หลี่ฝูยีได้ยินเช่นนั้น แสดงสีหน้าอย่างเก้อเขิน "ทูลองค์หญิง นายทุกองค์ในวังสบายดี เพียงแต่ว่า โดยปกติแล้วหม่อมฉันชอบใส่ชุดขาวก็เท่านั้น"
หยุนชางดูเหมือนจะผงะไป แล้วจึงตบหน้าอกแล้วพูดว่า "โอ้ เป็นเช่นนี้นี่เอง ทำเอาข้าตกใจหมด นึกว่าใครผู้ใดเป็นอะไรไป ท่านคือฝูเหม่ยเหรินใช่หรือไม่? หยุนชางเพิ่งกลับมาจากวิหารแคว้นหนิง เป็นครั้งแรกที่ได้พบฝูเหม่ยเหริน พอดูเช่นนี้แล้ว ช่างอ่อนโยนงดงามจริงๆ แม้แต่ชางเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากทะนุถนอม ไม่น่าแปลกใจที่เสด็จพ่อเอาอกเอาใจเจ้ามากขนาดนี้"
หลี่ฝูยีได้ยินก็ลดศีรษะลงอย่างรวดเร็ว ข้างแก้มดูแดงระเรื่อเล็กน้อย "องค์หญิงชมเกินไปแล้ว หม่อมฉันได้ยินถึงความงามขององค์หญิงอยู่ตลอด วันนี้ได้พบ เพิ่งรู้ว่าในโลกนี้มีหญิงงามดุจนางฟ้ามาโปรดอยู่ด้วย อีกในสองปี พระพักตร์ขององค์หญิง ต้องดึงดูดชายหนุ่มจากทั่วหล้าเป็นแน่"
ยุนช้างยิ้ม แต่ไม่ตอบอะไร และดูเหมือนจะนึกขึ้นได้อย่างกระทันหัน ตบหัวและกล่าวว่า "ดูข้าสิ ลืมไปเลยว่าฝูเหม่ยเหรินยังคุกเข่าอยู่ ยังไม่รีบไปพยุงเหม่ยเหรินลุกขึ้น"
เฉี่ยนอินรีบแสร้งไปช่วยพยุง หลี่ฝูยีก็รีบกล่าวคำขอบคุณ ก่อนจะพูดว่า "ตอนที่หม่อมฉันยังอยู่ที่จวนก็ได้ฟังเรื่องขององค์หญิง โดยบอกว่าแม้องค์หญิงจะทรงพระเยาว์ แต่ยังห่วงใยผู้คนทั่วไป หลังจากเข้าวัง ฝ่าบาทก็ทรงตรัสอยู่ตลอดว่า ทำไมองค์หญิงยังไม่กลับมา ในที่สุดวันนี้ก็ได้พบองค์หญิงแล้ว"
ยุนช้างยิ้มเล็กน้อย ทำอย่างไร้เดียงสา "จริงหรือ?"
ในขณที่กำลังจะพูด ก็เห็นฉินยีถือชามยาเข้ามา หยุนชางไม่สนใจที่จะพูดคุยกับหลี่ฝูยี รีบพูดกับฉินยีว่า "ข้าเพิ่งกินยาเม็ดไป วางยานี้ให้เย็นก่อน เฉี่ยนอินเจ้าช่วยข้าเติมน้ำผึ้งดอกหอมหมื่นลี้ลงในยาหน่อย"
เฉี่ยนอินตอบรับ แต่ฉินยีรีบคว้าเฉี่ยนอินและพูดกับหยุนชางว่า "องค์หญิงเพคะ ไม่ได้นะเพคะ หมอหลวงบอกแล้วว่า การใส่น้ำผึ้งดอกหอมหมื่นลี้ลงไปจะทำให้ตัวยาเจือจาง องค์หญิงท่านต้องทนหน่อย บีบพระนาสิกแล้วดื่มเข้าไปนะเพคะ"
สีหน้าหยุนชางแสดงความกลัว ส่ายหัวซ้ำๆ คว้าแขนเสื้อของฉินยีและพูดอย่างออดอ้อนว่า "ฉินยี ฉินยีคนดี ขอแค่ครั้งนี้ ข้าเพิ่งกินยาเม็ดไป ตอนนี้ในปากยังรู้สึกขมมาก ขอข้าเติมน้ำผึ้งดอกหอมหมื่นลี้เถอะ ครั้งนี้ครั้งเดียวจริงๆ ประเดี๋ยวข้าจะให้คนทำผลไม้เชื่อมให้ข้า" "ผลไม้เชื่อมก็มิควรเสวยมากแล้วนะเพคะ" ฉินยีพูดอย่างท่วงที แล้วก็ถอนหายใจและปล่อยมือเฉี่ยนอินออก เฉี่ยนอินรีบออกจากห้องโถงชั้นใน หยุนชางกล่าวว่า "รู้ว่าฉินยีดีที่สุด ข้าไม่กินมาก ข้าฟังฉินยี"
"ฟังฉินยีอะไรรึ" ทันใดนั้นก็มีเสียงทีน่าเกรงขามมาจากข้างนอก หยุนชางยิ้มและมองไปทางประตู แต่ก็เหลือบมองไปที่ใบหน้าของหลี่ฝูยีที่จู่ๆ ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา
"เสด็จพ่อมาแล้วหรือเพคะ" หยุนชางพูดด้วยรอยยิ้ม เมื่อจักรพรรดิหนิงเสด็จเข้ามา หยุนชางก็กล่าวขึ้นมาว่า "ในวังไม่มีผลไม้เชื่อมแล้ว ข้าบอกให้ฉินยีใส่น้ำผึ้งดอกหอมหมื่นลี้ลงในยา ฉินยีกล่าวว่า ข้ามิควรเสวยมากเกินไป"
จักรพรรดิหนิงขมวดพระขนง เดินไปหาหยุนชาง หยิบยาขึ้นมาดม "ชางเอ๋อร์ไม่สบาย ทำไมยังทานยาอยู่"
หยุนชางยิ้มแล้วกล่าวว่า "ไม่มีอะไรเพคะ แค่รีบร้อนส่งหอยสังข์ขาวกลับวัง กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเดินทาง จึงรีบเดินทาง ร่างกายก็เลยอ่อนหล้าไปบ้างเพคะ แต่ต้มยาแล้ว เสวยยาไปสักสองสามวันก็คงจะดีขึ้นเพคะ"
จักรพรรดิหนิงส่ายหัว "เจ้านี่นะ และไม่บอกข้า ข้าจะได้ส่งคนไปรับเจ้าได้"
ขณะที่กำลังพูดกัน หลี่ฝูยีที่อยู่ข้างๆกล่าวขึ้นว่า "หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท"
จักรพรรดิหนิงหันมาทอดพระเนตร ดูเหมือนว่าเพิ่งเห็นหลี่ฝูยี ยิ้มเล็กน้อย "สนมรัก ก็อยู่รึ"
หลี่ฝูยีกล่าวอย่างรวดเร็วว่า "เพคะ หม่อมฉันได้ยินฝ่าบาทเอ่ยถึงองค์หญิงหยุนชางอยู่บ่อยๆ ทันทีที่ได้ยินว่าองค์หญิงกลับวังแล้ว ก็รีบมาขอเข้าเฝ้าเพคะ"
หยุนชางยิ้มและกล่าวว่า "ชางเอ๋อร์ยังมิได้แสดงความยินดีกับเสด็จพ่อเลยที่มีเหม่ยเหรินอีกท่าน ฝูเหม่ยเหรินงามมากเพคะ"
จักรพรรดิหนิงยิ้มอย่างเก้อเขิน เมื่อได้ยินหยุนชางไอเล็กน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะไม่ขมวดพระขนง และใช้พระเนตรมองไปที่ฝูเหม่ยเหริน รู้สึกเพียงว่าหยุนชางเดินทางมาอย่างไม่หยุดเป็นเวลาครึ่งค่อนวัน และไม่สบาย แต่ฝูเหม่ยเหรินกลับมารบกวนโดยไม่รู้จักกาลเทศะเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมจริงๆ จึงหันไปตรัสกับฝูเหม่ยเหรินว่า "เจ้าไปที่วังของไท่เฟยก่อน เมื่อครู่นางเพิ่งถามถึงเจ้า"
เมื่อฝูเหม่ยเหรินได้ยิน นางก็รีบตอบว่า "หม่อมฉันจะรีบไปเพคะ" หลังจากพูด นางก็คำนับจักรพรรดิหนิงและหยุนชางอีกครั้งก่อนจะถอยออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง