"หือ?" หยุนชางผงะและนานกว่าจะพูดออกมา "แม้ว่าท่านเป็นเสด็จอาของข้า แต่นับตั้งแต่ 3 ขวบเป็นต้นไป ชายหญิงนั้นต่างกัน หากในค่ายนี้ไม่สะดวกต่อข้าสักเท่าไหร่ ชางเอ๋อร์จะหาทางออกไปอยู่ในเมืองดีกว่าเจ้าค่ะ"
จิ้งอ๋องยิ้มและกล่าวว่า "หัวจิ้งพยายามที่จะเข้ามาอยู่ในค่ายทหารให้ได้ อาจเป็นเพราะว่าในค่ายนี้มีสิ่งที่พวกเขาต้องการ ดังนั้นเจ้าไม่อยากรู้ว่านางมาที่นี่เพราะเหตุใดหรือ?เจ้ามิต้องกังวล อีกสักพักเจ้าให้นางกำนัลคอยดูแลเจ้าแล้วกัน แล้วข้าจะอ่านหนังสืออยู่ด้านนอกฉากกั้น
หยุนชางก้มหน้าลงและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตนสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับจุดประสงค์ในครั้งนี้ของหัวจิ้ง จริงๆ แต่... หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง นางก็ถอนหายใจ "หากเป็นเช่นนี้ หยุนชางก็จะเชื่อฟังเสด็จลุงเจ้าค่ะ"
ขณะที่พูดก็ได้ยินเสียงของหัวจิ้งดังมาจากข้างนอก " ท่านอ๋องอยู่หรือไม่เจ้าคะ?หัวจิ้งขอพบเจ้าค่ะ"
แสงสว่างวาบผ่านดวงตาของจิ้งอ๋อง และเขายื่นมือออกจับมือหยุนชางไว้ หยุนชางขมวดคิ้ว กำลังจะดิ้นหนีออก ก็ได้ยินเสียงของจิ้งอ๋องดังขึ้นว่า "เข้ามาเถิด"
หยุนชางขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าท่าทีของจิ้งอ๋องนั้นหมายถึงอะไร หางตานางเห็นหัวจิ้งเดินเข้ามา แล้วเสียงที่อ่อนโยนของจิ้งอ๋องก็ดังขึ้นข้างหูของตน "เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว คราวหน้าข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าห่างจากข้าเกินสามฟุตแล้ว มิเช่นนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้น เจ้าจะให้ข้าอยู่อย่างไร?" หยุนชางผงะ หันหน้าและเห็นแววตาของจิ้งอ๋องเต็มไปด้วยความอ่อนโยน นางอึ้งอยู่กับที่โดยไม่รู้ตัว
"เสด็จลุงเจ้าคะ จิ้งเอ๋อร์ของคารวะเจ้าค่ะ" หัวจิ้งเห็นเช่นนี้ก็เก้อเขินเล็กน้อย ดวงตาของนางจับจ้องไปที่หยุนชาง หยุนชางรู้สึกได้ว่ามือของเขาคลายลงเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงรีบดึงมือออกและเดินไปด้านหลังฉากกั้น
เสียงของจิ้งอ๋องดังมาจากข้างนอก "วันนี้องค์หญิงหัวจิ้งคงตกใจอย่างมาก ดังนั้นเจ้าควรพักผ่อนให้เพียงพอ เจ้ามาหาข้าในยามดึกเช่นนี้เพื่อการอันใดหรือ?"
"หัวจิ้ง…" หัวจิ้งหยุดชะงัก ราวกับไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงพูดว่า "หัวจิ้งรู้สึกแปลกๆ เจ้าค่ะ หัวจิ้งไม่ได้พาผู้ติดตามมาที่ชายแดนมากเท่าไห่รนัก แต่กลับไม่เคยเจอเหตุการณ์ลอบสังหาร แต่ในวันแรกที่มาถึงเมืองซีอี ก็มีผู้ลอบสังหาร...เสด็จลุงเจ้าคะ นี่มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะ?"
จิ้งอ๋องหายใจออกแรงๆอย่างเย็นชา "ดูบังเอิญเสียจริง แต่ตอนนี้องค์หญิงอยู่ในค่ายแล้ว และมีทหารหลายหมื่นนายอยู่เคียงข้าง ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว องค์หญิงควรไปพักผ่อนก่อน เชิญตามสบายเลยขอรับ"
"เสด็จลุง...…" ดูเหมือนหัวจิ้งอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หยุนชางเห็นว่าจิ้งอ๋องเดินอ้อมฉากกั้นเข้ามาแล้ว หลังจากนั้นไม่นานหยุนชางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของหัวจิ้งดังขึ้น นางออกจากค่ายไปแล้ว
"นางมาเพื่อพูดนี้หรือ?" หยุนชางขมวดคิ้ว
"หึหึ ไม่ได้มาเพื่อพูดเรื่องนี้หรอก ข้าเห็นว่าแววตาของนางมองไปรอบๆ ดูเหมือนว่ากำลังมองหาอะไรบางอย่าง ข้าเลยไล่นางออกไป" จิ้งอ๋องทำเสียง หึ และเดินอ้อมออกไปอีกครั้ง "ลั่วติง"
หยุนชางเดินตามออกไป และเห็นผู้ติดตามที่ชื่อลั่วติงเดินเข้ามา จิ้งอ๋องจึงกล่าวว่า "ผู้ติดตามที่หัวจิ้งพาเข้ามาอยู่ที่ใด?"
ลั่วติงพูดอย่างเร่งรีบว่า "ผู้ติดตามผู้นั้นได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงจัดให้พักในค่ายแพทย์ทหารขอรับองค์หญิงเพิ่งไปเยี่ยมเขามาเมื่อสักครู่นี้ขอรับ"
"โอ้?" จิ้งอ๋องหรี่ตาลง "ส่งไปติดตามองค์หญิงหัวจิ้งและผู้ติดตามนั้นเพิ่ม มีเรื่องอะไรให้รายงานข้าทันที" ลั่วติงตอบอย่างรวดเร็วและออกไป หลังจากจบสิ้นเรื่องทั้งหมด ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว จิ้งอ๋องหันหน้าเหลือบมองหยุนชางแล้วพูดว่า " เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะไปดูที่กระโจมรองแม่ทัพก่อน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง