ซูหนานอีสังเกตเห็นเบางสิ่งจากที่นางได้พบกับไท่เฟยก่อนหน้านี้
จวนอ๋องเป่ยลี้เป็นตระกูลระดับใดกัน? เหตุใดจึงต้องเห็นค่าตระกูลพ่อค้าเล็กๆเช่นตระกูลซูด้วย?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ซูหว่านเอ้อร์สร้างเรื่องอื้อฉาวเช่นนั้นขึ้นมา แต่ก็ยังเลือกนาง
บัดนี้ เมื่อฟังคำกล่าวของไท่เฟย นางจึงรู้ว่าตนเดามิผิด มันต้องมีเหตุผลแน่นอน
แท้จริงแล้ว มิว่าจะเป็นเพราะเหตุผลใดก็ตาม ซูหนานอีเพียงแค่อยากอยู่กับหยุนจิ่ง ตอบแทนความใจดีของเขาและรักษาเขา
เมื่อไปถึงประตูความคิดก็หยุดลง โมโม่ที่เฝ้าประตูเอ่ยทักทายชด้วยรอยยิ้มทันที "ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ"
หยุนจิ่งพยักหน้าและชี้ไปที่ซูหนานอี "ถวายความเคารพแก่เหนียงจื่อของข้าด้วย"
โมโม่ตกใจ จากนั้นจึงได้ยิ้มและโค้งคำนับ "คุณหนูซู"
ซูหนานอีเอียงตัวเล็กน้อย "โมโม่มิต้องเป็นทางการเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ"
เมื่อหยุนหลิ่วเห็นฉากนี้ ความมืดมนในดวงตาของนางก็ฉายออกมา แล้วกล่าวด้วยเสียงหัวเราะว่า "คุณหนูซูคือพระชายาท่านอ๋องของเราในอนาคต สมควรที่จะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้แล้ว การวางตัวตั้งแต่เนิ่นๆสามารถทำให้พวกนางรู้ว่าใครคือนาย"
หัวใจของซูหนานอีจมดิ่งลงเล็กน้อย แต่ใบหน้าของนางมิได้แปรเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย "โมโม่คือคนของไท่เฟย ข้าจะวางตัวสูงส่งไปเพื่อสิ่งใด ข้าเพียงต้องการอยู่กับจิ่งเอ้อร์และดูแลเขาเท่านั้น"
ดวงตาของซูหนานอีหันมามองแม่นางข้างๆ "แม่นางผู้นี้......เป็นนายใดในจวนอ๋องเป่ยลี้กัน? มองดูแล้วน่าเกรงขามมิน้อย"
หยุนหลิ่วแทบสำลัก รอยยิ้มอันอ่อนโยนของนางกล่าวว่า "ข้าหรือจะเป็นนาย? คุณหนูซูอย่าได้ล้อข้าเล่นเลย"
ซูหนานอีมองดูนางด้วยรอยยิ้ม หยุนหลิ่วเพียงรู้สึกว่าดวงตาคู่นี้ช่างสว่างไสว ทำให้หัวใจของนางตึงเครียดขึ้นมา
"คุณหนูซูเจ้าคะ เชิญเข้ามาเร็วๆเถิด อย่าให้ไท่เฟยรอนาง"
หยุนจิ่งดึงซูหนานอีเข้าไปในเรือยโดยมิแม้แต่จะเหลียวมองหยุนหลิ่ว
"เสด็จแม่ พวกเรามาแล้ว" หยุนจิ่งตะโกนขึ้นทันทีที่ก้าวเข้าไปมายังประตู "เตรียมขนมไว้แล้วหรือยัง?"
ไท่เฟยได้ยินบทสนทนาที่เพิ่งเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน นางรู้สึกประทับใจกับวลีของซูหนานอียิ่งนัก "ข้าแค่อยากจะใช้ชีวิตกับจิ่งเอ้อร์"
"จิ่งเอ้อร์หิวหรือไม่?" ไท่เฟยยิ้มและโบกมือเรียก "มาหาแม่สิ แม่เตรียมไว้ให้แล้ว"
หยุนจิ่งมองดูขนมบนโต๊ะท่าทางค่อนข้างพอใจ "มิใช่ว่าข้าหิวหรอกท่านแม่ แต่เหนียงจื่ออยากกิน"
ซูหนานอีรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่ไท่เฟยกลับหัวเราะคิกคัก "เอาล่ะ ข้าฟังตามจิ่งเอ้อร์ต้องการ"
หยุนจิ่งแบ่งติ่มซำรสเลิศอย่างละครึ่งลงในจานแล้วส่งให้ซูหนานอี "เหนียงจื่อ เชิญชิมดู"
ซูหนานอีคารวะไท่เฟยก่อน ส่วนไท่เฟยก็ได้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "คุณหนูซูมิต้องเกรงใจไป จิ่งเอ้อร์ให้ท่านแล้ว รับไว้เถิด"
ซูหนานอีหยิบจานขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้าง นางมิได้หิวจริงๆ แต่นางต้องชิมทุกอย่างเพราะสายตาของหยุนจิ่งที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
"เหนียงจื่อ อร่อยหรือไม่? เพียงพอหรือไม่?"
"อร่อยมาก สิ่งที่จิ่งเอ้อร์ให้มาล้วนอร่อยทั้งนั้น ข้าพอแล้วละ" ซูหนานอีพยักหน้า
ปากของหยุนจิ่งเปิดกว้างและยิ้มขึ้น ดวงตาของเขามีเพียงซูหนานอีเท่านั้น
ไท่เฟยมองไปอย่างมีความสุข "คุณหนูซู เมื่อใดที่มีเวลาว่างก็สามารถเดินทางมาเล่นกับหยุนจิ่งได้ที่นี่ จวนอ๋องเป่ยลี้ของเรามิได้มีกฎเกณฑ์ใดมากมายนัก ตราบใดที่ทำให้จิ่งเอ้อร์มีความสุขได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็มิสำคัญ"
การวางตัวและนิสัยของไท่เฟยช่างเป็นที่พึงพอใจสำหรับซูหนานอียิ่ง นางจึงโค้งตัวกล่าวว่า "เพคะ หนานอีเข้าใจแล้ว"
ไท่เฟยชอบท่าทางอันตรงไปตรงมาของนาง ยิ่งมองยิ่งชอบ ดีกว่าซูหว่านเอ้อร์จอมเสแสร้งมากนัก
หยุนหลิ่วเดินไปยังโต๊ะน้ำชาและยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น "ไท่เฟยเพคะ ชาเย็นหมดแล้ว ข้าน้อยจะทำมาให้อีกถ้วย"
"อืม" ไท่เฟยกล่าวกับซูหนานอีว่า "คุณหนูซูอาจจะมิรู้ ทักษะการชงชาของหยุนหลิ่วยอดเยี่ยมยิ่ง ประเดี๋ยวจงลองลิ้มรสดู"
คิ้วของซูหนานอีขมวดขึ้นอย่างมิรู้ตัว ชงชางั้นหรือ?
เมื่อหยุนหลิ่วได้ยินคำชมของไท่เฟยจึงยิ้มอย่างนุ่มนวล "ไท่เฟยชมกันเกินไปแล้วเพคะ เพียงแค่ทักษะเล็กน้อย กลับชมข้าเสียใหญ่ ข้าอายคุณหนูซูนะเพคะ"
ซูหนานอีหัวเราะเยาะอยู่ในใจ หยุนหลิ่วนี้ความสามารถสูงกว่าซูหว่านเอ้อร์มาก โจมตีนางโดยมิมีใครขัดขวางและมิส่งเสียงใดๆ
หยุนจิ่งดึงแขนเสื้อของซูหนานอี "เหนียงจื่อ รู้วิธีชงชาไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ