"ล้างปากอันสกปรกของเจ้าให้สะอาดเสีย มิเช่นนั้นหากว่ามีครั้งต่อไป ความบริสุทธิ์อันแทบจะมีหลงเหลือที่เจ้าและคุณนายเซี่ยซื่อกล่าวนั้น คงจะถูกทำลายอย่างแน่นอน"
ซูหนานอียังคงออกแรงไปที่ข้อมือของนาง จนกระทั่งใบหน้าของซูหว่านเอ้อร์เริ่มซีดขาว นางจึงได้ปล่อยมือ
ซูหว่านเอ้อร์อ่อนแรงล้มลงสู่พื้น นางนำมือขึ้นกุมคอของตนและเริ่มหอบสำลัก ไออย่างรุนแรง
"แค่กๆๆๆๆ!"
เสียงไอของนางปลุกสาวรับใช้ทั้งสองให้ได้สติกลับคืนมา "คุณหนู เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะคุณหนู?"
ซูหว่านเอ้อร์เงยหน้าขึ้นอย่างมิพอใจ แต่สายตาของนางก็ประสานเข้ากับแววตาสีเข้มของซูหนานอี ก็ทำให้นางตัวสั่นอย่างเยือกเย็น
ขนตางอนยาวกะพริบปริบๆ ซูหว่านเอ้อร์กำหมัดแน่น "หากมิใช่เพราะใบหน้านี้ ข้าคงสงสัยว่าท่านพี่คือคนอื่นมาสวมรอย"
ดวงตาของซูหนานอีชะงักลงเล็กน้อย แล้วจางหายไปอย่างรวดเร็ว
"ข้าปฏิบัติต่อคนที่ประสงค์จะทำลายข้าเช่นนี้ โดยมิคิดฆ่าเจ้าก็ดีเพียงไรแล้ว ดังนั้นนับแต่นี้เจ้าควรระมัดระวังตัวเอาไว้บ้าง"
หลังจากนั้นซูหนานอีก็มองไปยังถุงหอมที่ซูหว่านเอ้อร์ห้อยเอาไว้ตรงเอวของนางด้วยท่าทีเย็นชา "หากเจ้าต้องการจะใช้แผนการเดิมอีกละก็ ข้าก็มิรังเกียจที่จะก่อความวุ่นวายอีกครั้งเช่นกัน"
ซูหว่านเอ้อร์ตกใจ ดวงตาของนางสั่นคลอนเล็กน้อย
ซูหนานอีก้าวถอยหลังออกไปเล็กน้อย "ข้ามิอยากเห็นหน้าเจ้าอีก เจ้าไปได้แล้ว"
"คุณหนูใหญ่เจ้าคะ เหตุใดจึงทำกับคุณหนูของพวกเราเช่นนี้?"
"คุณหนูรองทำทุกสิ่งอย่างเพื่อคุณหนูใหญ่เสมอมา แม้แต่วันนี้ตำแหน่งพระชายาอันสูงส่งเยี่ยงนี้ คุณหนูรองก็หาได้แย่งชิงกับคุณหนูใหญ่ไม่ แล้วเหตุใด......"
สาวรับใช้ทั้งสองพากันเข้ามาพยุงทั้งซ้ายและขวา เมื่อพยุงนางขึ้นมาได้ ปากของพวกนางก็เริ่มกล่าวสั่งสอนซูหนานอีเช่นเคย
"บ่าวที่มิรู้จักที่ต่ำที่สูงสมควรจะฆ่าทิ้งเสีย น้องพี่ เจ้าคิดว่าอย่างไร?"
ดวงตาของซูหนานอีช่างเย็นชา ชักจูงให้ซูหว่านเอ้อร์มองมาที่นาง
ซูหว่านเอ้อร์รู้สึกว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้มีบางอย่างผิดปกติไป นางรู้ดีว่ามิควรแข็งกร้าวกลับ จึงทำน้ำเสียงอ่อนลงว่า "อย่าโกรธเลยท่านพี่ บ่าวทั้งสองนี้ถูกข้าตามใจจนเคยชินเสียแล้ว อย่างไรเสียพวกนางก็เป็นบ่าวรับใช้ในจวนข้า ข้าควรจะลงโทษพวกนางด้วยตนเองจึงจะถูก"
"คุณหนูเจ้าคะ กำลังเขียนอะไรอยู่หรือ? แม้ว่าบ่าวจะมิรู้หนังสือ แต่ดูเหมือนลายมือของคุณหนูจะงดงามขึ้นเรื่อยๆนะเจ้าคะ"
เสี่ยวเถานั่งอยู่ข้างๆเงียบๆ แต่ช่างน่าเบื่อเสียจริง เมื่อเห็นซูหนานอีหยุดเขียน นางจึงได้เอ่ยถาม
"สิ่งนี้หรือ มันมีประโยชน์มากทีเดียว"
"เสี่ยวเถา เจ้ารู้สิ่งใดเกี่ยวกับจวนเทียนอีบ้างหรือไม่ จงบอกข้ามาหน่อยซี"
เสี่ยวเถากะพริบตาแล้วส่ายศีรษะ "เสี่ยวเถาอยู่แต่ในจวน มิค่อยได้ออกไปไหนจึงมิเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน รู้เพียงว่าจวนเทียนอีบัดนี้ว่างเปล่า ถูกใส่กลอนเอาไว้ ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นบ่าวมิรู้เลยเจ้าค่ะ"
ดวงตาของซูหนานอีมืดมนลงเล็กน้อย
จากนั้นเสี่ยวเถาก็กล่าวขึ้นอีกครั้งว่า "หากคุณหนูอยากรู้ บ่าวจะไปยังโรงน้ำชาจวี้ซิงทางตอนใต้ของเมืองในวันพรุ่งนี้ ที่นั่นมีผู้คนเดินทางไปมามากมายทุกวี่วัน บางทีบ่าวอาจจะหาข้อมูลบางอย่างได้บ้าง"
ดวงตาของซูหนานอีสว่างขึ้นในทันใด
อืม! ตระกูลซูเกิดเรื่องใหญ่โตเพียงนี้ คาดว่าต้องมีคนนำมาสนทนากันแน่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ