จิ้งอ๋องไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า " หลังจากเทศกาลท่าชิงแล้ว ข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่วังด้วยตัวข้าเอง สองสามวันนี้เจ้าก็อย่าได้ออกวัง เหตุการณ์หนึ่งคือในจดหมายของจางเจียชิงซูนั้นคนที่เขาประสงค์สมรสคือเจ้า และเขาไม่ทราบว่าได้ถูกเปลี่ยนเป็นหัวจิ้งแทนแล้ว ข้าเกรงว่าเขาจะประสงค์ร้ายต่อเจ้า ประการที่สอง ในเมื่อชางเจียชิงซูมาถึงที่เมืองหลวงแล้ว เราก็ไม่ทราบว่าแคว้นเซี่ยได้มีการเคลื่อนไหวใดๆหรือไม่ ช่วงเวลานี้เมืองหลวงอาจจะวุ่นวายเล็กน้อย"
"การที่หม่อมฉันอยากออกวังนั้น มิใช่เรื่องง่ายแต่อย่างใดเพคะ" หยุนชางกล่าวจบ ก็หลับตาลงและไม่สนใจจิ้งอ๋องอีกต่อไป แม้ว่าเมื่อสักครู่นี้ด้วยเหตุของชางเจียงชิงซู ตนได้ปฏิบัติต่อจิ้งอ๋องดีขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่า ตนจะปฏิบัติต่อเขาอย่างดีจริงๆ
เกวียนม้าแล่นไปครู่หนึ่งจึงหยุดลง จิ้งอ๋องทรงเปิดประตูและกระโดดลงไปก่อน ขณะที่หยุนชางเดินออกไปก็พบว่าจิ้งอ๋องยืนอยู่ข้างๆและยื่นมือไปหาหยุนชาง
หยุนชางขมวดคิ้วและกำลังจะปฏิเสธ เพื่อที่จะกระโดดลงไปด้วยตนเอง และก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมา "องค์หญิงเสด็จแล้วหรือ? พวกเรารออยู่นานแล้วนะเพคะ"
หยุนชางเงยหน้าขึ้นและเห็นหวังจิ้นฮวนในชุดสีแดงกำลังเดินเข้ามาหาตน โดยมีหญิงสาวหลายคนตามหลังมา
หยุนชางถอนหายใจ แล้วจึงวางมือไว้ในมือของจิ้งอ๋อง และให้เขาช่วยพยุงตนลงจากเกวียน หยุนชางเงยหน้าขึ้นและเห็นว่านี่เป็นเนินเขา สงสัยจะถูกใช้สำหรับเทศกาลท่าชิง เพราะฉะนั้นทางจึงเรียบและกว้างมาก
จิ้งอ๋องพยุงตัวหยุนชางไว้ แล้วหันไปขมวดคิ้วและเหลือบมองหญิงสาวที่ตามหลังหวังจิ้นฮวนมา พร้อมกล่าวด้วยความเสียดสีเล็กน้อย "เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ก็มีหญิงสาวมาล้อมรอบตัวเจ้าเช่นนี้ เจ้าช่างเนื้อหอมเสียจริง"
หวังจิ้นฮวนเงยหน้าขึ้นและลูบผม ยิ้มและกล่าวว่า " หึหึ เจ้าไปนานเช่นนี้ ข้าอยู่ที่นี่เดียวเหงาเหลือเกิน ข้าพบคุณชายสามเวินชิงจู๋ของรองเจ้ากรมมหาดไทยที่นี่พอดี จึงชวนท่านมาเล่นด้วยกัน แต่ไม่ทราบว่าท่านจะพาเหล่าสาวๆมาเยอะเช่นนี้ สุดท้ายจึงกลายเป็นแบบนี้"
เวินชิงจู๋? แสดงว่าหญิงสาวที่เย็นชาผู้นั้นก็อยู่ที่นี่ด้วยล่ะสิ? จึงเงยหน้ามอง และพบหญิงสาวผู้นั้นเอนกายอยู่ใต้ต้นไม้อยู่ที่ไกลๆและกำลังมองมาที่ตน พร้อมรอยยิ้มที่ดูเยาะเย้ยเล็กน้อย
ช่างเป็นสาวงามที่มีพิษภัยเสียจริง
"หม่อมฉันขอถวายบังคมจิ้งอ๋องเพคะ" หญิงสาวที่อยู่ด้านหลังของหวังจิ้นฮวนกล่าวด้วยท่าทีเขินอาย แล้วโน้มตัวลง จิ้งอ๋องพยักหน้าอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "นี่คือองค์หญิงฮุ่ยกั๋ว พวกเจ้าก็คารวะพร้อมกันเลยแล้วกัน"
หญิงสาวหลายคนกำลังแอบมองหยุนชาง และแอบคาดเดาสถานะของนางอยู่ในใจ เมื่อเห็นจิ้งอ๋องกล่าวเช่นนี้ ต่างก็ตกตะลึงอย่างมากและรีบถวายบังคม " หม่อมฉันถวายบังคมองค์หญิงเพคะ"
หยุนชางพยักหน้าและกล่าวว่า "วันนี้เป็นวันเทศกาลอยู่แล้ว และข้าเองก็มาเที่ยวเล่นเช่นนี้ ทุกคนมิต้องพิธีรีตองมากนักก็ย่อมได้"
จิ้งอ๋องจ้องมองไปที่หยุนชางด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนอย่างมาก "เมื่อวานนี้ข้าทำว่าวกระดาษให้เจ้าด้วยมือของข้าเอง ข้าให้คนไปนำมาประเดี๋ยวนี้ เจ้าดูซิว่าโปรดหรือไม่?"
ว่าวกระดาษหรือ? หยุนชางแอบสะอื้นอยู่ในใจ อย่าเลย อายุของนางเมื่อนำทั้งชาติก่อนและชาตินี้มารวมกันก็เกือบจะสี่สิบแล้ว ยังจะเล่นว่าวกระดาษอยู่หรือ? ทันใดนั้นนางก็ส่ายหัวและกล่าวว่า "พระวรกายของหม่อมฉันมิค่อยแข็งแรง หรือว่า... " หยุนชางจ้องมองไปที่หวังจิ้นฮวนซึ่งยิ้มอย่างมีเล่ศนัย จึงยิ้มมุมปากและกล่าวต่อว่า "ให้คุณชายอ๋องเล่นให้พวกเราดูกันเถิด หม่อมฉันเห็นภาพที่คุณชายช่วยทุกคนปล่อยว่าวกระดาษ คุณชายดูช่ำชองอย่างมาก แม้ว่าหม่อมฉันจะไม่สามารถเล่นเองได้ แต่ก็ดีที่ได้เห็นเพคะ"
จิ้งอ๋องหัวเราะดังลั่นเมื่อได้ยินเช่นนี้ "เอาล่ะ เช่นนี้ก็ให้คุณชายเล่นให้เราดูแล้วกัน"
ทุกคนไม่เคยได้พบจิ้งอ๋องทรงหัวเราะอย่างมีความสุขเช่นนี้ ทันใดนั้นทุกคนต่างก็ตะลึง ผ่านไปอยู่นานหวังจิ้นฮวนจึงกล่าวว่า "เหตุใดจึงอยากให้กระหม่อมเป็นคนเล่นขอรับ? ลั่วชิงเหยียนก็เล่นได้มิใช่หรือ?"
จิ้งอ๋อง? หยุนชางหันไปมองที่จิ้งอ๋อง ส่ายหัวแล้วกล่าวว่า "ช่างมันเถิด ท่านอายุมากแล้ว ให้ท่านมาวิ่งมากระโดดเล่นว่าวกระดาษเช่นนี้ คงจะตลกอย่างมาก"
เมื่อหวังจิ้นฮวนได้ยินเช่นนี้ ก็อดที่จะคิดภาพที่จิ้งอ๋องปล่อยว่าวขึ้นมาในหัวมิได้ ทันใดนั้นเขาก็ชะงัก และไอเบาๆไปสองที จึงได้กล่าวต่อหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังว่า า "สาวๆ เราไปปล่อยว่าวกระดาษกันเถิด!"
จิ้งอ๋องมองดูหวังจิ้นฮวนพาหญิงสาวเหล่านั้นออกไป เขาก็เอนตัวเข้าที่ข้างหูของหยุนชางและกล่าวว่า " ชางเอ๋อร์ชังที่ข้าอายุเยอะหรือ?"
หยุนชางขมวดคิ้วและมิได้สนใจเขา
"หม่อมฉันน้อมถวายบังคมท่านจิ้งอ๋องและองค์หญิงขอรับ" เสียงของชายผู้หนึ่งดังมาจากข้างหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง