หยุนชางหันศีรษะไปมองจิ้งอ๋อง กลับเห็นว่าสีหน้าของเขาเรียบเฉยราวกับว่าคนที่เตะนางกำนัลนั้นไม่ใช่เขา "จงใจใส่ร้ายองค์หญิง นางกำนัลเช่นนี้จะเก็บไว้ทำไม?"
หน้าผากของมหาเสนาบดีหลี่มีเส้นเลือดปูดโปนขึ้น "จิ้งอ๋อง ท่านอย่าได้รังแกกันมากไปนัก เห็นๆ อยู่ว่าความผิดขององค์หญิงหยุนชางกำลังจะถูกเปิดเผย ท่านต้องการปิดบังให้นางหรือ?"
"ท่านมหาเสนาบดีหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดข้าจึงต้องฆ่าหลานสาวของท่านด้วย? นอกจากนี้ ก่อนจะถึงวันนี้ข้าไม่เคยพบนางมาก่อนด้วยซ้ำ..." หยุนชางเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยและชำเลืองมองจิ้งอ๋องที่อยู่ด้านข้าง
"หึหึ กระหม่อมไม่รู้ว่าท่านจะทำร้ายอิ๋งอิ๋งทำไม? กระหม่อมเพียงรู้ว่าหลักฐานแน่นหนา ท่านต้องบงการให้นางกำนัลของท่านให้เอายาพิษไปป้ายที่ผีผา ทหาร ยังไม่รีบจับตัวนางกำนัลที่ชื่อเฉี่ยนอินนี่ไปอีก!" มหาเสนาบดีหลี่แค่นเสียง นัยน์ตาแฝงแววเย็นชา
"อย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นข้าจะถามท่านมหาเสนาบดีเสียหน่อย บางทีวันนี้นางกำนัลของข้าอาจบังเอิญไปที่หอพระราชสมบัติ แต่ว่าทำไมข้าจึงต้องวางยาพิษไว้ที่ผีผา อีกอย่างเกมนี้ถูกเสนอขึ้นโดยฮองเฮา ท่านพ่อก็เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าแม่นางหลี่จะบังเอิญจับฉลากได้เล่นผีผา?" หยุนชางมองดูสายตาทุกคนที่จ้องมาที่นางต่างก็มีแววคลางแคลงใจ หัวใจของนางก็สงบขึ้นเรื่อยๆ นางจึงนั่งลงและยิ้มกว้าง
นางกำนัลที่ชื่อหยุนซีดูเหมือนจะมีบางอย่างอยากพูด ผ่านไปครู่ใหญ่นางจึงอ้อมแอ้มกล่าวออกมาว่า "ก่อนหน้านี้ฮองเฮายังคงพักฟื้นร่างกายอยู่ ดังนั้นงานเลี้ยงนี้จึงจัดขึ้นโดยไท่เฟยเหนียงเหนียง ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันตอนที่องค์หญิงไปเข้าเฝ้า ไท่เฟยเหนียงเหนียงกำลังหารือเกี่ยวกับการเล่นเกมนี้กับสนมคนอื่นๆ อยู่..."
หยุนชางหรี่ตาลง โอ้ นี่หมายความว่านางรู้ว่าจะมีเกมนี้อยู่แล้วตั้งแต่ตอนนั้น ดังนั้นจึงมีเวลาทำอะไรกับกระบอกฉลากงั้นสิ
ไม่รู้ว่าใครในฝูงชนพูดอีกครั้งว่า "เมื่อครู่ราวกับว่าแม่นางหลี่จะสนใจจิ้งอ๋อง หากองค์หญิงหยุนชางชอบจิ้งอ๋อง หรือว่า..."
"หรือว่าอะไร? หรือว่าจะอิจฉา? หรือว่าจะหึงหวง? หรือว่าเพราะเหตุนี้เองจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะกำจัดคู่แข่งที่มีศักยภาพนี้?" หยุนชางพูดไปเรื่อยๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา "ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าจินตนาการของแม่นางและคุณชายทั้งหลายในเมืองหลวงนี้จะล้ำเลิศได้ถึงเพียงนี้..."
มหาเสนาบดีหลี่โกรธจัด "องค์หญิงฮุ่ยกั๋ว ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ท่านบอกว่าท่านไม่ได้เป็นคนวางยาอิ๋งอิ๋ง ท่านก็แสดงหลักฐานออกมาสิ!"
"หลักฐาน?" หยุนชางเงยหน้าขึ้นยิ้มแล้วเดินไปหาสาวใช้ในวังชื่อเชว่เอ๋อร์ มองดูสีหน้าเจ็บปวดของนาง โน้มตัวลงเล็กน้อย เมื่อกำลังจะพูดก็ได้ยินเสียงตวาดของมหาเสนาบดี "องค์หญิงหยุนชาง ท่านก็ต้องการฆ่านางกำนัลที่เป็นพยานผู้นี้หรือ? มีคนมากมายที่นี่กำลังเฝ้าดูอยู่..."
หยุนชางไม่สนใจและเดินตรงไปหาเชว่เอ๋อร์แล้วกล่าวว่า "วันนี้นอกจากทำความสะอาดเครื่องดนตรีในหอพระราชสมบัติแล้วเจ้าไปไหนมาอีก?"
เชว่เอ๋อร์ไอเล็กน้อยราวกับว่าความเจ็บปวดอันน่าอึดอัดนั้นมาจากเท้าของจิ้งอ๋อง"หม่อมฉันอยู่ที่หอพระราชสมบัติทั้งวัน มีเพียงเมื่อครู่เท่านั้นที่ถูกทหารนำตัวมาที่นี่"
"งั้นหรือ? จะไม่ลองคิดดูอีกหน่อยหรือ??" หยุนชางยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ
เชว่เอ๋อร์ก้มหน้าลงปกปิดแววร้อนรนในดวงตาของนาง "หม่อมฉันอยู่ที่หอพระราชสมบัติตลอด..."
หยุนชางยิ้มบางๆ "หอพระราชสมบัติหรือ แต่ข้าจำได้ว่าดูเหมือนจะมีเพียงหอเหมยอิ่งเท่านั้นที่มีดอกบ๊วย เจ้าไม่ได้ไปหอเหมยอิ่งแล้วทำไมที่รองเท้าของเจ้าถึงได้มีกลีบดอกบ๊วยเล่า?" ตอนที่จิ้งอ๋องถีบนางจนกระเด็นเมื่อครู่ หยุนชางจึงได้เห็นว่าที่ใต้รองเท้านางมีกลีบดอกบ๊วยอยู่ ในใจจึงเริ่มเชื่อมโยงได้บ้าง
เชว่เอ๋อร์สะดุ้งเล็กน้อยเเล้วจึงพูดเสียงเบา "หม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ทราบ บางทีอาจมีใครไปที่หอเหมยอิ่งแล้วเหยียบกลีบดอกบ๊วยมาทำหล่นอยู่ข้างทาง ข้าไม่ทันระวังจึงไปเหยียบเข้า"
หยุนชางยิ้มบางๆ และเดินไปด้านหน้าหยุนซีอีกครั้ง "ข้าไม่เคยเห็นเจ้าอยู่กับไท่เฟยเหนียงเหนียง ที่ตำหนักฉางชุนเจ้าทำหน้าที่อะไรหรือ?"
นางกำนัลคนนั้นรีบตอบว่า "ข้าคอยรับใช้อยู่นอกตำหนักเพคะ"
"หือ? นอกตำหนัก นอกตำหนักก็ได้ยินสิ่งที่เรากำลังพูดหรือ? เช่นนั้นเจ้าบอกข้ามาว่าในเช้าวันนี้ไท่เฟยเหนียงเหนียงพูดอะไร? หือ?" หยุนชางยิ้มบางๆ
หยุนซีตัวสั่นเทิ้มไปทั้งตัว "หมะ หม่อมฉัน...ลืมไปแล้ว"
"หืม? ลืมแล้ว? วันนี้ตอนเช้าพูดเรื่องอะไรไปกลับจำไม่ได้แล้ว แต่เรื่องวิธีเล่นเกมสำหรับคืนนี้แล้วกลับจำได้เยี่ยมมาก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง