จังหวะที่ชายหนุ่มเดินผ่านเข้าไปในร้าน หญิงสาวนั่งแอบลงข้างๆ กระถางต้นไม้ พอให้บังสายตาได้
หวังว่าเขาคงจะไม่เห็นนะ กลับมาอีกทำไม ..มือเรียวแหวกกิ่งไม้ออกเล็กน้อยเพื่อจะมองเข้าไปในร้าน และเธอก็เห็นว่าเขามองกวาดไปทั่วร้านเหมือนหาอะไรบางอย่าง
"คงไม่ได้มองหาเรานะ" ความสวยของเมขลาไม่ได้น้อยหน้าใคร เธอได้ทั้งเชื้อพ่อและแม่มาไว้ในตัว แม่ของเธอเป็นดาวสวยที่สุดในร้านนั้น จนทำให้พลเอกเรวทัตหลงใหล แต่ก็ไม่คิดจะจริงจัง
"น้องครับพี่ถามอะไรหน่อยสิ น้องคนที่ชื่อเมขลา.."
"ตามหาเราจริงด้วย?" แค่มองปากก็รู้แล้วว่าเขาเอ่ยชื่อเธอออกมา เด็กในร้านก็เลยมองดูว่าตอนนี้เมขลาอยู่ที่ไหน อีกคนชี้มาทางหน้าร้านว่าเห็นออกไปข้างนอก "จะบอกเขาทำไม"
ถ้าไม่พลาดท่าเสียทีให้ เมขลาก็คงไม่หลบหน้าแบบนี้ หญิงสาวรีบไปห้องของตัวเองที่อยู่ด้านหลังร้าน
เธอคงแอบอยู่ในนี้ได้ไม่นาน "เอาไงต่อดีเรา" ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว หรือว่าเธอจะไป.. ถ้าไปแล้วใครจะช่วยงานคุณน้า แต่ถ้าอยู่ต่อต้องถูกคุกคามจากลูกค้าบ้ากามพวกนี้แน่
แกร็ก..
เมขลาสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียง ใบหน้างามมองซ้ายมองขวาหาที่ซ้อน ไปเลยดีกว่า ..มองไปที่หน้าต่างเธอก็เลยตัดสินใจปีนออก
เดินลัดเลาะออกมาจากร้านก็เป็นถนน ตอนนี้ยังไงก็ต้องไปก่อน ค่อยโทรมาหาน้าแล้วกัน เธอจะลองเสี่ยงดวงดูสักครั้ง หวังว่าโชคชะตาคงไม่เล่นตลกกับเธอมากไปกว่านี้แล้วนะ คิดได้แบบนั้นหญิงสาวก็กวักมือเรียกแท็กซี่ที่กำลังจะวิ่งผ่าน
พอขึ้นแท็กซี่ได้เมขลาก็เลยส่งข้อความมาหาน้าสาว เพื่อขอที่อยู่คนที่มาตามหาเธอเมื่อคืนนี้ และหญิงสาวไม่ลืมที่จะสั่งไว้ว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร
อรอนงค์ได้รับข้อความนั้นแล้วก็รู้สึกใจหาย เธอเลี้ยงของเธอมาตั้งแต่แบเบาะ ความผูกพันนั้นมากกว่าสถานะที่มีต่อกัน แต่อรอนงค์ก็ดีใจที่หลานสาวจะได้มีอนาคตที่ดีต่อไป
"ไม่เห็นน้องเมย์เลยค่ะ" คนที่ไปเปิดห้องเมขลาก็คือเด็กในร้าน ซึ่งอรอนงค์เป็นคนสั่งให้ไปดูว่าเมขลากลับไปที่ห้องไหม
"ไม่ต้องตามแล้ว มีอะไรก็ไปทำเถอะ"
"คุณอรเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เด็กในร้านถามเพราะเห็นเจ้าของร้านเช็ดน้ำตา
"ไม่รู้อะไรเข้าตา..ไปรับลูกค้าเถอะ" อรอนงค์ได้แต่ภาวนาขอให้ท่านรักเมขลาเท่าที่เธอรักก็ยังดี
เมขลาได้ที่อยู่ก็เลยให้แท็กซี่มาส่ง ซึ่งห่างจากร้านอยู่พอสมควร กว่าจะมาถึงก็ดึกดื่นมากแล้ว
"แน่ใจนะคะว่าบ้านหลังนี้" หญิงสาวมองดูป้ายหน้าบ้าน เลขที่ก็ตรงกันทุกอย่าง ใหญ่ขนาดนี้จะเรียกว่าบ้านได้ยังไง
"ก็ตามที่อยู่คุณบอกมานั่นแหละครับ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของท่านพลเอกเลยนะ คุณจะมาสมัครงานเหรอ"
"ฉันมาหาญาติค่ะ"
"คงเป็นแม่บ้านที่นี่ล่ะสิ" แท็กซี่รับเงินแล้วก็ทอนไปในขณะที่พูดคุยกัน
ลงจากรถแล้ว..แต่เธอก็ยังคงยืนมองดูรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ เพราะไม่กล้ากดกริ่งเรียกคนในบ้าน เธอก็เลยนั่งรออยู่แถวหน้าบ้าน คิดว่าตอนเช้าคงมีคนออกมา
"บ้าไปแล้ว ฉันไม่ใช่นางเอกมิวสิคนะ" นั่งชันเข่าอยู่ครู่หนึ่งฝนก็ตกปรอยๆ ลงมา จะหาที่หลบฝนก็ไม่มี
เช้าวันต่อมา..
"สวัสดีค่ะ"
แม่บ้านที่ออกมาทำความสะอาดหน้าบ้านมองหาเสียง ว่าเป็นเสียงใครที่มาสวัสดี
"พูดกับฉันเหรอ"
"ใช่ค่ะฉันมาหาคุณพุดตาล"
"มาหาคุณท่านเหรอ?"
"ใช่ค่ะ"
"หนูคงมาสมัครงานล่ะสิ ไม่ต้องไปหาท่านหรอก แม่บ้านเต็มแล้ว"
"ฉันไม่ได้มาสมัครงานค่ะ ท่านบอกให้ฉันมาหา"
"หรือหนูจะมาขอเงิน?" แม่บ้านพูดพร้อมกับมองดูเด็กที่ยืนอยู่ตรงหน้าให้ชัดๆ ดูจากสภาพแล้วคงเป็นแบบที่คิดแน่ "อย่าทำแบบนั้นเลยนะหนู ขาก็มีแขนก็มีครบ"
เมขลาเหนื่อยใจและก็ไม่มีแรงที่จะอธิบายอีก จะบอกได้ยังไงว่าเธอเป็นใคร ในเมื่อสถานะนั้นคนที่ทำให้เกิดไม่ต้องการให้เธอใช้
หญิงสาวก็เลยเดินกลับไปนั่งลงที่เดิม เสื้อผ้าที่เปียกปอนเมื่อคืนมันแห้งแล้ว เป็นใครเห็นสภาพเธอในเวลานี้ก็คงคิดแบบเดียวกันหมด
"แม่ดีใจนะที่หนูมา"
แม่บ้านต่างก็มองหน้า เพราะคุณท่านยังไม่ได้เล่าอะไรให้ใครฟัง ทุกคนก็แอบเป็นห่วงว่านางจะถูกหลอก
[บริษัท]
{"ป้าว่าอะไรนะ?"} รามสูรที่เพิ่งจะออกจากห้องประชุม เห็นเบอร์โทรศัพท์แม่บ้านก็เลยรับสาย แต่พอได้รับรายงานมันทำให้เขาแปลกใจ
{"อิฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นค่ะ อยากให้คุณรามมาดูหน่อย"} รามสูรไม่ได้กลับมาบ้านหลายวันแล้ว เพราะออกจากบริษัทก็ตรงไปที่บ้านภรรยา
{"เดี๋ยวตอนเย็นจะเข้าไป"}
แกร็ก.. ขณะที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา
{"แค่นี้ก่อนนะครับป้า ฝากดูแลแม่ด้วย ถ้าเสร็จงานแล้วเดี๋ยวผมจะกลับ"}
"เรื่องขนส่งสินค้า ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปก่อน คลื่นลมในทะเลแรง" คนที่มาหาก็คือทศกัณฐ์ เขาเป็นทหารเรือรอบรู้เรื่องนี้ดี "ว่าแต่เมื่อสักครู่คุยอะไร" ทศกัณฐ์ได้ยินรามสูรฝากใครไม่รู้ในสายดูแลแม่ก็เลยถาม
"พี่ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ตอนเย็นเดี๋ยวจะเข้าไปดู"
"ถ้างานยุ่งเดี๋ยวผมเข้าไปดูให้ก็ได้ แค่จะมาบอกเรื่องส่งสินค้า ถ้ามันด่วนก็ส่งทางบกหรือไม่ก็ส่งทางอากาศ" ว่าแล้วทศกัณฐ์ก็ออกไป
รามสูรมองตามหลังน้องชาย การมีพี่น้องที่เป็นห่วงกันมันดีแบบนี้นี่เอง
ออกจากห้องพี่ชาย เขาก็ลงมาข้างล่าง
"มึงโดนตัวอะไรเข้าอีกไอ้เพลิง กูเห็นนั่งหน้ามุ่ยมาตั้งแต่เช้าแล้ว"
"ไม่มีอะไรหรอกครับผู้พัน ขึ้นรถเถอะครับ" ผู้กองเพลิงเอื้อมไปเปิดประตูรถให้กับท่านผู้พันได้ขึ้น แล้วก็เดินอ้อมไปนั่งหน้าคู่กับคนขับรถ
"จะไปไหนต่อครับ" ชาติซึ่งทำหน้าที่ขับรถหันกลับมาถามเจ้านาย
"ไปบ้านพี่ชายกูก่อน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพลิงร้ายซ่อนรัก