หลังจากที่จักรพรรดิหนิงจากไปแล้วทุกคนก็ลุกขึ้น แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง "ว้าย" เมื่อทุกคนหันกลับมาก็เห็นว่าดูเหมือนชางยางอวี้เอ๋อร์จะรีบลุกขึ้นเกินไป เสื้อผ้าที่นางคลุมไว้ก็หล่นลงพื้นอีกครั้งจึงได้กรีดร้องออกมา เมื่อเห็นทุกคนมองมาที่นางอีกครั้ง ใบหน้าของนางก็ซีดเผือดและรีบวิ่งเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจสิ่งใดอีก
"อุ๊บ ฮ่าๆ..." ไม่รู้ว่าใครอดไม่ได้หัวเราะออกมา หยุนชางกวาดตาไปแต่ก็ไม่เห็นว่าเป็นใคร นางเห็นแต่เพียงทุกคนในตระกูลหลี่ที่กำลังหน้าดำคร่ำเครียด...
"จิ้งอ๋อง เรื่องในวันนี้หม่อมฉันล่วงเกินแล้ว จิ้งอ๋องโปรดยกโทษให้ข้าหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันขอตัวกลับก่อน" อัครมหาเสนาบดีประสานมือคารวะและสะบัดตัวจากไป
เมื่อคนในจวนหลี่เห็นดังนั้นก็ไม่กล้าอยู่ต่อ เกรงว่าหากพวกเขาอยู่ต่อแม้เพียงชั่วครู่ก็อาจจะเสียมารยาทได้ จึงรีบตามหลังอัครมหาเสนาบดีจากไป
ทันทีที่เขาจากไปแล้ว ผู้ที่เหลืออยู่ต่างก็ร่ำลากันอย่างรู้สถานการณ์ หยุนชางยืนอยู่ข้างกายของจิ้งอ๋องและกล่าวคำอำลาทีละคน หลังจากนั้นไม่นานก็เหลือเพียงหวังจินเหยียนและหวังจิ้นฮวน ทั้งสองคนหัวเราะออกมาเสียงดัง หยุนชางสีหน้าเคร่งขรึม ชี้นิ้วไปยังห้องด้านหลังราวอยากบอกว่าชางยางอวี้เอ๋อร์ยังคงอยู่ด้านในนั้น อย่าเพิ่งเสียกิริยาไป
จิ้งอ๋องหันกลับมาเหลือบมอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ "ข้าเห็นว่าที่นี่สกปรก ไปนั่งที่เรือนรับรองด้านหน้าเถอะ ข้าจะให้คนไล่นางออกไปแล้วรื้อหอนี้ออก" แล้วเขาก็สาวเท้ามุ่งไปยังห้องโถงด้านหน้าจวน
หวังจิ้นฮวนเดินตามไปพาดมือลงบนไหล่ของจิ้งอ๋องและพูดอะไรบางอย่างแล้วหัวเราะคิกคัก จิ้งอ๋องยกมือขึ้นปัดมือของเขาทิ้ง แต่หวังจิ้นฮวนเป็นคนหน้าด้านหน้าทน ผ่านไปสักพักเข้าก็เอามือพาดอีก หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย อาการบาดเจ็บของเขา...
"องค์หญิง พวกเราก็ไปนั่งพักที่นั่นสักครู่เถอะเพคะ" นางพูดพลางเขาลดเสียงลง "เมื่อครู่ท่าทางน่ารังเกียจของชางยางอวี้เอ๋อร์นั้นช่างน่าสะใจเสียจริง องค์หญิง ผู้ที่ปรารถนาในตัวท่านอ๋องของท่านเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ท่านดีใจหรือไม่?"
หยุนชางมองนางพร้อมรอยยิ้มกว้างแล้วถลึงตามองนางเล็กน้อย "เหลวไหล"
ที่เรือนรับรองด้านหน้า พี่น้องตระกูลหวังหัวเราะกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะจากไปอย่างพอใจ จึงเหลือเพียงหยุนชางและจิ้งอ๋องเท่านั้นและพวกเขาก็เงียบไป
จิ้งอ๋องถอนหายใจและเงยหน้าขึ้นมองหยุนชาง "เจ้านี่จริงๆ เลย บ้าระห่ำยิ่งนัก!"
หยุนชางเงยหน้าขึ้นมองและยิ้มจนตาหยี ทำให้จิ้งอ๋องใจอ่อนลงและไม่ต่อว่านางอีกต่อไป เขาเพียงพูดว่า "คราวหน้าเจ้าอย่าได้เอาแต่ใจเช่นนี้อีก วันนี้อัครมหาเสนาบดีไม่ได้ตรวจสอบหาความจริง เขาย่อมรู้เป็นธรรมดาว่าเขาถูกวางยา หากเมื่อครู่เขาบอกว่าจะสืบสวนละก็เกรงว่าจะสืบมาถึงตัวเจ้าได้ตั้งนานแล้ว เจ้ายังกล้า ไม่ได้เตรียมการอะไรก็กระทำการเช่นนี้ขึ้นอย่างปุบปับ ได้ยินพ่อบ้านบอกว่าเจ้ายุ่งอยู่ตลอดเวลา ทำไมเจ้ายังมีแก่ใจคิดถึงเรื่องแบบนี้ได้อีก?"
"เสด็จอาพูดอะไรเช่นนี้ คนที่นำทางเสด็จพ่อเป็นพ่อบ้านในจวนของท่าน หากเสด็จอาไม่ได้จงใจให้เขาพาไปผิดห้องแล้วชางเอ๋อร์จะประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง