หยุนจิ่งกินน้ำตาลปั้นอยู่ เหมือนไม่ได้เข้าใจความหมายในคำพูดของซูหนานอี
"หยุนหลิ่วก็คือหยุนหลิ่วไง นางไม่มีความเกี่ยวข้องกับข้าเลย"
"......"ซูหนานอี
ช่างเถอะ ยังไงหยุนหลิ่วคนนี้ตกลงเป็นใครมันก็ไม่สำคัญ
"จิ่งเอ้อร์ ถุงหอมนี้เอาให้ข้าละกัน?"
"ได้สิ ภรรยาชอบก็เอาไปเลย!"
ซูหนานอีก็ไม่มีอารมณ์กินเสี่ยวหลงเปาอีก รู้สึกแต่ว่าพื้นที่ที่กู้ซีเฉินนั่งไปนั้นน่าเกลียดมาก ส่วนหยุนจิ่งก็อิ่มแล้ว ก็เลยจ่ายเงินแล้วเดินลงไป ซื้อขนมหน่อยนึง และก็ไปที่แผงขายหนังสือ ซื้อหนังสือหลายเล่มที่น่าสนใจ พอเดินเที่ยวตลาดเสร็จ สองคนก็ขึ้นรถม้าของจวนอ๋อง ซูหนานอีให้รถม้าเดินมั่วๆไปสองรอบก่อน พอแน่ใจว่าข้างหลังไม่มีคนตามอีก ถึงไปที่ถนนหย่งติ้ง ตอนที่ผ่านหน้าประตูของจวนหลี่ บังเอิญได้เห็นหลายคนยืนอยู่หน้าประตู คนหนึ่งในนั้น เป็นคนใช้ที่วิ่งไล่ตามหลี่จิ้งหว่านนั่นเอง เขากำลังพูดกับคนอื่นอยู่ ฟังไม่ค่อยชัดเจน จากนั้นซูหนานอีก็วางผ้าม่านรถม้าลง คนของจวนหลี่คิดไม่ถึงแน่นอนว่า หลี่จิ้งหว่านที่พวกเขาหาอยู่นั้น อยู่บนถนนเดียวกันกับพวกเขา
รถม้าหยุดลง ซูหนานอีและหยุนจิ่งลงรถม้า ให้คนขับรถม้าจากไป และเตือนเขาว่าให้ขับไปเที่ยวอีกหลายที่ค่อยกลับจวน
พอเข้ามาในเรือน ก็เห็นร่างกายที่สง่างาม กำลังแขวนเสื้อผ้าโดยหันหลังให้พวกเขาอยู่ พอได้ยินเสียงคนนั้นก็หันมา เมื่อเห็นซูหนานอีก็พูดอย่างตกใจ"คุณหนูซู เจ้ามาแล้วหรือ!"
พอนางอ้าปาก ซูหนานอีถึงมองออกว่า ที่แท้เป็นหลี่จิ่งหว่านนี่เอง
เวลาสักครู่นี้ก็ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปมากเลย หลี่จิ้งหว่านได้ใส่กระโปรงสีเหลืองอ่อน เผยให้เห็นผิวขาวราวกับหยก ผมก็ได้ล้างแล้ว หวีอย่างเป็นระเบียบ บนศีรษะยังคงเป็นปิ่นปักผมที่ทำจากไม้อันนั้น เดิมทีนางก็มีหน้าตาที่สวยและมีเสน่ห์ ไม่ใช่แบบที่มองแล้วน่าทึ่งทันที แต่สามารถทำให้คนยิ่งมองยิ่งรู้สึกสวย
ซูหนานอีหัวเราะเบาๆ"คุณหนูหลี่ นี่แค่แยกกันนานขนาดไหนเอง ก็ทำให้ข้าเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่แล้ว"
หลี่จิ้งหว่านก็ไม่ได้เกรงใจ"นี่เป็นสิ่งที่เพื่อนของท่านให้ข้า ขอบพระคุณบุญคุณของท่านเป็นอย่างยิ่ง คุณหนูซู ถ้ามีตรงไหนต้องการความช่วยเหลือของข้า ข้าจะพยายามทำให้เต็มที่"
รอยยิ้มของซูหนานอีลึกกว่าเดิม"คุณหนูหลี่ไม่ต้องเกรงใจ ตอนที่มา ได้เห็นประตูบ้านใช่ไหม?"
หลี่จิ้งหว่านพยักหน้า พูดตามตรง ตอนนั้นนางตกใจจริงๆ ยังนึกว่าจะส่งนางกลับไปอีก
"เจ้าบอกข้ามาได้ไหม ตกลงเจ้าเป็นใคร?"ซูหนานอีถามอย่างตั้งใจ
หลี่จิ้งหว่านตะลึง"ข้าก็คือหลี่จิ้งหว่านแท้ๆ"
ซูหนานอีเลิกคิ้ว"หลายวันก่อนข้าไปจุดธูปที่วัด คนที่ไปด้วยยังมีคุณหนูตระกูลหลี่ด้วย ได้ข่าวว่าชื่อหลี่จิ้งหว่านเหมือนกัน แต่......"
เมื่อกี้ที่ซูหนานอีฟังหลี่จิ้งหว่านแนะนำตัวเองที่ซอยก็นึกขึ้นมาได้ว่า ในวันนั้นที่ไปจุดธูปกับพระสนมเอก ก็มีคุณหนูของตระกูลหลี่ หลี่จิ้งหว่าน แล้วหากคนต่อหน้าคนนี้เป็นหลี่จิ้งหว่าน แล้ว คนที่ไปจุดธูปนั้นเป็นใครล่ะ?
หลี่จิ้งหว่านเข้าใจขึ้นมาทันที"ที่แท้แล้วแล้วคุณหนูซูก็ได้ไปจุดธูปด้วย ไม่น่า ข้าเป็นหลี่จิ้งหว่านแท้ๆ คนที่ไปเป็นน้องสาวต่างมารดา ชื่อหลี่จิ้งหมิ่น"
"น้องสาวต่างมารดา?"ซูหนานอีนึกถึงสถานการณ์ของวันนั้น การแต่งกายและบุคลิกของคุณหนูหลี่คนนั้นไม่เหมือนเป็นลูกสาวของเมียน้อย
"ใช่ไง"หลี่จิ้งหว่านหัวเราะเยาะตัวเอง"รู้สึกว่านางมีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีกว่าข้าในฐานะที่เป็นลูกที่ออกโดยเมียหลวงใช่ไหม?แม่เลี้ยงของข้าเป็นน้าของข้าด้วย เดิมทีนางเป็นเมียน้อยของพ่อข้า หลังจากที่แม่ของข้าเสียชีวิต นางก็ถูกยกย่องเป็นเมียหลวง หลี่จิ้นหมิ่นก็จากลูกของเมียน้อยกลายเป็นลูกของเมียหลวง"
"เดิมทีเรื่องที่ไปจุดธูปทางพระราชวังให้ลูกสาวคนโตไป แต่แม่เลี้ยงของข้ารู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ก็เลยวางแผนให้หลี่จิ้งหมิ่นไปแทน ข้าก็ไม่อยากไปร่วมงานแบบนี้ ก็เลยทำตามนางไป"
การพูดของหลี่จิ้งหว่านเรียบเรียงได้ดีมาก ไม่นานก็เล่าเรื่องทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจน
"แล้ว ได้ข่าวว่าคุณหนูหลี่หายตัวไป คือเกิดอะไรขึ้น?หมายถึงเจ้าหรือ?"
"ไม่ใช่หรอก"หลี่จิ้งหว่านส่ายหน้า"คือหลี่จิ้งหมิ่น ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะหลังจากที่นางออกไปแล้วก็ไม่ได้กลับมาอีก มีคนบอกว่านางหนีกับผู้ชาย แต่ข้าว่ามันไม่ใช่"
ซูหนานอีเห็นนางมั่นใจขนาดนี้ จึงถามด้วยความแปลกใจ"เพราะเหตุใด?"
"หลังจากหลี่จิ้งหมิ่นจุดธูปกลับมาก็ภูมิใจมาก นางว่าตั้งแต่ที่นางไปจุดธูปกลับมาก็มีผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ นางบอกว่ากั๋วจิ้วเหย่ชอบนาง บอกว่าจะแต่งงานกับนาง ดังนั้น นางจะไปหนีกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไงล่ะ?"
คิ้วของซูหนานอีกระโดดเล็กน้อย"หลี่ชูยวี่?นางบอกว่าหลี่ชูยวี่ชอบนางหรือ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ