เพลิงไม่มีเวลาให้คิดนาน เพราะเขาต้องรีบกลับไปฝึกทหาร ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ฝึกให้พลทหารใหม่ แต่ทั้งหมดเขาก็ต้องได้ทำเองด้วย ไม่ว่าจะวิ่งรอบภูเขา หรือแม้แต่ดำน้ำ
กว่าจะเสร็จภารกิจในแต่ละวันร่างกายก็แทบจะไม่ไหว
หลายวันต่อมา..
"คุณทศกลับมาแล้วหรือคะ" เมขลากลับมาจากทำงานก็เห็นทศกัณฐ์นั่งคุยกับครอบครัวอยู่
"มาถึงตั้งแต่บ่ายแล้ว แต่พรุ่งนี้ก็คงต้องได้กลับ" ถึงแม้ว่าจะมีเวลาน้อย แต่ดีกว่าไม่ได้กลับมาดูภรรยาที่กำลังท้องเลย
"คุณดูผอมลงนะคะ" เอวาเป็นคนถามสามีบ้าง
"ก็เพราะคิดถึงเมียไง กินอะไรก็ไม่อร่อย"
พุดตาลเอ็นดูที่ลูกชายพูดหยอกภรรยา เพราะนางยังไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกชายทั้งสองกำลังเจอกับอะไรอยู่ ส่วนเมขลาพอรู้ว่าพี่ชายกลับมาก็รีบออกมาข้างนอก เพื่อมองหาอีกคน
"คุณชาติคะ"
"ครับ"
"แล้วผู้กองล่ะคะ"
"ผู้กองเพลิงใช่ไหมครับ..ไม่ได้กลับมาด้วยหรอกครับ"
"ทำไมคะ..เอ่อ.." เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองออกหน้าออกตาเกินไป "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่ถามดูเฉยๆ"
ดึกๆ ของคืนเดียวกัน เมขลาเปิดหน้าต่างมองดูท้องฟ้าเหมือนทุกคืนที่เคยทำ เขาไม่คิดถึงเราแล้วเหรอถึงไม่กลับมาด้วย คงมีแต่เราสินะที่เฝ้าคิดถึง
จนถึงรุ่งเช้าของวันใหม่..
ได้ยินเสียงประตูห้องข้างๆ เมขลาก็รีบออกมาดู
"คุณทศจะกลับแล้วเหรอคะ"
"ใช่..กว่าจะถึงค่าย เรามีอะไรจะคุยกับพี่หรือเปล่า" ทศกัณฐ์คิดว่าน้องสาวมีอะไรจะคุยด้วย
"ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ" ที่จริงก็อยากจะฝากความคิดถึงไปหาอีกคนแต่ใครจะกล้าพูด
"ครับคุณน้องสาว" มือของพี่ชายเอื้อมไปลูบผมน้องสาวเบาๆ แล้วหันกลับไปหอมแก้มภรรยาเพื่อลากลับไปทำงาน
[บริษัท]
เวลาที่โทรศัพท์ของเกวลินดัง เมขลาอดชำเรืองมองไปไม่ได้ เผื่อเป็นเขาโทรมา แต่จะให้ขอเบอร์จากเกวลินก็ไม่กล้า
"วันนี้มีประชุมอีกแล้วเหรอคะ" เมขลาเห็นเกวลินเตรียมเอกสารในการประชุม
"ใช่ค่ะ"
"เดี๋ยวน้องเมย์เตรียมน้ำให้นะคะ" ว่าแล้วหญิงสาวก็เข้าไปในห้องเครื่องดื่ม ปกติการประชุมจะมีขึ้นแค่สัปดาห์ละครั้ง แต่นี่มันถี่เกินไปแล้ว ไม่ใช่แค่การประชุมนะการทำงานในแต่ละวันกว่าจะได้กลับบ้าน
"ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เราคงพยุงค่าขนส่งไม่ไหวแน่ครับ"
"ดึงกำไรค่าขนส่งจากปีที่แล้วมาช่วยหนุนปีนี้ไปก่อน"
ผู้บริหารหลายคนต่างก็มองหน้ากัน ที่จริงไม่เคยมีใครทำแบบนี้หรอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้แค่ดึงตัวเลขเพื่อมากลบเกลื่อน ไม่ให้บริษัทดูขาดทุนมาก
เมขลาได้ยินขณะที่เข้าไปบริการเครื่องดื่ม ก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ มากขึ้น
เธอก็เลยไม่เก็บความสงสัยนี้ไว้คนเดียว พอกลับมาถึงบ้านหญิงสาวก็ได้คุยกับแม่ใหญ่คนที่จะปรึกษาได้
"เมื่อกี้หนูว่าอะไรนะ?" นางเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงมาก่อนทำไมจะไม่รู้ ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้นั่นแสดงว่าบริษัทเริ่มพยุงรายจ่ายไม่ไหวแล้ว
"เมย์ไม่น่ามาพูดให้คุณท่านต้องคิดมากด้วยอีกคนเลยค่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอกจ้า แม่ต้องขอบใจหนูต่างหาก" เพราะถ้าจะให้ลูกชายมาขอความช่วยเหลือคงไม่มีวันนั้น เพราะลูกๆ ต่างก็ไม่อยากให้แม่ต้องมาลำบากกับเรื่องนี้ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพลิงร้ายซ่อนรัก