ลู่ซือหยวนมองไปที่นกน้อย หรี่ตาลงเล็กน้อย "เซี่ยหร่านส่งมาให้เจ้าหรือ"
"อืม" ซูหนานอีเดินเข้าไปใกล้ แล้วนำท่อนไม้ไผ่เล็กที่ผูกติดอยู่ที่ส่วนขาของนกน้อยออกมา แล้วเปิดออกดู "เซี่ยหร่านบอกว่าที่ถนนคนเดินมีเรื่องทะเลาะกันจะไปดูเสียหน่อย ให้ข้ารออยู่ที่นี่"
ซูหนานอีจับนกมาไว้บนฝ่ามือ ค่อยลูบขนของมัน แววตาตาคมของนกน้อยเป็นสีเขียวไหวติงไปมา
มือของลู่ซือหยวนไปโดนกรงเล็บของนก "นกตัวนี้น่าจะไม่ใช่นกธรรมดาทั่วไป"
"ถึงจดหมายนกพิราบไม่ค่อยปลอดภัย แต่ในอนาคตนกตัวนี้สามารถช่วยข้าได้ "ซูหนานอีล้วงเอาเม็ดสีเหลืองออกมาจากถุงหอมออกมาวางไว้บนฝ่ามือ นกน้อยก็รีบจิกกินทันที
"เจ้าได้ข่าวคราวของพ่อแม่เจ้าหรือยัง"
ขนตาของซูหนานอีสั่นระริก "ยัง ข้าอยากจัดการเรื่องของหุบเขาเทวดาทางนี้ก่อนค่อยว่ากัน ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่วางใจ"
ลู่ซือหยวนพยักหน้า หยุนจิ่งเดินมาพร้อมกระดาษที่เขียนตัวอักษร "เหนียงจื่อ เจ้าดูนี่ จิ่งเอ้อร์เขียนสวยมั้ย"
ซูหนานอีมองดู อักษรที่อยู่บนกระดาษเขียนได้สวยมาก ปลายเส้นคมล้วนตวัดอย่างสวยงาม หล่อนก็รู้สึกสับสนใจเล็กน้อย "เขียนได้ไม่เลว จิ่งเอ้อร์เขียนตัวอักษรสวยจริงๆ เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า อักษรนี้ใครเป็นคนสอนเจ้า"
"……" หยุนจิ่งพยายามคิดอยู่สักพัก สุดท้ายก็ส่ายหน้า "จำไม่ได้แล้ว"
"จำไม่ได้แล้วก็ไม่เป็นไร" ซูหนานอีเอ่ยปลอบเขา "เขียนได้สวยก็พอแล้ว"
หยุนจิ่งที่ได้ยินนางพูดปลอบก็ดีใจขึ้นมาอีกครั้ง มองเห็นนกน้อยตาก็วาวขึ้นมาทันใด "ข้าเล่นกับมันได้มั้ย"
"ได้สิ" ซูหนานอียื่นนกน้อยไปให้เขา หยุ่นจิ่งก็ค่อยๆ รับมาอย่างระมัดระวังแล้วเอามากอดไว้แนบอก
พูดไปก็แปลก นกชนิดนี้มักจะไม่ให้คนเข้าใกล้ ที่ไม่ต่อต้านซูหนานอีกับลู่ซือหยวนเพราะว่าพวกเขาเคยเจอมันมาก่อน
แต่กับหยุนจิ่ง นี่ถือเป็นครั้งแรก
นกน้อยแหงนหน้ามองหยุนจิ่ง หัวน้อยๆ ก็ถุยกับนิ้วมือของเขา หดตัวเขาไปหาและซบที่อกเขาแล้วก็ค่อยๆ หรี่ตาลงจากนั้นก็หลับไป
ซูหนานอีเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "จิ่งเอ้อร์ เจ้านกน้อยนี่ชอบเจ้านะ"
"ข้าก็ชอบมัน" หยุนจิ่งพูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมพูดเสริม "แต่ข้าชอบมากที่สุดก็ยังเป็นเหนียงจื่อ"
ซูหนานอีถึงกับหุบยิ้ม
ระยะเวลาฝังเข็มก็น่าจะได้แล้ว ซูหนานอีเลยหันไปดูลู่ซือหยวนดื่มยาอีกครั้งถึงจะถือเป็นการเสร็จธุระ
และเวลานี้เซี่ยหร่านก็มาถึงแล้ว
พอเข้ามาเขาก็พูดหน้าตาตื่น: "พวกเจ้าล้วนอยู่กันที่นี่พอดี พวกเจ้าลองเดาดูสิว่า ระหว่างทางที่อยู่ถนนคนเดินข้าไปเจออะไรมา"
ลู่ซือหยวนนิ่งไม่ปริปาก แต่หยุนจิ่งถามด้วยสีหน้าอยากรู้ "เจออะไรมาหรือ"
ซูหนานอีครุ่นคิด : "หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ศาลจิงจ้าว"
เซี่ยหร่านตบที่หน้าขาของตัวเอง "หึม เจ้ารู้ได้อย่างไร แต่ไม่ใช่ศาลจิงจ้าวหรอกที่เกิดเรื่อง เป็นคุณชายน้อยของบ้านท่านโจวช่างชู บุกไปด้วยท่าทางโกรธ"
"หลังจากนั้นล่ะ" ซูหนานอีถามต่อ
"หลังจากนั้นหรือ หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ทะเลาะมีปากเสียงกัน ไม่มีใครยอมใคร ได้ยินว่าเป็นเพราะหญิงสาวคนหนึ่ง" แววตาของเซี่ยหร่านเหมือนกับพวกที่ชอบนินทา "เจ้าว่าใต้เท้าจ้าวผู้นี้ไม่กลัวที่จะติดคุกตอนแก่หรือยังไง"
ซูหนานอีที่กำลังยกชาขึ้นดื่ม เกือบจะพ่นออกมาแล้ว "เจ้าคิดไปถึงไหนกัน เจ้าไม่ชอบเขาก็ไม่ควรที่จะว่าเขาอย่างนี้"
เซี่ยหร่านเหลือบตามองบน "แล้วไง"
"เพื่อหญิงสาวที่อยู่บนเรือบุปผานั่น" หยุนจิ่งเอ่ยพูด เหมือนกลัวว่าเสียงดังจนทำให้นกน้อยตื่น "ข้าเห็นนางถูกพาไปที่หน้าจวนที่ว่าการแล้วนี่"
"เหอะ!" เซี่ยหร่านทำหน้าดีใจ "ยังมีข่าวลืออย่างนี้ด้วยหรือ หญิงบนเรือบุปผาอะไรนั่น เขาคือ……"
ซูหนานอีพูดแทรกขึ้น "หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว เดิมทีหญิงสาวคนนั้นเป็นหญิงร้องเพลงอยู่บนเรือบุปผา ถูกโจวเฉิงพากลับไปที่จวน แต่ตระกูลโจวไม่ยอมรับ ดูถูกเหยียดหยามนางสารพัด นางเลยหาโอกาสตอนที่คนไม่ทันระวังแอบหนีออกมา และได้วิ่งไปขวางทางเกี้ยวของใต้เท้าจ้าว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ