เพียงแต่การถอนรากถอนโคนตระกูลหลี่นั้นไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน
หยุนชางครุ่นคิดในใจอยู่นานก่อนจะกระซิบเบาๆ "ข้าคิดถึงสิ่งที่ท่านพูดในคืนนั้นอยู่หลายวัน ข้าตัดสินใจว่าจะลองเปิดใจยอมรับท่าน"
มือที่พลิกหนังสือของจิ้งอ๋องหยุดชะงัก ผ่านไปครู่ใหญ่เขาจึงตอบรับ "ดี"
หือ? หยุนชางตะลึงงัน แค่นี้เองหรือ?
รออยู่นานก็ไม่มีคำพูดอื่นใด หยุนชางก้มศีรษะลง เย็นชาจริงๆ จึงไม่ได้เห็นมุมปากของจิ้งอ๋องที่ยกขึ้นเล็กน้อยและดวงตาพราวระยับไปด้วยรอยยิ้ม
ใช้เวลากว่าครึ่งวันจึงจะถึงเมืองหลวง จิ้งอ๋องส่งหยุนชางกลับไปที่พระราชวังและพบกับฮ่องเต้ก่อนจะกลับไป
ทันทีที่หยุนชางกลับมาถึงตำหนักชิงซินก็ได้ยินเสียงกรีดร้องตกใจ "องค์หญิงกลับมาแล้ว องค์หญิงกลับมาแล้ว..."
แล้วจากนั้นฉินยีและเฉี่ยนอินก็วิ่งออกมาจากตำหนัก สีหน้าไม่สู้ดีนัก หยุนชางแอบร้องในใจว่าแย่แล้ว จากนั้นก็ถูกเฉี่ยนอินดึงกลับไปที่ตำหนักใน
หยุนชางถูกกดให้นั่งลงบนเก้าอี้ ฉินยีและเฉี่ยนอินยืนอยู่ข้างหน้าหยุนชาง มองหยุนชางอย่างด้านบน เฉี่ยนอินพ่นลมหายใจออกมา "องค์หญิง วันนั้นที่ให้หม่อมฉันปลอมเป็นองค์หญิงแกล้งป่วย แต่ท่านกลับไปแล้วไม่กลับมา รู้ไหมว่าหม่อมฉันและพี่ฉินยีกังวลและหวาดกลัวเพียงใด? เห็นว่าองค์หญิงยังไม่กลับมาเสียที หม่อมฉันเกือบจะบุกเข้าไปในจวนองค์หญิงแล้ว โชคดีที่หม่อมฉันยังมีความยับยั้งชั่งใจอยู่บ้างจึงไปหาพี่หนิงเชียน จึงได้รู้ว่าจิ้งอ๋องพาองค์หญิงไปแล้ว แต่ไปหม่อมฉันไปหาจิ้งอ๋อง จิ้งอ๋องกลับบอกว่าองค์หญิงจากไปนานแล้ว องค์หญิงแกล้งหม่อมฉันเล่นแบบนี้สนุกไหมเพคะ?"
หยุนชางยิ้มแห้งพร้อมแววตาขอโทษ "ขอโทษที คราวหน้าจะไม่เป็นอย่างนี้อีก คราวนี้เกิดเรื่องขึ้นกะทันหัน ข้าเลยไม่ได้คิดอะไรให้รอบคอบ"
ฉินยีก็ถอนหายใจเช่นกัน "ต่อไปองค์หญิงไม่ต้องคิดจะสลัดพวกเราทิ้งเลย ต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หม่อมฉันและเฉี่ยนอินจะต้องอยู่ข้างกายท่านหนึ่งคน มิเช่นนั้นเราคงวางใจไม่ได้" หยุนชางรีบพยักหน้าตกลง เฉี่ยนอินและฉินยีจึงยอมหยุด
"องค์หญิงเดินทางมาเกือบทั้งวันคงจะเหนื่อยมาก หม่อมฉันจะไปเอาน้ำมาให้ องค์หญิงล้างหน้าทำผมเสียหน่อยและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียเถิด" ฉินยียิ้มบางๆแล้วเดินออกจากตำหนักไป
เฉี่ยนอินเข้ามาที่ข้างกายของหยุนชางและกล่าวว่า "องค์หญิง ฮองเฮาถูกปล่อยตัวแล้วเพคะ"
หยุนชางพยักหน้า "เมื่อตอนที่ข้าอยู่ในรถก่อนหน้านี้ จิ้งอ๋องบอกข้าแล้ว"
"แต่คราวนี้หลังจากที่ฮองเฮาถูกปล่อยตัวแล้ว หม่อมฉันรู้สึกว่านางดูเปลี่ยนไปมาก" เฉี่ยนอินขมวดคิ้ว ดวงตาของนางฉายแววกังวลเล็กน้อย
หยุนชางหันไปมองเฉี่ยนอิน "หือ? เรื่องนี้เป็นอย่างไร?"
เฉี่ยนอินลดเสียงลงอีกเล็กน้อย "สาวใช้รู้สึกว่านางดูสงบเงียบกว่าเมื่อก่อน เมื่อไม่กี่วันก่อน เจาอี๋ที่เข้าวังมาใหม่ถูกฮ่องเต้เรียกรับใช้เป็นเวลาสามวันติดต่อกันนางจึงตื่นสาย พลาดการไปถวายพระพรฮองเฮา แม้แต่นางสนมหลายคนก็เข้าข้างฮองเฮา บอกว่าเจาอี๋เหนียงเหนียงไม่เห็นฮองเฮาอยู่ในสายตา หากเป็นแต่ก่อนแม้ว่านางจะอดทนไม่บันดาลโทสะออกมาแต่อย่างน้อยก็ต้องพูดจาเสียดสีบ้างสักหน่อย แต่ฮองเฮาเพียงยิ้มและบอกว่าเจาอี๋ทำงานหนักมาตลอดในช่วงสองสามวันมานี้ ตื่นสายก็เป็นปกติเช่นกัน แล้วยังเลื่อนยศให้เจาอี๋อีก"
หยุนชางครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "ปฏิกิริยาเช่นนี้ของนางก็เป็นไปตามที่ข้าคาดไว้ หลิวชิงหย่าเดิมเป็นน้องสาวของจอหงวนคนใหม่ พื้นเพของจอหงวนคนใหม่นี้ก็ค่อนข้างเรียบง่าย วันนั้นที่ฮองเฮาเลือกหลิวชิงหย่าเป็นเจาอี๋ก็เพราะมองจุดนี้ ในวังหลังมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาอย่างไรฮ่องเต้ก็คงไม่สนใจนาง แทนที่จะหาคนที่มีภูมิหลังมาแข่งขันกับนาง การสนับสนุนคนที่ไม่มีภูมิหลังเช่นหลิวชิงหย่าจะดีกว่า อีกทั้งหลิวชิงหย่าก็จะรู้สึกขอบคุณนางมากอีกด้วยและฮองเฮาจะสามารถใช้ประโยชน์จากนางได้"
เฉี่ยนอินยังคงส่ายหัว "แต่หม่อมฉันรู้สึกว่าฮองเฮาเปลี่ยนไปมากจริงๆ หม่อมฉันจะอธิบายออกมาเป็นข้อๆ ก็ไม่ได้ เพียงแต่รู้สึกว่านิสัยของนางเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง รอองค์หญิงพบนางก็จะรู้เองว่าทำไมหม่อมฉันจึงได้กล่าวเช่นนี้"
หยุนชางพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม "เมื่อเจ้าพูดแบบนี้ ข้าชักรอไม่ไหวแล้วที่จะไปพบนาง เมื่อข้าเตรียมตัวเสร็จแล้วก็ควรจะไปพระราชวังชีอู๋เพื่อถวายพระพรเสียหน่อย ตอนนี้นางคงเกลียดข้าเข้าเข้ากระดูกดำไปเสียแล้วกระมัง"
"องค์หญิง เตรียมน้ำเรียบร้อยแล้วเพคะ องค์หญิงเสด็จไปอาบน้ำที่ห้องสรงเถอะเพคะ" ฉินยีเดินเข้ามาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
หยุนชางพยักหน้าแล้วยิ้มเดินเข้าไปในห้องสรงโดยฉินยีช่วยนางถอดเสื้อผ้า นางก้าวลงไปในอ่างอาบน้ำ "เสด็จแม่อยู่ที่วังเฟิ่งไหลอย่างสบายดี ท้องของนางใหญ่กว่าเมื่อก่อนมาก อีกไม่นานก็คงจะคลอดแล้ว"
ฉินยีได้ยินคำพูดนั้นนางก็ยิ้มกว้างเต็มใบหน้า "เช่นนั้นหม่อมฉันก็วางใจ นายเก่าก็อยู่ที่นั่น มีนายเก่าคอยดูแลนายท่านต้องไม่เป็นอะไรแน่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง