยชอบแอบมาอยู่บ้านพี่ตลอด วียังจำได้ไหม ที่วีเข้าไปซ่อนตัวในผ้าห่มของพี่เพื่อหลบคุณพ่อของวีน่ะ”

มนต์ตรีย้อนนึกถึงจารวีในวัยเด็กที่แสนซน พลันดวงตาของเขาก็สะท้อนความปีติสุขออกมา

การได้ใช้ชีวิตกับจารวี เป็นช่วงเวลาที่งดงาม ราวกับไขมุกล้ำค่าที่ค่อยๆถูกเขาเก็บสะสมไว้ในหัวสมอง

สิบปีมานี้ เขาก็ยึดเอาความทรงจำเหล่านั้น มาช่วยเยียวยาความเสียใจในตอนที่หาจารวีไม่เจอ

เมื่อคิดถึงเรื่องราวเมื่อตอนนั้น แก้มใสของจารวีขึ้นสีแดงระเรื่อ รอยยิ้มอ่อนหวานมีลักยิ้มสองข้างปรากฏออกมา ขนตาเป็นแพรหนาโค้งงอน ด้านล่างของจมูกเรียวเล็กคือริมฝีปากหยักนุ่มหยุ่นสีแดงชุ่มชื้น

มนต์ตรีค่อยๆก้าวเข้าไปหาจารวีอย่างไม่อาจจะหักห้ามใจ

ผู้หญิงคนนี้ คือคนที่เขาเฝ้าตามหามาตลอดสิบปี เธอ..คนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ คนที่ยังมีชีวิตอยู่ เธอดูสดใสกว่าในความทรงจำมากนัก

“วี พี่ไม่เข้าใจเลย ตอนนั้นพี่โทรศัพท์หาคุณลุงของวีตลอด แต่ท่านกลับเอาแต่พูดว่าวีเสียแล้ว พี่ก็เลยคิดว่าวีจากพี่ไปแล้วจริงๆ ตอนนั้นพี่ไปที่บ้านเก่าของวี แต่ก็ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย วีบอกพี่ได้ไหม ว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ขอบตาของจารวีร้อนผ่าว “ตอนนั้นวียังเด็ก วีก็จำไม่ค่อยได้ แต่มันประมาณว่าคุณพ่อทำผิดอะไรสักอย่าง บ้านของวีล้มละลาย พอหลังจากคุณแม่เสีย วีก็ถูกส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า อยู่ที่นั่นหนึ่งหรือสองปีวีเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ หลังจากนั้นพี่ยุพินก็ไปรับวีออกมา ตอนนั้นวีถึงได้รู้ว่าบริษัทยาหวนจำกัดตกเป็นของคุณลุงแล้ว จริงๆแล้ววีอยากรู้มากว่าคุณพ่อไปอยู่ที่ไหน”

ดวงตาของมนต์ตรีพลันเปลี่ยนเป็นความระทมทุกข์ “ไม่คิดเลยว่าหลังจากที่เขาไปแล้ว วีจะพบเจอกับเหตุการณ์ที่หนักหนาสาหัสขนาดนี้”

มนต์ตรีจ้องมองจารวีอย่างอ่อนโยน เขายื่นมือไปกอบกุมมือเล็กที่แสนนุ่มนวลของเธอไว้

“วี ในเมื่อตอนนี้วีไม่เหลือใครแล้ว ก็ให้พี่ได้ดูแลวีเถอะนะ วีตัวคนเดียว ไม่มีที่พึ่งพิงแบบนี้ พี่ไม่สบายใจเลย”

พี่มนต์..พี่รู้ไหมว่าจริงๆแล้ว วีอยากไปอยู่กับพี่มาก

จารวีอยากดึงมือของเธอกลับมา แต่เธอก็ทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยมือจากเขา เธอชอบเวลาที่พี่มนต์กุมมือเธอไว้ มันทั้งรู้สึกอบอุ่นและมั่นคง เหมือนเมื่อตอนเด็กๆ...

จารวีรู้สึกถึงลมหายใจของมนต์ตรีที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กลิ่นน้ำหอมเบาบางจากเสื้อของเขาก็เริ่มฉุนขึ้นมา

เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรง ราวกับจะทะลุออกจากอก

นี่คือความรักใช่หรือเปล่านะ..

ความรู้สึกที่แสดงออกผ่านสายตา ลมหายใจอุ่นร้อน รวมทั้งการกระทำใกล้ชิดสนิมสนม พลันทำให้ใบหน้าเล็กของเธอร้อนผ่าว

“วี ให้พี่ดูแลวีนะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย