เสียงกลองดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งที่สองนี้ดอกไม้ตกอยู่ในมือของหญิงสาวที่สวมชุดสีแดงเข้ม หยุนชางเงยหน้ามองและอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ เป็นจิ่งเหวินซีจอมก่อเรื่องนั่นเอง
จิ่งเหวินซีเบิกตาทั้งสองกว้าง ดวงตาของนางชื้นราวกับกระต่ายที่กำลังหวาดกลัว "ว้า วันนี้ซีเอ๋อร์โชคไม่ดีเลย หวังว่าบทลงโทษจะไม่ยากจนเกินไปนัก"
จิ่งเหวินซีเดินไปจับฉลากแล้วกวาดมองอย่างรวดเร็ว สีหน้านางเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาด เมื่อทุกคนเห็นดังนั้นก็มุงเข้ามาดูและเห็นว่าบนฉลากเขียนว่า "บอกมาว่าชายที่เจ้าชอบคือใคร?"
เขียนด้วยลายมือที่ดูแล้วเต็มไปด้วยอิสระ ในขณะที่จิ่งเหวินซีกำลังรู้สึกเขินอายก็ได้ยินหวังจินเหยียนหัวเราะเสียงดัง "อันนี้ข้าเขียนเอง กำลังคิดอยู่เลยว่าใครจะเป็นผู้จับได้ไป ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแม่นางจิ่ง ไม่เป็นไรหรอก อย่างไรพวกเราก็ใช่ว่าจะเก็บความลับไม่อยู่ เจ้าพูดออกมาเถอะ"
จิ่งเหวินซีหน้าซีดลงเล็กน้อย นางยืนนิ่ง ปลายจมูกเริ่มแดง
"หืม? หรือว่าแม่นางจิ่งไม่กล้าพูด แต่ก็จริง อย่างไรก็เป็นความลับของตนเอง แม่นางจิ่งก็ยังไม่ได้แต่งงาน เอ่ยออกมาก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใดนัก" หวังจินเหยียนขมวดคิ้วและลูบปลายจมูกอย่างแผ่วเบา
ทันทีที่สิ้นเสียงกลับมีเสียงหัวเราะเยาะดังแว่วมา "นางก็คงจะไม่สะดวกอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่ใช่เพราะนางไม่เต็มใจจะเอ่ยออกมาหรือเพราะนางขี้อาย แต่เพราะคนที่นางชอบหมั้นไปเสียแล้ว และคู่หมั้นของเขาก็กำลัง... "
ยังไม่ทันที่เสียงที่ส่อแววเสียดสีเล็กน้อยนั้นจะพูดจบก็เห็นแววตาโกรธเคืองของจิ่งเหวินซี และพุ่งตัวไปที่หญิงคนนั้น "เวินหยูอวี้ ข้าไปทำอะไรให้เจ้า เจ้าถึงได้พุ่งเป้ามาหาข้าไปเสียทุกเรื่อง?"
บรรยากาศเริ่มแข็งกระด้างขึ้นในทันที แต่หลายคนก็แอบสงสัยว่าจิ่งเหวินซีชอบผู้ใด ในที่นั้นมีผู้หญิงที่หมั้นแล้วอยู่ไม่น้อย ยังไม่ได้แต่งงาน สามีในอนาคตก็เป็นที่ปรารถนาของผู้อื่นไปเสียแล้ว เรื่องนี้ช่างไม่น่าอภิรมย์เลยจริงๆ
เวินหยูอวี้แค่นเสียงแล้วเลิกคิ้ว "ทำไม กล้าชอบแต่ไม่กล้าพูดงั้นหรือ? เจ้าก็ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตนเองเสียเลย คิดหรือว่าจิ้งอ๋องจะชอบเจ้า?"
จิ้งอ๋อง... ทุกคนต่างก็ได้ยินคำสำคัญที่ออกมาจากปากของเวินหยูอวี้ ที่แท้คนที่จิ่งเหวินซีชอบก็คือจิ้งอ๋อง? ทุกคนลอบมองดูหยุนชางอย่างเงียบๆ แต่กลับเห็นว่าหยุนชางดูเฉยเมยราวกับไม่ใส่ใจ แววตาของนางยังคงดูอ่อนโยนและเสียงของนางก็สงบนิ่ง "แม่นางทั้งสอง วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของเสด็จอา ขอแม่นางทั้งสองอย่าได้นำความแค้นส่วนตัวมาพูดกันที่นี่เลย"
เมื่อทุกคนเห็นหยุนชางวางตัวนิ่งเฉยจึงไม่พูดอะไร เพียงแต่ก็คงไม่สามารถเล่นสนุกกันต่อไปได้อีกเช่นกัน คนรู้จักของจิ่งเหวินซีและเวินหยูอวี้ต่างก็พาทั้งสองไปนั่งลง เมื่อนั่งลงก็ได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดร้องดังมาจากจากทางทิศตะวันออก
หยุนชางขยับตัวและกระตุกรอยยิ้มเย็นที่มุมปาก
"องค์หญิง เกิดเรื่องขึ้นหรือเพคะ? ข้าจำได้ว่าเมื่อครู่จิ้งอ๋องให้พ่อบ้านพาฮ่องเต้ไปพักที่เรือนทางตะวันออก เสียงนี้ดูเหมือนจะมาจากห้องทางตะวันออก..." พระชายาซื่อจื่อหน้าซีดก้าวเข้ามาอย่างรีบร้อน
จักรพรรดิหนิงกำลังพักอยู่ทางด้านตะวันออกของจวน หากเกิดอะไรเกิดขึ้น พวกเขาจะต้องพลอยติดร่างแหไปด้วยอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้เช่นนี้สีหน้าทุกคนก็ดูไม่ค่อยดีนัก
หยุนชางใคร่ครวญครู่หนึ่งและมองไปทางทิศตะวันออก "ไปดูกันเถอะ" นางพูดพลางเรียกเฉี่ยนอิน "จิ้งอ๋องอยู่ด้านหน้าไม่แน่ว่าอาจจะยังไม่รู้เรื่อง เจ้าไปที่ลานด้านหน้าแล้วบอกให้เขารู้ที"
หลังเฉี่ยนอินรับคำและจากไปแล้ว หยุนชางก็พาทุกคนเดินตามทิศทางของเสียงนั้นไป
เมื่อหยุนชางเดินมาถึงที่ประตูสู้เรือนตะวันออกก็เห็นจิ้งอ๋องและแขกเดินมาจากลานหน้าบ้านเช่นกัน หยุนชางจึงรีบเข้าไปรับหน้าและกล่าวว่า "เสด็จอา ในจวนไม่มีองครักษ์หรือเพคะ? รู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง