ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ นิยาย บท 25

คำถามของหยุนจิ่งทำให้กู้ซีเฉินและพระสนมเอกตะลึง จึงมองไปทางเขาด้วความไม่เข้าใจ

"ทำไม ท่านอ๋องมีอะไรไม่พอใจหรือ?"น้ำเสียงพระสนมเอกเป็นแบบตกใจ สายตามองข้ามซูหนานอีอย่างตั้งใจ

"ไม่สิ"หยุนจิ่งทำหน้าตั้งใจมาก"ข้าอยากจะรีบแต่งงานกับภรรยา อย่างนี้จะได้ให้นางมาอาศัยอยู่ในจวนอ๋อง"

กู้ซีเฉินยิ้ม"อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง แต่น่าจะไม่ได้ วันที่งานแต่งเลือกไว้แล้ว วันที่เลือกก็เป็นวันมงคล ไม่ใช่เป็นวันที่จะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้นะ"

หยุนจิ่งเม้มปาก"ก็ได้"

ในน้ำเสียงมีความเสียดาย

ในใจกู้ซีเฉินรู้สึกแปลกใจ สายตามองไปที่ซูหนานอี เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรพิเศษ ทำให้หยุนจิ่งชอบขนาดนี้

ซูหนานอีเห็นสายตาที่มองมา อดทนตัวเองไม่ให้มีความรู้สึกรังเกียจ ทำหน้าไม่สนใจ ยืนนิ่งอยู่กับที่

กู้ซีเฉินก็มองอะไรไม่ออกเลย"อย่างนี้ละกัน เจิ่นพระราชทานสิ่งของบางอย่าง ก็ถือว่าแทนน้ำใจของเจิ้นแล้ว"

จักรพรรดิพระราชทาน เป็นสิ่งที่ควรภูมิใจมาก

ซูหนานอีก้มตัวลง"ขอบพระทัยฝ่าบาท"

นางไม่ปฏิเสธแน่นอน เพราะของที่กู้ซีเฉินให้ เป็นของดีแน่นอน นางเอาไปขาย เอาเงินที่ขายไปซื้อยาที่หายากและเเพงมาให้หยุนจิ่ง

"ไม่ต้องพิธีรีตอง"กู้ซีเฉินพูด"หยุนจิ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจิ้น พระชายาเป็นพระปิตุจฉาของเจิ้น ผ่านงานแต่งไปแล้วเราก็เป็นคนครอบครัวเดียวกัน แม่นางซูต้องดูแลหยุนจิ่งดีๆนะ เจิ้นก็จะขอบคุณที่เจ้าทำ"

ทำให้คนรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ แต่น่าเสียดาย……

พูดแบบนี้แค่ทำให้ซูหนานอีรู้สึกจะอวก ใครจะเป็นคนครอบครัวเดียวกันกับเจ้าล่ะ!

พอแสดงความรักใคร่ของพี่น้องเสร็จ กู้ซีเฉินก็เคลื่อนขบวนกับพระสนมเอกกลับพระราชวัง

ซูหนานอีถอนหายใจออกมา ใจที่ตึงเครียดก็ผ่อนคลายลงมา

หยุนจิ่งดึงซูหนานอีวิ่งไปป่าไม้เมเปิ้ลที่อยู่ข้างหลัง

ที่นี่มีต้นไม้เต็มไปหมด แสงแดดส่องผ่านช่องว่างใบไม้และตกลงมาบนพื้น เงาแสงแดดขยับไปตามลมพัด ใบไม้อยู่บนหัว แม้ว่าความร้อนยังหายไปเลย

"ภรรยา เจ้าว่าที่นี่ดีไหม?"หยุนจิ่งเหมือนเป็นการเสนอสิ่งดีๆเลย"เมื่อก่อนข้ามาที่นี่บ่อยมาก แต่ว่าแม่บอกว่าไม่ให้ไปไกล ก็เลยมาไม่ค่อยบ่อยแล้ว"

"ดี ที่นี่ดีจริงๆ"ซูหนานอีมองไปทาฝป่าไม้เมเปิ้ลที่กว้างใหญ่"ตอนนี้ยังสวยขนาดนี้ ถ้าถึงฤดูใบไม้ร่วง สวยกว่านี้แน่นอน"

"ถึงฤดูใบไม้ร่วง ข้าจะพาภรรยามาที่นี่อีก!"หยุนจิ่งยิ้มไปด้วยพูดไปด้วย"ที่นั่นยังมีบ่อน้ำด้วย ข้าพาเจ้าไปดู!"

หยุนจิ่งจับซูหนานอีวิ่งผ่านป่าไม้ ลมเย็นๆพัดมา อารมณ์ของซูหนานอีก็เริ่มดีขึ้น

อย่างที่คิด เดินไปไม่ไกลก็เห็นบ่อน้ำดอกบัว

"เอ๊ ที่นี่มีดอกบัวมาเมื่อไหร่?"หยุนจิ่งแปลกใจ"เมื่อก่อนมีแต่บ่อน้ำ ในน้ำยังมีปลาเยอะแยะเลย แต่ว่ามีดอกบัวก็สวยนะ"

ซูหนานอีมองไป ดอกบัวพวกนี้ลักษณะที่อ่อนโยนและสง่างามในขณะลมพัดมา แล้วก็มีกลิ่นหอมด้วย

แต่ทว่า……

นางดมกลิ่นแล้วรู้สึกว่านอกเหนือจากกลิ่นหอมของดอกบัวยังมีอีกกลิ่นหนึ่ง เบามาก ดมไม่ออกว่าเป็นกลิ่นอะไร

นางต้องดมกลิ่นของยาตลอด ในด้านกลิ่นนางก็จะรู้ดีกว่าคนอื่น

กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินมีคนที่อยู่ไม่ไกลตะโกนมาว่า"ทำอะไร?"

หยุนจิ่งรีบบังอยู่ข้างหน้าของซูหนานอี ทำท่าปกป้องนาง และพูดกับฝั่งนั้นว่า:"พวกเจ้าเป็นใคร?"

สองคนที่เหมือนคนรับใช้เดินมาจากหลังต้นไม้ พวกเขาเดินมาเห็นว่าเป็นหยุนจิ่ง รีบทำความเคารพ"เป็นท่านอ๋องยี่เอง พวกบ่าวไม่ทราบว่าเป็นท่านอ๋อง ขอประทานโทษขอรับท่านอ๋อง"

ซูหนานอีมองพวกเขาสองคน ใส่เสื้อคลุมคอกลม เป็นการเย็บที่ถือว่าใช้ได้ น่าจะไม่ใช่เป็นคนรับใช้ธรรมดา

หยุนจิ่งไม่รู้จักพวกเขา"พวกเจ้าคือใคร?"

"พวกบ่าวเป็นข้าน้อยที่จวนแม่ทัพใหญ่ อยู่ที่นี่ใส่ปุ๋ยให้ดอกบัวขอรับ"

จวนแม่ทัพใหญ่?นั่นไม่ใช่เป็นบ้านเกิดของพระสนมเอกหรือ?

หยุนจิ่งถามว่า:"ใส่ปุ๋ยให้ดอกบัว?พวกเจ้าเป็นคนปลูกดอกบัวหรือ?"

"บ่าวจะมีความสามารถนั้นได้อย่างไร กั๋วจิ้วเหย่เป็นคนปลูกขอรัล บ่าวก็แค่ช่วยใส่ปุ๋ย"

กั๋วจิ้วเหย่ น้องชายของพระสนมเอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ