ซูหว่านเอ้อร์เหมือนกับท้อแท้ เมื่อสักครู่ยังพูดกัดอยู่เลยว่าชุนหลิงแว้งกัดตัวเอง ตอนนี้ยังไม่มีความมั่นใจ แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ นางก็ยังจ้องไปทางชุนหลิง อยากจะรีบเข้าไปฆ่านางให้ตายซะ
เรื่องมาถึงตอนนี้ชุนหลิงก็ไม่เกรงกลัวแล้ว ก้มหน้าลงแล้วแต่นางจะมอง
ซูซืออวี้ที่ตอนนี้สับสนว้าวุ่น อยากจะให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว และไม่อยากคิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับซูหว่านเอ้อร์ เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องมากเกินไปแล้ว
เขาสั่งคนนำชายกเข้ามา ไม่มีใครปริปากเอ่ยสักคน
ส่วนทางนี้นั้นเงียบผิดปกติ เซี่ยเถาถือโอกาสมาหาแม่นางแซ่หลิว กำชับนางให้อยู่เงียบๆ ไปก่อน อย่าพึ่งเข้าไปแทรก และก็ห้ามไปมีเรื่องบาดหมางกับซูหนานอีเด็ดขาด
แม่นางแซ่หลิ่วถามทันทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เซี่ยเถาเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้นางฟัง จากนั่งกำชับนางอีกสักกี่ประโยคแล้วก็รีบออกไป
แม่นางแซ่หลิ่วยกมือขึ้นมาสาวพู่ที่อยู่ข้างหู มองดูเองในกระจก หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี นางถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินไปที่เรือนเซี่ยชื่อ
ระยะเวลาสองสามวันมานี้ เซี่ยชื่อมีสภาพทรุดโทรมดูไม่ได้เอาเสียเลย ใบหน้าซีดหมอง ไม่มีอารมณ์แม้แต่จะหวีผม ดูแก่ลงไปมาก เหมือนกับแกกว่าเดิมถึงสิบปี
พอเห็นแม่นางแซ่หลิ่วเดินมา เซี่ยชื่อก็รู้ได้ทันทีว่าพี่ใหญ่ให้นางมาช่วย แต่ในใจก็รู้สึกอิจฉาอย่างปิดไม่มิด แล้วพยายามนั่งยืดตัวตรงแล้วนำเงินออกมาวาง
"เจ้ามีธุระอันใด"
แม่นางแซ่หลิ่วมีสีหน้าแตกตื่น ถอยออกมาเล็กน้อยแล้วมองนาง "ท่านยังไม่ทราบหรือว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคุณหนูรอง!"
"อะไรนะ!"
ซูซืออวี้กำลังนั่งอยู่เงียบๆ เหมือนกับโดนเข็มปักไว้ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเดินเข้ามาอย่างรีบเร่ง เงาตัวพุ่งเข้ามาหาตรงหน้าซูหว่านเอ้อร์
"ซูหว่านเอ้อร์ ลูกสาวของข้า ……นี่ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น"
"ท่านแม่!" ซูหว่านเอ้อร์พอเห็นนางก็บ่อน้ำตาพังทลายไหลออกมา ในที่สุดก็มีคนเข้าใจนางที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
"เป็นสาวใช้ชั้นต่ำนี่ทำร้ายลูก"
เซี่ยชื่อมองไปทางชุนหลิง ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เข้าไปตบหน้านางสองครั้ง "ต่ำทราม! หน้าไม่อาย เจ้ายังมีหน้ามีชีวิตอยู่อีก หน้าจะตายตั้งแต่อยู่ข้างนอกแล้ว จะได้ไม่มาสร้างความเสื่อมเสียให้กับจวนตระกูลซูของเรา ตัวเจ้าเองไม่รู้จักอับอาย ยังคิดมาใส่ร้ายบุตรสาวของข้าอีก! .ใครก็ได้เข้ามานี่! ,มานำหญิงต่ำทรามคนนี้ไปโบยให้ตายไปเลย!"
นางมาอย่างกับพายุลม พูดก็รวดเร็วจนซูซืออวี้ยังไม่ทันตั้งตัว จนได้ยินเสียงนางบอกว่าให้ไปโบยให้ตาย เหมือนกับถูกไม้ตีหัวถึงตั้งสติกลับมาได้
ใต้เท้าจ้าววางถ้วยชาลง ก็หัวเราะหยันดังขึ้น: "ท่านซู มิน่าบุตรสาวคนรองของท่านก่อนนี้นี้มักจะลงโทษบ่าวจนตาย สาเหตุมาจากตรงนี้นี่เอง"
ซูซืออวี้อยากจะมุดแผ่นดินหนีเลยทีเดียว เหมือนมาด่าอยู่บนปลายจมูกเขาด่าว่าตระกูลซูไม่สั่งสอนหรอกหรือ
ซูหนานอีเอ่ยเสียงเรียบ: "น้าเซี่ยช่างรู้ข่าวไวเสียจริง ไม่ต้องพูดถึงท่านอ๋อง ใต้เท้าจ้าวก็ยังอยู่ที่นี่ด้วย ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ที่ศาล แต่ก็อยู่ในช่วงไต่สวน ท่านอ๋องยังไม่ออกความคิดเห็น พอท่านเข้ามาก็คิดจะโบยคนให้ตาย บังอาจมาก"
ซูซืออวี้ทนจนทนไม่ไหวแล้ว ก็เข้าไปจับเข้าที่ข้อมือของนาง "ใครให้เจ้าออกมา ไม่ใช่สั่งกักบริเวณเจ้าหรอกหรือคำสั่งข้าไม่มีความหมายสำหรับเจ้าแล้วใช่หรือไม่"
"ท่านพี่! ไม่ใช่ข้าขัดคำสั่งท่าน เพียงแต่ข้าไม่อยากทนเห็นซูหว่านเอ้อร์ของเราไม่ได้ความเป็นธรรมอย่างนี้! นางมีนิสัยอ่อนโยนจิตใจดี จะทำ……"
"นางอ่อนโยนจิตใจดีอย่างนั้นหรือ" ซูหนานหัวเราะเบาๆ เสียงเหมือนถูกส่งออกมาจากหน้าออก "คิดวิธีร้ายกาจอย่างนี้ออกมาได้ อีกทั้งยังทำร้ายข้าหลายครั้ง ข้าก็พึ่งเคยเห็นนิสัยอ่อนโยนจิตใจงามอย่างนี้"
"เจ้า……" เซี่ยชื่อกัดฟันแน่น แต่พอมองเห็นหยุนจิ่งก็อยู่ด้วย ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก ได้แต่ฝืนกลืนลงคอ แล้วหันไปข้อร้องอ้อนวอนกับซูซืออวี้ "ท่านพี่ ซูหว่านเอ้อร์เป็นลูกในไส้ของท่าน ท่านก็เห็นนางเติบโตมายังไง นางเป็นคนยังไงท่านจะไม่รู้เชียวหรือ เพียงแค่คำพูดของสาวใช้ต่ำทรามคนนี้ก็จะ……"
ใต้เท้าเจ้าเอ่ยแทรกขึ้น "พูดอย่างนี้ไม่ถูก ข้าได้ส่งคนไปหาหลักฐานมาแล้ว ท่านซู ในจวนของท่านมีอนุภรรยาอย่างนี้ด้วยหรือ ครั้งก่อนที่ข้ามา เจอคุณหนูซูที่ไม่มีฮูหยินใหญ่ แต่คุณหนูใหญ่ก็ไม่เลวเลยที่เดียว แต่วันนี้ ……" เขาส่ายหัวเบาๆ ความหมายก็คืออย่างที่รู้กันอยู่
ตอนนี้ซูซืออวี้หน้าไม่มีสีแล้ว เขาลากเซี่ยชื่อออกไปข้างนอก "ออกไป! ไสหัวกลับเรือนของเจ้าไปซะ หากกล้าข้ามาวุ่นวายพูดจาเหลวไหลทำให้ขายหน้าอีก งั้น……ข้าก็จะส่งเจ้าไปอยู่ที่ร้านข้างนอก"
เซี่ยชื่อได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจอึ้งไม่พูดอะไรออกมา เหมือนอยากจะพูดอะไร คนของศาลที่ถูกใต้เท้าจ้าวสั่งให้ให้ออกไปหานำหลักฐานมาได้กลับมาแล้ว ทุกคนต่างมองมาที่พวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ