คำถามของหยุนจิ่งทำให้กู้ซีเฉินและพระสนมเอกตะลึง จึงมองไปทางเขาด้วความไม่เข้าใจ
"ทำไม ท่านอ๋องมีอะไรไม่พอใจหรือ?"น้ำเสียงพระสนมเอกเป็นแบบตกใจ สายตามองข้ามซูหนานอีอย่างตั้งใจ
"ไม่สิ"หยุนจิ่งทำหน้าตั้งใจมาก"ข้าอยากจะรีบแต่งงานกับภรรยา อย่างนี้จะได้ให้นางมาอาศัยอยู่ในจวนอ๋อง"
กู้ซีเฉินยิ้ม"อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง แต่น่าจะไม่ได้ วันที่งานแต่งเลือกไว้แล้ว วันที่เลือกก็เป็นวันมงคล ไม่ใช่เป็นวันที่จะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้นะ"
หยุนจิ่งเม้มปาก"ก็ได้"
ในน้ำเสียงมีความเสียดาย
ในใจกู้ซีเฉินรู้สึกแปลกใจ สายตามองไปที่ซูหนานอี เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรพิเศษ ทำให้หยุนจิ่งชอบขนาดนี้
ซูหนานอีเห็นสายตาที่มองมา อดทนตัวเองไม่ให้มีความรู้สึกรังเกียจ ทำหน้าไม่สนใจ ยืนนิ่งอยู่กับที่
กู้ซีเฉินก็มองอะไรไม่ออกเลย"อย่างนี้ละกัน เจิ่นพระราชทานสิ่งของบางอย่าง ก็ถือว่าแทนน้ำใจของเจิ้นแล้ว"
จักรพรรดิพระราชทาน เป็นสิ่งที่ควรภูมิใจมาก
ซูหนานอีก้มตัวลง"ขอบพระทัยฝ่าบาท"
นางไม่ปฏิเสธแน่นอน เพราะของที่กู้ซีเฉินให้ เป็นของดีแน่นอน นางเอาไปขาย เอาเงินที่ขายไปซื้อยาที่หายากและเเพงมาให้หยุนจิ่ง
"ไม่ต้องพิธีรีตอง"กู้ซีเฉินพูด"หยุนจิ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจิ้น พระชายาเป็นพระปิตุจฉาของเจิ้น ผ่านงานแต่งไปแล้วเราก็เป็นคนครอบครัวเดียวกัน แม่นางซูต้องดูแลหยุนจิ่งดีๆนะ เจิ้นก็จะขอบคุณที่เจ้าทำ"
ทำให้คนรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ แต่น่าเสียดาย……
พูดแบบนี้แค่ทำให้ซูหนานอีรู้สึกจะอวก ใครจะเป็นคนครอบครัวเดียวกันกับเจ้าล่ะ!
พอแสดงความรักใคร่ของพี่น้องเสร็จ กู้ซีเฉินก็เคลื่อนขบวนกับพระสนมเอกกลับพระราชวัง
ซูหนานอีถอนหายใจออกมา ใจที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลายลงมา
หยุนจิ่งดึงซูหนานอีวิ่งไปป่าไม้เมเปิ้ลที่อยู่ข้างหลัง
ที่นี่มีต้นไม้เต็มไปหมด แสงแดดส่องผ่านช่องว่างใบไม้และตกลงมาบนพื้น เงาแสงแดดขยับไปตามลมพัด ใบไม้อยู่บนหัว แม้ว่าความร้อนยังหายไปเลย
"ภรรยา เจ้าว่าที่นี่ดีไหม?"หยุนจิ่งเหมือนเป็นการเสนอสิ่งดีๆเลย"เมื่อก่อนข้ามาที่นี่บ่อยมาก แต่ว่าแม่บอกว่าไม่ให้ไปไกล ก็เลยมาไม่ค่อยบ่อยแล้ว"
"ดี ที่นี่ดีจริงๆ"ซูหนานอีมองไปทาฝป่าไม้เมเปิ้ลที่กว้างใหญ่"ตอนนี้ยังสวยขนาดนี้ ถ้าถึงฤดูใบไม้ร่วง สวยกว่านี้แน่นอน"
"ถึงฤดูใบไม้ร่วง ข้าจะพาภรรยามาที่นี่อีก!"หยุนจิ่งยิ้มไปด้วยพูดไปด้วย"ที่นั่นยังมีบ่อน้ำด้วย ข้าพาเจ้าไปดู!"
หยุนจิ่งจับซูหนานอีวิ่งผ่านป่าไม้ ลมเย็นๆพัดมา อารมณ์ของซูหนานอีก็เริ่มดีขึ้น
อย่างที่คิด เดินไปไม่ไกลก็เห็นบ่อน้ำดอกบัว
"เอ๊ ที่นี่มีดอกบัวมาเมื่อไหร่?"หยุนจิ่งแปลกใจ"เมื่อก่อนมีแต่บ่อน้ำ ในน้ำยังมีปลาเยอะแยะเลย แต่ว่ามีดอกบัวก็สวยนะ"
ซูหนานอีมองไป ดอกบัวพวกนี้ลักษณะที่อ่อนโยนและสง่างามในขณะลมพัดมา แล้วก็มีกลิ่นหอมด้วย
แต่ทว่า……
นางดมกลิ่นแล้วรู้สึกว่านอกเหนือจากกลิ่นหอมของดอกบัวยังมีอีกกลิ่นหนึ่ง เบามาก ดมไม่ออกว่าเป็นกลิ่นอะไร
นางต้องดมกลิ่นของยาตลอด ในด้านกลิ่นนางก็จะรู้ดีกว่าคนอื่น
กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินมีคนที่อยู่ไม่ไกลตะโกนมาว่า"ทำอะไร?"
หยุนจิ่งรีบบังอยู่ข้างหน้าของซูหนานอี ทำท่าปกป้องนาง และพูดกับฝั่งนั้นว่า:"พวกเจ้าเป็นใคร?"
สองคนที่เหมือนคนรับใช้เดินมาจากหลังต้นไม้ พวกเขาเดินมาเห็นว่าเป็นหยุนจิ่ง รีบทำความเคารพ"เป็นท่านอ๋องยี่เอง พวกบ่าวไม่ทราบว่าเป็นท่านอ๋อง ขอประทานโทษขอรับท่านอ๋อง"
ซูหนานอีมองพวกเขาสองคน ใส่เสื้อคลุมคอกลม เป็นการเย็บที่ถือว่าใช้ได้ น่าจะไม่ใช่เป็นคนรับใช้ธรรมดา
หยุนจิ่งไม่รู้จักพวกเขา"พวกเจ้าคือใคร?"
"พวกบ่าวเป็นข้าน้อยที่จวนแม่ทัพใหญ่ อยู่ที่นี่ใส่ปุ๋ยให้ดอกบัวขอรับ"
จวนแม่ทัพใหญ่?นั่นไม่ใช่เป็นบ้านเกิดของพระสนมเอกหรือ?
หยุนจิ่งถามว่า:"ใส่ปุ๋ยให้ดอกบัว?พวกเจ้าเป็นคนปลูกดอกบัวหรือ?"
"บ่าวจะมีความสามารถนั้นได้อย่างไร กั๋วจิ้วเหย่เป็นคนปลูกขอรัล บ่าวก็แค่ช่วยใส่ปุ๋ย"
กั๋วจิ้วเหย่ น้องชายของพระสนมเอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ